หมดยุค WFH? เหล่าบิ๊กเทคเร่งดึงคนกลับเข้าออฟฟิศ เชื่อผลงานจะดีกว่า

ช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่าองค์กรต่าง ๆ เริ่มที่จะออกนโยบายเพื่อดึงพนักงานกลับไปทำงานในออฟฟิศแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีเจ้าใหญ่ของโลกที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศแผนว่าให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ Work from Anywhere ปัจจุบันก็หันมาปรับการทำงานดึงดูดให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศทั้ง 5 วันทำการแล้ว

หนึ่งในนั้นคือ Amazon ที่เคยมีประกาศออกมาว่าจะให้พนักงานทั้งหมดของบริษัท ทั้งพนักงานประจำและพาร์ทไทม์กลับเข้าทำงานที่สำนักงานตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 2 มกราคมปีหน้า ตามเป้าหมายที่อยากจะดึงบรรยากาศการทำงานที่ทุกคนทำงานร่วมกันกลับมาอีกครั้ง

แต่ประเด็นนี้กลับไม่ค่อยถูกใจฝั่งของพนักงานบางส่วนเท่าไรนัก จนทำให้เกิดเป็นข้อวิจารณ์กันในประเด็นนี้ และล่าสุดทาง Matt Garman ซีอีโอของ AWS ได้ออกมากล่าวว่า “หากมีพนักงานที่คิดว่าจะทำงานได้ไม่ดีหรือทำงานไม่ได้ในบรรยากาศของออฟฟิศ ยังมีบริษัทอื่น ๆ ที่อาจจะต้อนรับพวกคุณนะ”

อย่างไรก็ตาม มีพนักงานกว่า 9 ใน 10 ของทั้งหมดเห็นด้วยกับนโยบายใหม่ที่จะให้กลับเข้าทำงานในออฟฟิศ และทาง Garman ก็ต้องการให้พนักงานปรับตัวเข้าทำงานในบรรยากาศที่จะสนับสนุนการทำงานให้ดีขึ้นได้

จากรายงานการสำรวจ CEO Outlook ของ KPMG ชี้ว่า 83% ของผู้บริหารที่ทำแบบสำรวจคาดหวังว่าพนักงานจะกลับมาทำงานในออฟฟิศเต็มรูปแบบภายใน 3 ปีข้างหน้า และกว่า 87% มองว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะให้รางวัลแก่พนักงานที่มีความพยายามที่จะเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ ด้วยการมอบหมายงานที่ดี การปรับเงินเดือน หรือเลื่อนตำแหน่ง

นอกจาก Amazon แล้ว บิ๊กเทคเจ้าอื่น อย่างเช่น Apple ก็ได้ปรับนโยบายใหม่ให้เข้าทำงานในออฟฟิศมากขึ้น เพื่อเพิ่มความร่วมมือในการทำงานร่วมกันของพนักงาน ในขณะที่ Google ก็ได้เรียกให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศตั้งแต่ช่วงปี 2022 โดยจะสลับกับการทำงานออนไลน์ หรือมักจะทำงานแบบไฮบริด

จากผลตอบรับด้านลบจากพนักงาน เนื่องจากยังมีบางกลุ่มที่ไม่ต้องการจะกลับเข้าทำงานในออฟฟิศทั้ง 5 วัน เนื่องจากเหตุผลอย่างเช่น ขาดสมาธิในการทำงาน เพื่อนร่วมงานรบกวน ไปจนถึงขาดความเป็นส่วนตัว ส่งผลให้การดำเนินการปรับนโยบายของบริษัทหลายที่ต้องเป็นไปอย่างช้า ๆ เพื่อให้พนักงานค่อย ๆ ปรับตัวกลับมาได้

ที่มา: Business Insider, Reuters

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney