นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงการเดินทางเพื่อหารือเรื่องการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือไอยูยู ของคณะเจ้าหน้าที่ไทยกับสหภาพยุโรป หรืออียู เมื่อวันที่ 9-12ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาข้อมูลด้านเทคนิค โดยเฉพาะการตรวจสอบย้อนกลับ ที่อียูเข้ามาตรวจสอบระบบของไทยในรอบที่ผ่านมา โดยเห็นว่าบางจุดยังเป็นจุดอ่อนที่ไทยต้องแก้ไข
“ปัจจุบันกรมประมงถือว่าแก้ไขปัญหาไอยูยูคืบหน้าไปมาก แม้อียูยังไม่ระบุชัดว่ามีความพอใจมากน้อยเพียงใด แต่ไทยก็มีความหวังในทุกครั้งที่มีการเจรจา โดยทางอียูจะเดินทางเข้ามาติดตามตรวจสอบระบบไอยูยูของไทยอีกครั้งในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งหากเห็นว่าไทยมีความพร้อมก็จะประเมินกรณีที่ไทยอยู่ในสถานะใบเหลืองหรือประเทศที่ต้องปรับปรุงแก้ไขทำการประมงอีกครั้ง เพื่อพิจารณาสถานะใหม่”
ทั้งนี้ การตรวจสอบย้อนกลับของไทยได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. สินค้าสัตว์น้ำที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเรือต้องมีใบอนุญาตการจับปลาในแหล่งน้ำนั้นๆ ปริมาณปลาแต่ละชนิด และต้องเป็นการประมงที่ใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ทั้งหมดต้องมีเอกสารที่ชัดเจน แต่เนื่องจากภาษาที่ต่างกัน รายละเอียดข้อมูลที่บางประเทศยังไม่ชัดเจน ดังนั้น จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ 2.ปลาที่จับโดยเรือในประเทศ ต้องกรอกเอกสารอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวประมงไทย ทำให้การดำเนินการยังไม่ชัดเจน จึงต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุง อย่างไรก็ตาม อียูมีความพอใจและเห็นถึงความพยายามของไทยในการวางระบบดังกล่าวที่มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% และกลุ่มชาวประมงเองก็เข้าใจ และยอมรับเงื่อนไขที่ต้องนำไปปฏิบัติ.