ใครว่ารถมือสองล้นตลาด ขายไม่ออก อาจต้องเปลี่ยนความคิด เพราะธุรกิจนี้ยังไปได้สวย แต่โจทย์ใหญ่คือต้องล้างภาพโยงธุรกิจสีเทา และสร้างความน่าเชื่อถือ ว่าซื้อแล้วไม่เจอแจ็กพอตรถไร้คุณภาพ
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีรถยนต์ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทั้งรถใหม่และรถใช้แล้วอย่างรถมือสอง เพราะตลาดมีความต้องการ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่นิยมมีรถทันทีเมื่อเรียนจบ และเริ่มทำงาน ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าด้วย
“กลุ่มรถมือสองเคยถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่ภาพลักษณ์ไม่ดี เช่น หลอกลวง ย้อมแมวขาย หรือแหล่งฟอกเงิน ในฐานะสมาคมฯ ได้พยายามหามาตรการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคไว้วางใจ ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อออกกำหนดมาตรฐานหรือเอกสารกำกับว่าได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว เพื่อให้ธุรกิจนี้เติบโตต่อไป” นายวิสุทธิ์กล่าวและว่าคำแนะนำสำหรับผู้ซื้อรถมือสองเมื่อไปที่เต็นท์รถ สิ่งแรกคือควรขอดูใบประกอบการ ทะเบียนรถ สมุดเล่ม ตรวจสอบเลขตัวถัง เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเต็นท์รถที่ถูกต้อง และได้รับมาอย่างถูกต้อง
ในส่วนรถมือสองที่เข้ามาในตลาดนั้น มาจากโครงการรถคันแรกที่ครบสัญญาการถือครองรถ 5 ปีไม่มาก เพราะในช่วงปีแรกๆ หลายคนไม่สามารถผ่อนได้ ก็ทิ้งรถเข้ามาสู่ระบบรถมือสองแล้ว รถมือสองในตลาดเกือบทั้งหมดจึงมาจาก 3 ช่องทางคือ กลุ่มรถยึด มีสัดส่วนร้อยละ 30-40 เป็นรถที่เจ้าของเดิมที่ไม่สามารถผ่อนต่อกับไฟแนนซ์ได้ อีกส่วนหนึ่งร้อยละ 30 มาจากรถเช่าของบริษัทหรือองค์กรที่ถึงรอบการเปลี่ยนรถใหม่ ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือเป็นรถเก่าที่ลูกค้านำไปแลกซื้อรถใหม่และได้ส่วนลด
แม้กลุ่มรถยนต์ใหม่จะมีโปรโมชั่นดึงลูกค้า ทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 ในปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้หมายความว่ามาแย่งตลาดรถมือสอง เพราะจำนวนมากที่ซื้อรถใหม่แล้วไม่สามารถผ่อนได้ ก็โดนยึด บางคันใช้งานไม่ถึงปี รถก็เข้ามาในระบบรถมือสอง ลูกค้าจึงมีทางเลือกมากขึ้น ทำให้ตลาดรถใหม่และรถมือสองเติบโตเหมือนกัน
ในปี 2560 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สรุปยอดขายรถยนต์ใหม่ในไทยว่ามีจำนวน 871,650 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 13.4 และปี 2561 คาดว่าจะมียอดขายถึง 900,000 คัน ขณะเดียวกันความต้องการรถใหม่ยังสะท้อนให้เห็นการเติบโตของรถใหม่ จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 (ครั้งที่ 39) ที่เพิ่งจบไป ที่มียอดจอง 36,587 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีท่ีแล้ว
สำหรับตลาดรถยนต์มือสองนั้น สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว สรุปว่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5-7 ในช่วงปี 2559-2561 โดยปี 2559 มีมูลค่า 128,000 ล้านบาท มาในปี 2560 มูลค่า 136,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนมากกว่า 300,000-400,000 คัน โดยเฉลี่ยราคาที่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อพอใจคือคันละประมาณ 300,000 บาท.