หมดเวลาทองของชาเขียว เจอแข่งขันสูง และภาษี ทั้งโออิชิและอิชิตันกำไรลดลงเกือบครึ่ง อิชิตันเจ็บสาหัสกว่า จากเคยมีกำไรปีละพันล้านบาท ปีนี้ต้องลุ้นเพราะไตรมาสแรกเหลือ 32.9 ล้านบาท
บริษัท อิชิตัน จำกัด (มหาชน) ของเสี่ยตัน ภาสกรนที เจ้าพ่อชาเขียว แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ไตรมาสแรกของปี 2561 มีรายได้ 1,321.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 1,488.1 ล้านบาท เพราะตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไม่เติบโต และการปรับราคาขายปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต และภาษีน้ำตาล
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนการขายเพิ่มขึ้น เพราะการแข่งขันด้านราคา แต่ต้นทุนการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิของอิชิตัน 3 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 32.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 47.3 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 62.5 ล้านบาท
ปี 2557 อิชิตัน มีรายได้ถึง 6,208.8 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,078.7 ล้านบาท และลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้ และกำไร พอมาปี 2560 มีรายได้ 5,719 ล้านบาท กำไรสุทธิเพียง 315 ล้านบาท
อิชิตันได้พยายามปรับตัวธุรกิจ โดยเพิ่มเครื่องดื่มหลากหลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด เร่งทำตลาด ชิว ชิว ที่เป็นชาผสมว้น และ เย็น เย็น ที่เป็นน้ำจับเลี้ยง และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย
ขณะที่ บริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) ของค่ายช้าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่มีธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร ที่ทำรายได้ในสัดส่วนพอๆ กัน ได้รายงานผลประกอบการของ 3 เดือนแรกปีนี้ ว่ามีรายได้รวม 3,123 ล้านบาท ลดลง 340 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.8 จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีรายได้ 3,463 ล้านบาท
ธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้ 1,516 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.9 ส่วนธุรกิจอาหารมีรายได้ 1,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 กำไรสุทธิอยู่ที่ 244 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 41.6 หรือ 173 ล้านบาท
ในปี 2557 โออิชิมีรายได้ 12,516.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 524 ล้านบาท ส่วนปี 2560 มีรายได้ 13,677 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,451.6 ล้านบาท.