จากแบรนด์ผู้ผลิตผ้าไหมไทยอายุ 72 ปี จิม ทอมป์สัน “Jim Thompson” เตรียมทรานส์ฟอร์มตัวเองใหม่สู่ “แบรนด์ไลฟ์สไตล์ครบวงจร” สร้างภาพจำใหม่ในสตาร์ระดับโลกกับการเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับไอคอนนิกจากเอเชีย
แฟรงก์ แคนเซลโลนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด แบรนด์ จิม ทอมป์สัน เปิดเผยว่า เราจะเดินหน้าปั้นแบรนด์สุดไอคอนิกในแบบของ จิม ทอมป์สัน นำเสนอมรดกอันทรงคุณค่าจากไทยที่เข้าถึงคนทั่วโลก
กลยุทธ์หลักในช่วงสามถึงห้าปีนี้จะดำเนินอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Beyond Silk’ ซึ่งหมายถึง การมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ก้าวไกลไปกว่าการเป็นแบรนด์ผ้าไหมไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจสินค้าผ้าตกแต่งบ้าน ตลอดจนธุรกิจบริการและร้านอาหาร
“หากพิจารณาแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกในปัจจุบัน สองแบรนด์อย่างราฟล์ ลอว์เรน (Ralph Lauren) ซึ่งขยายอาณาจักรจากธุรกิจแฟชั่นสู่ของแต่งบ้านและร้านอาหาร หรือในฝั่งยุโรปเองแบรนด์จอร์จีโอ อาร์มานี (Giorgio Armani) ล้วนขยายจากธุรกิจแฟชั่น สู่โรงแรม ของแต่งบ้าน และร้านอาหารเช่นเดียวกัน ซึ่งหากมองกลับมาที่แบรนด์จิม ทอมป์สัน ล้วนมีองค์ประกอบสำคัญที่ครบถ้วนและมีศักยภาพที่จะก้าวเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกจากฝั่งเอเชียเป็นแบรนด์แรก”
ปัจจุบัน จิม ทอมป์สัน โฟกัสใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจแฟชั่น (Fashion) โดยกินสัดส่วนถึงสองในสามของรายได้ทั้งหมด ธุรกิจสินค้าผ้าตกแต่งบ้าน (Home Furnishing) อาทิ ผ้าตกแต่งผนัง ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ และผ้าปักประเภทต่างๆ ผ่านการออกแบบและผลิตขั้นสูงจากแบรนด์ และธุรกิจบริการ (Hospitality) ประกอบด้วย ร้านอาหารนำเสนอรสชาติอาหารไทยต้นตำรับ คาเฟ่ บาร์ ซึ่งจะเป็นส่วนที่แบรนด์มุ่งสร้างเติบโตมากขึ้นหลังจากนี้และในอนาคต
จิม ทอมป์สัน มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าผ้าตกแต่งอยู่ในกว่า 60 ประเทศ รวมถึงได้ก่อตั้งบริษัทในเครือในต่างแดนถึง 2 แห่ง ได้แก่ Jim Thompson US ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 และ Jim Thompson UK ก่อตั้งในปี 2558 สำหรับในทวีปอเมริกาเหนือ แบรนด์จิม ทอมป์สันมีโชว์รูมทั้งสิ้น 22 แห่ง นอกจากนี้ ในยุโรป ยังมีการจัดจำหน่ายผ้าอยู่ใน 28 ประเทศ จิม ทอมป์สัน กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจผ้าตกแต่งในเอเชียและตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ แฟรงก์ แคนเซลโลนี ยังได้เผยแผนการในระยะยาวและการขยายธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจรวมถึง Jim Thompson Hotel, ธุรกิจของใช้ในบ้านภายใต้ชื่อ ‘Maison Jim Thompson’ มินิซีรีส์นำเสนอประวัติชีวิตของจิม ทอมป์สัน ตลอดจนคอนเซปต์สโตร์ พื้นที่เปิดกว้างสำหรับคอมมูนิตี้
ทั้งนี้หลังจากปี 2021 เป็นต้นมา จิม ทอมป์สัน ได้ทำการปรับเปลี่ยนทิศทางธุรกิจครั้งแรก โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ของทางแบรนด์จำนวนมาก เช่น การผลิตชุดผ้าไหมในรูปแบบ Ready-to Wear พร้อมดีไซน์และลวดลายที่ทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสินค้ายอดนิยมอื่นได้แก่ ผ้าพันคอ กระเป๋า และเครื่องประดับ ซึ่งไอเทมทุกชิ้นของแบรนด์รังสรรค์ขึ้นจากทั้งผ้าไหมและวัสดุคุณภาพสูงอื่นๆ ในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
การปรับโฉมร้านและเปิดหน้าร้านใหม่ในรูปแบบคอนเซปต์สโตร์ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์ธุรกิจชั้นนำ อาทิ โรงแรม Siam Hotel, Panpuri Wellness, การบินไทย, ศิลปินร่วมสมัยและดีไซเนอร์ชื่อดังเมืองไทย และวางแผนจับมือกับแบรนด์ระดับโลกเพื่อขยายฐานลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว "Jim Thompson Heritage Quarter" (จิม ทอมป์สัน เฮอริเทจ ควอเตอร์) แลนด์มาร์กใหม่ของจิม ทอมป์สัน ประกอบไปด้วย ‘พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน’ โซนจัดแสดงนิทรรศการ ‘Museum About the Man’ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันน่าทึ่งของจิม ทอมป์สัน และนิทรรศการ The Evolving World of Jim Thompson Textiles สำรวจการเดินทางของผืนผ้าและความเป็นมาของลวดลายผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ และ The Iconic Store ร้านจำหน่ายสินค้าหลากหลายจากแบรนด์
พร้อมด้วยโซนอาหารดีไซน์ใหม่สุดไอคอนิก ได้แก่