หมูดำ “คูโรบูตะ” หลายๆคนคงคุ้นชื่อและได้ลิ้มลองรสชาติกันบ้าง และติดใจในรสชาติความชุ่มฉ่ำ ความนุ่ม และรสชาติอร่อย ซึ่งในตลาดเมืองไทยมีเพียงทางบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เพียงรายเดียวที่ได้นำ พันธุ์มาพัฒนาสำหรับผู้บริโภคชาวไทยเป็นการเฉพาะ จนประสบความสำเร็จและเตรียมขยายตลาดไปทั่วประเทศ
ความเป็นมาของหมูดำ “คูโรบูตะ” แม้ว่าชื่อพันธุ์หมูดำนี้จะเป็นชื่อญี่ปุ่น แต่พันธุ์ดั้งเดิมมาจากประเทศอังกฤษ และได้ส่งมาเป็นของขวัญมานานตั้งแต่สมัยเมจิ และพัฒนาจนได้เนื้อที่มีรสชาติชุ่มฉ่ำ นุ่ม และมีไขมันแทรกจนได้รับความนิยมบริโภคมาจนถึงปัจจุบัน
ดร.สัจจา ระหว่างสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านวิจัยพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์สุกร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า สำหรับเมืองไทย ทางซีพีเอฟได้ริเริ่มพัฒนาขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อน และทำการวิจัยและพัฒนามา 8 ปี พอประสบความสำเร็จได้เริ่มทำการตลาดเป็นครั้งแรกให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มรสชาติกัน เป็นหมูดำที่ถูกค้นคว้าพัฒนาพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเมืองไทย ถูกเลี้ยงอย่างสบายในฟาร์ม ที่มีโรงเรือนระบบปิด ให้กินอาหารเจ ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม จนได้เนื้อหมูดำที่มีความแตกต่างจากหมูทั่วไปและเป็นสุดยอดเนื้อหมูเกรดพรีเมียม
ดร.สัจจากล่าวว่า สำหรับหมูคูโรบูตะที่ซีพีพัฒนาขึ้นจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย โดยรสชาติชุ่มฉ่ำมีความนุ่มและมีไขมันแทรกในเนื้อหมู โดยผู้บริโภคชาวไทยในระดับบนและค่อนข้างมีอายุจะรู้จักหมูดำคูโรบูตะเป็นอย่างดี เคยมีประสบการณ์ในการรับประทานที่ประเทศญี่ปุ่น และให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางซีพีจะวางตำแหน่งของหมูดำนี้อยู่ในตลาดพรีเมียมและวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด แต่ก็ยังกระจุกตัวในกรุงเทพฯเป็นหลัก และมีแผนที่จะรุกตลาดในหัวเมืองต่างจังหวัดอย่างเต็มที่
น.สพ.จตุรงค์ โยธารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ทางซีพีได้ขยายตลาดไปต่างจังหวัด โดยที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเชิญลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม และรีสอร์ตเข้าร่วม โดยจัดแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกให้รับรู้ความเป็นมาของหมูคูโรบูตะที่มีความพิเศษและแตกต่างจากเนื้อหมูธรรมดา ขั้นตอนที่สองให้บรรดาเจ้าของและเชฟที่เข้าร่วมได้เห็นความแตกต่างระหว่างสีของเนื้อหมูที่มีความฉ่ำวาว มีกลิ่นพิเศษ และสัมผัสแรกนุ่มกว่าเนื้อหมูธรรมดา 30-40% รสชาติดี และอร่อย
“ขั้นตอนที่สามได้สาธิตพรีเมียมคัด คือ การหั่นเนื้อหมูที่พิเศษสำหรับเมนูแต่ละเมนูไม่เหมือนกัน และทางซีพีจะให้บริการผู้ประกอบการพิเศษแตกต่างไม่เหมือนกัน เพื่อนำไปพัฒนาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ เพื่อเป็นจุดเด่นของแต่ละร้านได้ สำหรับผู้สนใจก็สามารถร่วมกันพัฒนาเมนูพิเศษกับทางซีพีได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสนใจกันมาก เพราะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเนื้อหมูคูโรบูตะกับเนื้อหมูธรรมดา และมีความสนใจเนื้อหมูแบบสดๆ ซึ่งปกติทางซีพีจะจัดส่งในรูปแบบเนื้อหมูแช่แข็ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ การจัดส่งสินค้าในรูปแบบเนื้อหมูสด และจัดส่งตามคำสั่งซื้อของลูกค้าแต่ละร้านที่ต้องการนำไปเป็นเมนูอาหาร
น.สพ.จตุรงค์กล่าวว่า ผลของการจัดกิจกรรมปรากฏว่า ลูกค้าที่เข้าร่วมและเจ้าของกิจการร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ตที่ยังไม่ใช่เป็นลูกค้ามีความสนใจ ที่ผ่านมารับรู้ว่ามีหมูคูโรบูตะจำหน่ายแต่ยังไม่ได้ลงลึกจนไปถึงการสาธิต นับว่าเป็นจุดสำคัญในตลาดต่างจังหวัด
โดยทางซีพีตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายตลาดนี้ไปยังร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต ในเขตโคราชนี้จำนวน 100 แห่ง จาก 200 แห่งทั่วจังหวัด ซึ่งทางซีพีจะใช้โมเดลการจัดกิจกรรมในโคราชนี้ไปยังจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ
ดร.สัจจากล่าวว่า ปัจจุบันทางซีพีเอฟมีกำลังการผลิตหมูดำปีละ 3.4 แสนตัว และจะควบคุมการผลิตไว้ในปริมาณจำนวนเท่านี้ เพราะจับตลาดบนและทางซีพีเอฟคงจะไม่ขยายตลาดไปมากกว่านี้ เพราะทางซีพีเอฟก็ยังผลิตเนื้อหมูทั่วไป
เพียงแต่ขยายตลาดจับกลุ่มพรีเมียมในต่างจังหวัดและกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ๆให้เปิดสัมผัสประสบการณ์ใหม่ความอร่อย นุ่ม หอม ฉ่ำ ของสุดยอดเนื้อ “หมูดำ คูโรบูตะ”!!
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th