ตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง รวมไปถึงเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นในเมืองไทยที่มีการแข่งขันดุเดือดเลือดพล่านดังที่เห็นในสื่อโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ แบรนด์เก่าและแบรนด์น้องใหม่พร้อมสู้ศึกกันอย่างคึกคักด้วยเหตุผลดังกล่าว บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีในประเทศไทย เมื่อต้องการตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไอซ์เบิร์ก” (Iceberg) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นด้วยส่วนผสมคาเฟอีน ขณะเดียวกันก็ใส่ใจในสุขภาพด้วย จึงเลือกรุกประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม AEC เป็นเป้าหมายสำคัญ และกัมพูชาเป็นประเทศแรกที่เปิดตลาดไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และมีแผนบุกตลาดประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะกลับมาลุยตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้เช่นเดียวกัน
น.ส.สลิลาพร กองทองมณีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดเครื่องดื่มเอนเนอร์จี ดริงค์ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านโซนเออีซีมีมูลค่าสูงที่น่าจับตามอง จากการสำรวจประเทศเพื่อนบ้านพบว่า ประเทศกัมพูชาเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก มีโอกาสเติบโตสูง ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี มีอัตราเติบโตสูงถึง 6.9%
ขณะที่พฤติกรรมการทำงานของชาวกัมพูชาคือมีความต้องการทำงานในแต่ละวันให้มากที่สุด ยาวนานที่สุด จึงนิยมดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังเพื่อความสดชื่น นอกจากนี้ยังมีค่านิยมดื่มเอนเนอร์จี ดริงค์เป็นเครื่องดื่มทั่วไป เหมือนไลฟ์สไตล์การดื่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมในไทย ทำให้คนกัมพูชาส่วนใหญ่จะดื่มในปริมาณมาก โดยเฉลี่ยคนละ 3 กระป๋องต่อวัน
สำหรับ “ไอซ์เบิร์ก” เองก็สามารถดื่มได้ในปริมาณตามที่ต้องการ เพราะมีปริมาณคาเฟอีน 50 มิลลิลิตรต่อกระป๋อง ได้เพิ่มส่วนผสมวิตามิน B3, 6, 8, 12 คอลลาเจนและทอรีน บรรจุกระป๋องพร้อมดื่มขนาด 250 มิลลิลิตร ราคา 3,000 เรียว คิดเป็นเงินไทยประมาณ 25 บาท โดยมีจุดแข็งที่รสชาติดี บำรุงกำลัง ทำให้กระปรี้กระเปร่า ขณะเดียวกันใส่ใจต่อสุขภาพและดูแลผิวพรรณ ขณะที่แบรนด์อื่นมีถึง 80 มิลลิลิตรต่อกระป๋อง และวัยรุ่นก็ดื่มด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะวัยทำงาน นอกจากนี้ งบประมาณการลงทุนด้านโฆษณากับสื่อต่างๆก็ไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับไทย จึงเป็นเหตุผลที่ขยายตลาดกัมพูชาเป็นประเทศแรก
“ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไอซ์เบิร์กที่กรุงพนมเปญไปเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา โดยระยะ 3 เดือนแรกที่ผ่านมา ตลาดตอบรับดีมาก เพียงวันแรกที่เปิดตัวมียอดสั่งซื้อรวมกว่า 1 ล้านบาท ทำให้มองตลาดต่อไปคือจีน จะเข้าไปจำหน่ายในเดือน มิ.ย. เริ่มที่เมืองกว่างโจวก่อน จากนั้นจะขยายไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองอื่นๆต่อไป และมีโครงการวางจำหน่ายในไทยช่วงกลางปีนี้ด้วย”
ทางด้าน นายณฐภัทร สุวรรณโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดเครื่องดื่มในประเทศกัมพูชามีตัวเลขประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาทไอซ์เบิร์ก ในฐานะแบรนด์น้องใหม่ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5% ในปีนี้และรุกตลาดด้วยแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ ใช้คนดังในกัมพูชามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ถึง 3 คน โดยแต่ละคนเป็นตัวแทนในการสื่อสารของ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้
“คนแรกเป็นตัวแทนกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน เป็นนายเจย พิรุณ ซึ่งเป็นเฟรชชี่บอย 2016 ต่อมาเป็นตัวแทนคนทำงาน คนรุ่นใหม่คือ นายเส็ง มงคล ดาราหนุ่มชื่อดังเป็นอันดับต้นของกัมพูชา และสุดท้ายตัวแทนกลุ่มคนวัยกลางคน นายเทพ รินดาโร พระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่ยอดนิยมตลอดกาล”
นอกจากนี้ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบยั่งยืนโดยชูให้ผู้บริโภคเห็นถึงจุดแข็ง เห็นถึงคุณค่าผลิตภัณฑ์ โดยตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดื่มที่มีรสชาติดี ใส่ใจสุขภาพ ดูแลถึงเรื่องความงามและเป็นเทรนด์ใหม่ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้จะช่างเลือกและจะเป็นลูกค้าแบบยั่งยืน และด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มักบอกต่อสิ่งพอใจ พลังการบอกต่อนี้เองก็เป็นพลังการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปากซึ่งมีพลังมากในยุคนี้
นายณฐภัทร กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่ไม่ได้มองข้าม ได้วางแผนกลับมาทำตลาดช่วงกลางปีนี้อย่างแน่นอนโดยวางกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคไว้ที่ระดับกลางถึงสูง จากทั้งส่วนผสมที่แตกต่างจากเครื่องดื่มเอนเนอร์-จี ดริงค์ แบรนด์เครื่องดื่ม และต้นทุนการผลิต ทำให้ราคาจำหน่ายสูงกว่าแบรนด์อื่น ผู้บริโภคมี 3 กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน กลุ่มวัยทำงาน คนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยกลางคน โดยทั้ง 3 กลุ่มเป็นคนที่ต้องการความสดชื่นเพื่อพร้อมทำงานต่อเนื่องยาวนานอย่างเต็มที่
ที่สำคัญพร้อมเปิดรับเทรนด์ใหม่ของการดื่มและรสนิยมในการเลือกรสชาติที่ดี.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th