นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ ทีโอทีจะลงนามในสัญญาการให้เช่าใช้โครงข่ายโทรคมนาคมบนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ หรือ MVNO กับบริษัท เดอะ ไวซ์สเปซ จำกัด ผู้ให้บริการมือถือภายใต้แบรนด์ “เพนกวิน” ซึ่งจะทำให้ ทีโอทีมีพันธมิตรที่เป็นลักษณะเอ็มวีเอ็นโอ เพิ่มขึ้นเป็น 3 ราย จากเดิมมี 2 ราย คือ บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด และบริษัท โมบาย 8 จำกัด โดยมีผู้ใช้มือถือรวมกันราว 400,000 เลขหมาย และคาดหวังว่าเมื่อเพนกวินมาร่วมให้บริการ ยอดผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันทีโอทีมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ มีเสาโทรคมนาคมราว 20,000 ต้น ทั้งนี้ในปี 2560 ทีโอทีจะมีรายได้จากการให้บริการ โครงข่ายมือถือ 3 จี ราว 3,900 ล้านบาท และปี 2561 ตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,600 ล้านบาท
นายชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไวซ์สเปซ กล่าวว่า ซิมเพนกวิน มั่นใจในโครงข่ายของทีโอที ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มทดลองทำการตลาดภายในเดือนพ.ย.นี้ โดยยังคงเน้นซิมราคาประหยัดเพื่อเป็นทางเลือก สำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการบริการมือถือราคาถูกไม่เกินเดือนละ 200 บาท โดยการให้บริการ 3 จี ของเพนกวินนั้น จะแบ่งเป็นซิมมือถือที่ใช้กับโครงข่ายทีโอทีคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ และโครงข่ายของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์
ส่วนกรณี ไลน์ โมบาย ที่เปิดบริการมือถือ ด้วยกลยุทธ์ราคาถูกเช่นเดียวกับเพนกวินนั้น ถือเป็นสีสันของตลาดบริการมือถือ และทำให้ตลาดมือถือมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น “ผมไม่กล้ามองว่าไลน์ โมบาย คือคู่แข่งของเพนกวิน เพราะเพนกวิน มองตัวเองเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการใช้บริการมือถือราคาประหยัด ราคาถูก ต่างคนต่างทำตลาด ซึ่งควรทำอย่างตรงไปตรงมา มีคู่สัญญาชัดเจน ทำทุกอย่างถูกต้องตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมาย”.