นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทยังคงใช้ยุทธศาสตร์ราคาเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ในราคา 10 บาทต่อขวดเท่าเดิม โดยจะเน้นการเพิ่มปริมาณยอดขายเป็นหลัก เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าจะต้องครองส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) 30% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาทภายในปี 67 จากปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 24 % ซึ่งจะทำให้คาราบาวแดงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยที่มีมูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
“ยืนยันขายราคาเดิม 10 บาทต่อขวด เป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องแม้มีกำไรน้อยแต่ก็ต้องทำ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นที่ 1 ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง จากปัจจุบันอยู่อันดับ 2 ซึ่งเรามั่นใจว่าจะทำให้ได้เพราะมีสาวบาวแดงช่วยกระตุ้นยอดขายในตลาดได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งดุเดือดแน่นอน”
สำหรับเหตุผลที่บริษัทใช้ยุทธศาสตร์ราคา 10 บาทต่อขวดได้อย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลมาจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งบริหารสต๊อกสินค้าเอง การผลิตกล่อง ผลิตขวดแก้ว พลาสติก สติ๊กเกอร์ ทำเองทุกอย่าง ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ ซึ่งต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พนักงานเท่าเดิม ดังนั้น ต้องเอายอดขายที่เพิ่มขึ้นมาเป็นตัวคูณเพื่อสร้างรายได้
ส่วนพื้นที่ที่ผลิตภัณฑ์คาราบาวแดงขายดี ณ ขณะนี้เป็นพื้นที่ภาคกลาง อาทิ สุพรรณบุรี ราชบุรี ถัดมาเป็นพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี เป็นต้น ส่วนพื้นที่ยอดขายน้อย คือภาคอีสาน ดังนั้น การเจาะตลาดจะเน้นเป็นเมืองๆก่อน แบบกินทีละเมือง และในปีนี้จะเน้นเจาะตลาดกรุงเทพฯด้วย จากนั้นจะทยอยไปเจาะตลาดภาคอีสานต่อไป ซึ่งบริษัทมีสาวบาวแดงช่วยขายอยู่แล้วด้วย
นายกมลดิษฐกล่าวว่า สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ ”คาราบาวแดง” นั้น ปัจจุบันส่งออกไปหลายประเทศ แต่ตลาดหลักอยู่ที่ในอาเซียน คือ กัมพูชา ที่มียอดขายอันดับ 1 และคาราบาวแดงเป็นเจ้าตลาดที่นี่ รองลงมาเป็นเมียนมา ส่วนยุโรปส่งไปจำหน่ายตามคำสั่งซื้อ แต่การแข่งขันรุนแรงมาก ส่วนญี่ปุ่นส่งออกเล็กน้อย เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในญี่ปุ่นมีจำนวนมากและหลากหลายแบรนด์ ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงงานผลิตทั้งหมดอยู่ในไทย โดยสัดส่วนการส่งออกและการจำหน่ายในประเทศขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางช่วงอยู่ที่ 60:40 บางช่วง 50:50 ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
สำหรับการสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล ลีก คัพ หรือ “คาราบาว คัพ” ฤดูกาล 2023-24 แฟนบอลชาวไทยสามารถรับชมการแข่งขันแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 (Thairath TV 32) ตั้งแต่รอบที่ 3 ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ และการสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล “คาราบาว คัพ” มีการเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยโดยต่อสัญญาไปอีก 3 ปี จากเดิม 7 ปี รวมเป็น 10 ปี “การสนับสนุนฟุตบอลเพื่อตอกย้ำแบรนด์คาราบาวแดง ให้คนไทยและทั่วโลกได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนไทย และทั่วโลกชื่นชอบ อีกทั้งยังทำให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกเพราะทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน ล้วนเป็นทีมดังของอังกฤษ อาทิ เชลซี ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นต้น และการต่อสัญญาการสนับสนุนเป็น 10 ปี ยิ่งทำให้แบรนด์ไทยแกร่งมากยิ่งขึ้น และมีส่วนช่วยดึงดูดพันธมิตรเข้าร่วมกิจกรรมได้เพิ่มขึ้นหลายราย”.