เนื่องจากภายในปี 2030 (พ.ศ.2573) หรืออีก 7 ปีข้างหน้าจะมีจุดเปลี่ยนของวงการค้าปลีก เมื่อซุปเปอร์มาร์เก็ตในประเทศพัฒนาแล้ว จะดำเนินการตามนโยบายการจัดซื้อสีเขียว
นั่นหมายความว่าสินค้าที่ส่งเข้าไปขายในชั้นวางสินค้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตในยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เป็นต้น ล้วนแต่ต้องมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และภายในปี 2050 ที่หลายบริษัทประกาศเข้าสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์นั้น ก็ต้องหมายถึงซัพพลายเออร์ทั้งหมดต้องเป็น Net Zero ด้วย
สำหรับประเทศไทยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่งประกาศเดินหน้าสู่ Net Zero ขณะที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องปรุง อาหารทั้งคนและสัตว์ รวมถึง Future Food อย่างบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ก็เดินหน้าไปในทิศทางนี้
“แดน ปฐมวาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด เล่าว่า ธุรกิจของ NRF ในยุคที่เขาเข้ามาบริหารมีภารกิจผลิตอาหารสู้โลกร้อน
ส่วนโครงสร้างธุรกิจปัจจุบัน NRF มี 3 ส่วน ประกอบด้วย
1.Ethnic Food ผลิตน้ำพริก อาหารแห้งที่เป็นอาหารท้องถิ่น มีโรงงานอยู่ที่สมุทรสาคร และนครปฐม
2.Pet Food ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง โรงงานอยู่ที่ราชบุรี
3.Plantbase Food ผลิตโปรตีนจากพืช โรงงานอยู่อยุธยา ซึ่งมีบริษัทลูกชื่อ บริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ร่วมทุนกับบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ธุรกิจในเครือ ปตท.
นอกจากนี้ ยังวางกลยุทธ์ธุรกิจ คือขายอาหารท้องถิ่น ทำแพลตฟอร์มขายตรงเป็น omnichannel และ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในแผย Climate Action
ส่วนการลงทุนซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต Bamboo Mart ในอังกฤษ 2 สาขา เพื่อจัดพอร์ตนำธุรกิจร้านขายของชำเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น
“แดน” เล่าว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ซื้อที่อังกฤษ 2 แห่งมียอดขายปีละประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่ตั้งใจคือ ขายออนไลน์และออฟไลน์ แล้วใช้ตรงนี้เป็นแพลตฟอร์มรับของจากเมืองไทยไปขาย เพราะเห็นว่า SMEs ไทยที่ทำเรื่องอาหาร มีปัญหาเวลาส่งออก แต่การที่เรามีแพลตฟอร์มนี้จะเป็นตัวกลางให้สินค้าไทยขายได้
อีกทั้งได้นำระบบการบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาดูแล เพื่อให้มี data สำหรับการตัดสินใจสต๊อกของสั่งของ
ส่วนการจดทะเบียนในตลาด NASDAQ คาดว่า ต้นปี 2567 จะทราบถึงผลการดำเนินการ
ส่วนการลงทุนทำโรงงาน Plant and Bean ที่พระนครศรีอยุธยา เป็นการร่วมทุนกับบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด ธุรกิจในเครือ ปตท. และบริษัท แพลนต์ แอนด์ บีน จำกัด ประเทศอังกฤษ
เนื่องจากมีการสำรวจตลาดโลก พบว่า ประชากรโลก 7,000 คน มี 10% ทานมังสวิรัติ และกระจายกันอยู่ทั่วโลก ไม่จะเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป อินเดีย หรือแม้แต่ในไต้หวัน และเมื่อคนทานมังสาวิรัต สัตว์เลี้ยงของคนเหล่านี้ก็ต้องทานที่ไม่เป็นเนื้อสัตว์ด้วย ดังนั้นตลาดนี้จึงใหญ่ นี่จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของ NRF