ทรัพยากรคนนับเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนองค์กร การเลือกใช้คนให้เหมาะสมกับงาน หรือ Put the right man on the right job จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่องค์กรไม่ควรมองข้าม Thairath Money จะพาไปดูกันว่า ทำไมการวางคนตามความรู้ความสามารถจึงเป็นสิ่งสำคัญ และผู้นำจะทำอย่างไร ถึงจะรู้ได้ว่าคนแบบไหนที่เหมาะกับองค์กร
ประหยัดเวลา
ในการจ้างพนักงานใหม่ที่มีคุณสมบัติตรงกับหน้าที่ของงาน จะทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ตรงกันข้ามกับการจ้างพนักงานที่ไม่ตรงกับหน้าที่งาน อาจจะต้องมีการติดตามงานอย่างใกล้ชิด และอาจต้องมีการอบรมซ้ำ ซึ่งก็เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาของบริษัทอีกด้วย และการจ้างงานคนที่เหมาะสมตั้งแต่แรกจะลดปัญหาเหล่านี้ และทำให้งานเดินหน้าได้
ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ
การจ้างพนักงานที่เหมาะกับตำแหน่งตั้งแต่แรก จะทำให้พนักงานทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และเติบโตไปพร้อมกับบริษัท ซึ่งส่งผลดีกับธุรกิจ และตัดปัญหาการจ้างงานพนักงานใหม่ซ้ำๆ ในตำแหน่งหัวหน้างาน เนื่องจากการจ้างงานพนักงานที่มีคุณภาพในตำแหน่งระดับเริ่มต้น หรือ Entry-Level สามารถนำไปสู่ตำแหน่งบริหารที่ทำงานได้อย่างมีคุณภาพในภายหลัง ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้นก็มาจากกระบวนการจ้างที่มีคุณภาพ
ลดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการลาออก
มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลาออกของพนักงาน นับเป็นความหงุดหงิดใจที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดาเงินที่เสียไปของบริษัท ซึ่งเป็นการลงทุนทั้งด้านเวลาและเม็ดเงินให้กับพนักงาน แต่กลับต้องสูญเสียพนักงานไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม
นอกจากนี้ต้นทุนที่เกิดจากการลาออกของพนักงาน (Turnover Costs) สามารถคิดเป็นเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะไม่สามารถทำตามเป้าหมายทางการเงินได้ หากยังคงเกิดความผิดพลาดในการจ้างงานอยู่เสมอ
ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
กรณีจ้างพนักงานที่มีความเหมาะสมกับองค์กร นอกจากพนักงานจะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังส่งผลให้เกิดภาพจำที่ดี เพราะพนักงานจะมีความสุขกับงานที่ทำ กลับกันหากบริษัทจ้างพนักงานที่ไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่ความไม่เข้าใจระหว่างพนักงานและบริษัท และยิ่งจ้างคนที่ไม่เหมาะกับงานมากเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มการพูดถึงบริษัทในแง่ลบในหมู่พนักงานนั่นเอง
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ในการรับพนักงานใหม่ อาจจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากทีมอื่นที่ไม่ใช่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในกระบวนการสัมภาษณ์ ฟีดแบ็ก หรือการประชุมวางแผน ซึ่งอาจบั่นทอนเวลาและพลังที่ใช้ในการทำงานหลัก และการจ้างงานคนที่เหมาะสมตั้งแต่แรก จะช่วยลดกระบวนการดังกล่าวได้
การหาคนที่เหมาะสมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมในด่านแรก นั่นก็คือการพิจารณาเรซูเม่ ซึ่งจะแสดงให้เห็นประสบการณ์ที่ผ่านมา ภูมิความรู้จากการศึกษาและฝึกอบรม สิ่งสำคัญคือการเปิดโอกาสให้ผู้สมัครเล่าถึงเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยขยายรายละเอียดและทำให้องค์กรมองเห็นภาพในการทำงานร่วมกันมากขึ้น
นอกจากนี้แบบทดสอบบุคลิกภาพก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้เห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบุคลิกภาพ ทัศนคติ ไปจนถึงแนวทางในการทำงานของแต่ละคน
และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่หลายองค์กรอาจมองข้าม นั่นก็คือการทำแบบทดสอบ โดยการสอบที่มีมาตรฐานนั้น นอกจากจะช่วยให้ผู้สมัครทราบถึงลักษณะงานได้อย่างชัดเจน เพื่อการตัดสินใจเข้าทำงาน ยังเป็นการลดต้นทุนจากการว่าจ้างพนักงานที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกับงาน และเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ได้พนักงานที่มีคุณภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกันการหาคนที่เข้ากับทีมไปจนถึงวัฒนธรรมองค์กร ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา เพื่อการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแสดงให้เห็นวัฒนธรรมองค์กรตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ ก็จะช่วยให้ผู้สมัครประเมินตนเองได้อีกทาง เพราะหากรับคนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ แต่ไม่สามารถเข้ากับทีมได้ ก็จะเป็นปัญหาที่อาจตามมาภายหลัง
อ้างอิง