เครื่องนุ่งห่มไทยอ่วมปี 60 บาทแข็ง 10-12%

ต่อรองแทบตายแบรนด์ดังให้ขึ้นราคา 3-5%

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ลูกค้าในต่างประเทศที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับโลกทั้งชุดกีฬา, แฟชั่น, ชุดทำงาน ฯลฯ หลายรายได้พิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้าเฉลี่ย 3-5% ตามที่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกเสื้อผ้าไทยเรียกร้อง หลังจากประสบปัญหาขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เพราะตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้ว 10-12% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาใหม่ที่ปรับขึ้นจะเป็นคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ที่จะส่งในเดือน ธ.ค. 61-ก.พ.62 แต่ออเดอร์ปีนี้คงไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้แล้ว เพราะลูกค้าได้สั่งออเดอร์ไปจนถึงสิ้นปีแล้ว

“ตอนนี้คู่แข่งทุกประเทศได้รับผลกระทบจากค่าเงินแข็งค่า แต่ผู้ประกอบการไทยหนักสุด เพราะค่าเงินบาทแข็งค่ามากสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตและส่งออกเสื้อผ้าไทยเจรจาขอขึ้นราคากับลูกค้ามาแล้ว แต่ไม่สามารถขึ้นราคาในปีนี้ได้ ทำให้บางรายต้องยอมขาดทุน”

อย่างไรก็ตาม การส่งออกเสื้อผ้าของไทยในปีนี้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ยังเพิ่มขึ้น 2-3% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปสหรัฐฯและยุโรป โดยเสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมมากสุดจะเป็นชุดกีฬา โดยเฉพาะชุดฟุตบอลโลก ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ได้สั่งกับโรงงานของคนไทยไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตัว ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกวันละ 5-22 บาทเมื่อวันที่ 1 เม.ย.61 พบว่าผู้ผลิตรายใหญ่และกลางยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่รายเล็กๆอาจได้รับผลกระทบ เพราะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น โดยนายถาวร กนกวลีวงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า สมาคมจะติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยคาดว่า 6 เดือน น่าจะรับรู้ว่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนอย่างไร และจะต้องตัดสินใจปรับขึ้นราคาสินค้าหรือไม่.