SPCG เติบโตแข็งแกร่ง เผยผลประกอบการไตรมาสแรกรายได้รวม 1,572 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน พร้อมโชว์ความสำเร็จเปิดโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นกำลังผลิต 30 เมกฯ สร้างรายได้ยาวอีก 20 ปี พร้อมจับมือมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น พัฒนาการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 61 ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ "SPCG" แถลงผลประกอบการของ SPCG ประจำไตรมาสที่1/2561 ในงาน "บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day"ณ ห้อง 603 ชั้น 6 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษกดินแดง กรุงเทพมหานคร
ดร.วันดี เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 1,572.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,301.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270.4 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 780.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 756.8 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดร.วันดี ได้กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา คณะกรรมการและผู้บริหารของ SPCG ได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดโครงการ Tottori Yonago Mega Solar กำลังการผลิตจำนวน 30 MW ที่เมืองทอตโตะริ พร้อมด้วยตัวแทนจากบริษัท Kyocera Corporation, Japan ผู้นำธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และตัวแทนจากบริษัท Tokyo Century Leasing Corporation หรือ TCL ผู้นำในธุรกิจเช่าซื้อในประเทศญี่ปุ่นโครงการดังกล่าวคาดว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าระบบในปีแรกราว 36 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง หรือเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าราว 12,000 ครัวเรือน ซึ่งเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้กับ บริษัท Chugoku Electric Power จำกัด โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ราคา 36 เยนต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นการลงทุนในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในโครงการ Kasuga Blue Energy กับมหาวิทยาลัย Kyushu ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในเรื่องการบริหารจัดการพลังงาน โดยคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องของการบริหารจัดการพลังงาน แบบที่เรียกว่า Area Energy Management System (AEMS) โดยจะนำเทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงานในระบบ Storage ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่อการจ่ายพลังงานในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak Load) ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น และคาดว่าจะขยายผลการบริหารการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในรูปแบบและเทคโนโลยีขั้นสูง นำมาพัฒนาและปรับใช้ในประเทศไทยและอาเซียนต่อไป