ส่งออกอัญมณีรอบ 8 เดือนลดลง 6.19% คาด 4 เดือนหลังน่ามียอดเพิ่มขึ้น

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่งออกอัญมณีรอบ 8 เดือนลดลง 6.19% คาด 4 เดือนหลังน่ามียอดเพิ่มขึ้น

Date Time: 7 ต.ค. 2561 22:20 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • สถาบันอัญมณีฯ เผยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ 8 เดือน มีมูลค่า 7.8 พันล้านเหรียญฯ ลดลง 6.19% เผยแนวโน้มส่งออกยังดี หลังคู่ค้าฟื้นตัว แต่ต้องระวังนโยบายสหรัฐฯ ค่าบาท พฤติกรรมผู้บริโภค...

Latest


สถาบันอัญมณีฯ เผยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ 8 เดือน มีมูลค่า 7.8 พันล้านเหรียญฯ ลดลง 6.19% เผยแนวโน้มส่งออกยังดี หลังคู่ค้าฟื้นตัว แต่ต้องระวังนโยบายสหรัฐฯ ค่าบาท พฤติกรรมผู้บริโภค...

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2561  นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่อประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 61 ว่า มีมูลค่า 7,893.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 6.19% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 250,839.82 ล้านบาท ลดลง 13.43% แต่หากหักทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนออก จะมีมูลค่า 4,855.28 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 7.83% และเป็นเงินบาทมูลค่า 154,311.30 ล้านบาท ลดลง 0.58% ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาการส่งออกเป็นรายสินค้า พบว่า เครื่องประดับทอง เพิ่ม 10.57% เครื่องประดับเงิน เพิ่ม 3.60% เครื่องประดับแพลทินัม เพิ่ม 2.51% ส่วนเพชรเจียระไน พลอยเนื้อแข็ง และพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่มขึ้น 5.94% , 1.98%และ 7.77% ตามลำดับ

สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก พบว่า กัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 มีอัตราการเติบโตสูงสุด 138.44% จากการส่งออกทองคำเพิ่มขึ้น รองลงมา คือ สหรัฐฯ ตลาดอันดับ 4 เพิ่ม 13.67% จากการส่งออกเครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง รวมถึงพลอยเนื้อแข็ง เพชร และเครื่องประดับเทียมเพิ่มขึ้น เยอรมนี ตลาดอันดับ 5 เพิ่ม 23.95% จากการส่งออกเครื่องประดับเงินเป็นหลัก ส่วนตลาดอันดับ 1 และ 2 คือ สวิสเซอร์แลนด์และฮ่องกง ลดลง 48.49% และ 7.61% โดยสวิสเซอร์แลนด์มีการส่งออกทองคำ ซึ่งมีสัดส่วนถึง 85% ของการส่งออกลดลง 52.56% แต่เครื่องประดับทอง พลอย ยังเพิ่มขึ้น 7.14% และ 5.27% ขณะที่ฮ่องกง เป็นการลดลงจากการส่งออกเครื่องประดับทอง พลอย และเครื่องประดับเงินลดลง 4.55% , 1.65% และ 42.83% แต่เพชร สูงขึ้น 1.71%

ขณะที่ตลาดอื่นๆ สหภาพยุโรป เพิ่ม 11.30% มาจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกเครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง และเพชร ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุโรป ตะวันออกกลาง เพิ่ม 14.47% จากการส่งออกเครื่องประดับทอง ที่ขยายตัวได้ดีในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และคูเวต อินเดีย เพิ่ม 14.10% จากการส่งออกเพชรได้เพิ่มขึ้น รวมถึงเครื่องประดับทอง จีน เพิ่ม 13.96%จากความนิยมซื้อเครื่องประดับเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ

ส่วนญี่ปุ่น เพิ่ม 3.79% มาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะเครื่องประดับเพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าที่ส่งออกได้เพิ่ม เช่น เครื่องประดับทอง เครื่องประดับแพลทินัม และเครื่องประดับเงิน อาเซียน เพิ่ม 12.40% จากการส่งออกไปสิงคโปร์และเวียดนามเพิ่มขึ้น รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช เพิ่ม 24.14% จากการส่งออกเครื่องประดับเงินเพิ่มขึ้น โดยเป็นเครื่องประดับที่เรียกว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

นางดวงกมล กล่าวต่อถึงแนวโน้มการส่งออกเครื่องประดับในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้เพิ่มขึ้น เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญของไทยฟื้นตัวขึ้นโดยลำดับ ส่งผลให้ผู้ซื้อมีกำลังซื้อมากขึ้น และมีความต้องการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังมีการเร่งนำเข้าไปเก็บสต๊อกเพื่อใช้สำหรับจำหน่ายในช่วงเทศกาลสำคัญปลายปี ทั้งคริสมาสต์และปีใหม่ ทำให้มีความต้องการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจะต้องติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ที่จะกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน และกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออกของไทยได้ จึงต้องบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม และต้องติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว เพื่อที่จะได้วางแผนผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการ เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่นิยมค้นหาสินค้าทางอินเทอร์เน็ต อ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ และสั่งซื้อทางออนไลน์เพิ่มขึ้น จึงควรให้ความสำคัญกับการทำตลาดออนไลน์.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ