ก.พาณิชย์ ขีดชื่อนิติบุคคลกว่า 6 พันราย ไม่ส่งงบการเงินต่อเนื่องเกิน 3 ปี ปรับเป็นบริษัทร้าง แนะประชาชนตรวจสอบข้อมูลหวั่นถูกหลอกลวงตอนทำธุรกิจ...
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2561 นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 61 กรมฯ จะถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ 6,309 ราย ออกจากทะเบียน และมีสถานะร้าง เพราะไม่นำส่งงบการเงินย้อนหลังนานติดต่อกัน 3 ปี หรือตั้งแต่ปีงบการเงิน 57-59 เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจ ที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูล รวมถึงป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯจะประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดดำเนินการเช่นเดียวกัน
“กระแสข่าวทางสังคมในปัจจุบันพบว่า มีนิติบุคคลบางกลุ่มที่จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจอย่างถูกต้องจริง แต่เวลาต่อมาไม่ได้ปฏิบัติตนในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เช่น ไม่ได้ทำธุรกิจแล้ว หรือไม่ได้ส่งงบการเงิน และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ โดยเอาความน่าเชื่อถือของการจดทะเบียนนิติบุคคลมาแอบอ้าง จนเกิดความเสียหายต่อบุคคลที่หลงเชื่อ และยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ กรมฯ จึงต้องอัพเดตข้อมูล เพื่อให้ความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ” นางกุลณี กล่าว
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวอีกว่า สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาเพื่อถอนทะเบียนนิติบุคคล จะดูจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐาน 3 ประเด็น คือ นิติบุคคลที่ไม่นำส่งงบการเงินต่อกรมฯ เพื่อแสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินกิจการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นับตั้งแต่ปีปัจจุบันย้อนหลังไป 3 ปีติดกัน, นิติบุคคลไม่มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ตามที่จดทะเบียนไว้ และนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี ส่งผลให้ชื่อของนิติบุคคลนั้นยังคงค้างอยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนของกรมฯ ทำให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกับจำนวนนิติบุคคลที่ยังมีตัวตนอยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้เข้าใจผิดว่านิติบุคคลเหล่านั้น ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ และก่อให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตหลอกลวงตามมา
“กรมในฐานะเป็นนายทะเบียนตามกฎหมายมีอำนาจถอนทะเบียนนิติบุคคลที่มิได้ทำการค้าเป็นห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทร้างแล้วแต่กรณี โดยจะประกาศชื่อนิติบุคคลที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนบนเว็บไซต์ www.dbd.go.th นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลเพื่อความรอบคอบก่อนการลงทุนหรือดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจผ่าน 3 ช่องทาง คือ สายด่วนกรมฯ โทร.1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th หัวข้อ คลังข้อมูลธุรกิจ และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DBD e- Service ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กสถานะนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าว.