นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากการขายบุหรี่ มวนละ 10 สตางค์ (สต.) หรือซองละ 2 บาท เพื่อสบทบเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ด้วยการออกกฎหมาย คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ....นั้น กระทรวงคลังต้องพิจารณารายละเอียดของกฎหมายฉบับดังกล่าวว่าขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 หรือไม่ หากไม่ขัดก็คงดำเนินการได้
“หากจัดเก็บเงินเพิ่มอีก 2 บาท ย่อมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบุหรี่ทั้งระบบ ไม่ได้กระทบเฉพาะการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เท่านั้น แต่จะกระทบกับผู้ประกอบการบุหรี่นำเข้าด้วย และถ้ากระทรวงสาธารณสุขมีความจำเป็น เพราะเงินจากกองทุนส่งเสริมประกันสุขภาพหรือบัตรทอง ไม่พอใช้ ก็ต้องหาแหล่งเงินที่มีความมั่นคงและการเก็บเงินจากภาษีบุหรี่ ก็เป็นเรื่องของสุขภาพที่น่าจะทำได้ ส่วนการขยายเวลาปรับอัตราภาษีบุหรี่ที่กำหนดไว้วันที่ 1 ต.ค.2562 จัดเก็บ 40% ของราคาขาย จากปัจจุบัน 20% ของราคาขาย สำหรับบุหรี่ราคาไม่เกินซองละ 60 บาทนั้น ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาพิจารณา และยังไม่เคยบอกว่าจะเลื่อนออกไป 2 ปี หรือเริ่มใช้ 1 ต.ค.2564 แต่อย่างใด”
ด้านนายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบ จ.เชียงใหม่ ว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการเก็บเงินสมทบตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะเป็นการซ้ำเติมชาวไร่ยาสูบ “การขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งที่แล้ว ส่งผลกระทบรุนแรงมาก ทำให้ชาวไร่ โดนตัดโควตาจากที่ ยสท.เคยรับซื้อใบยา 24.7 ล้านกิโลกรัม (กก.) ลดเหลือ 12.9 ล้าน กก. หากขึ้นภาษีอีกรอบ ยสท.อาจไม่สามารถซื้อใบยาได้อีก ชาวไร่ยาสูบ 50,000 รายทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ปัญหา ทำให้รู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมาก”
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังนายเจมส์ แมคคอร์แมก กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายประเมินความเสี่ยงความน่าเชื่อถือระดับประเทศและระหว่างประเทศ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากล ว่า ควรจะประเมินประเทศไทย โดยไม่ยกสถานการณ์ทางการเมืองมาพิจารณาเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมองว่าอนาคตการเมืองของไทยไม่ค่อยดี ก็จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศลง ซึ่งควรจะประเมินใหม่ ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยก็ยังไปได้ดี สามารถขับเคลื่อนเมกะโปรเจกต์จำนวนมาก.