Thairath Money เจาะจุดแข็งและความพิเศษ ขนมอบกรอบรสมะเขือเทศและรสพริกหยวก ตรา เอฟเอฟ หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าขนมมะเขือเทศ ขนมพริกหยวก ขนมถุงสีเงินในตำนานที่พี่สาวน้องสาวยุค 90's ชอบกิน อะไรทำให้พิเศษกว่าเจ้าอื่น และยังขายได้ขายดีถูกใจคนไทยทุกเจน
ขนมมะเขือเทศและขนมพริกหยวก หนึ่งในสินค้าเรือธงของ บริษัท แฟชั่นฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวไทย ที่ดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 35 ปี โดย แฟชั่นฟู้ด ก่อตั้งขึ้นในปี 2531 เริ่มต้นผลิต สินค้าภายใต้แบรนด์ ‘เอฟเอฟ’ (FF) ในปีต่อมา ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จากจุดเด่นเรื่องคุณภาพที่ดี และมีปริมาณที่เหมาะสมในราคาย่อมเยา รวมทั้งรสชาติที่แปลกใหม่
ไม่ว่าจะเป็นขนมข้าวเกรียบหลากหลายรส รวมถึงขนมประเภทอื่นๆ อย่างคุกกี้ มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวโพดอบกรอบ ไปจนถึงบะหมี่อบแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแพ็กใหญ่สำหรับร้านอาหาร หลากหลายสินค้าอยู่คู่โต๊ะอาหารคนไทยและร้านอาหารตามสั่งไทยมาเป็นเวลานาน หลายอย่างยังเป็นที่นิยม และรู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้บริโภคทุกกลุ่มทุกวัย
โดยเฉพาะ ‘ขนมมะเขือเทศ’ ที่ได้กลายเป็นไวรัลในช่วงที่ผ่านมาหลังจาก คิมซอนโฮ เจ้าของบท หัวหน้าฮง โพสต์ภาพ ลังขนมมะเขือเทศบนรถเข็นสัมภาระที่สนามบินสุวรรณภูมิที่เจ้าตัวยกลังเหมากลับเกาหลีใต้ นอกจากนี้ นักร้องสาว จีซู Blackpink ก็ได้โพสต์ภาพ ขนมมะเขือเทศ ลงในสตอรี่ไอจีที่มีผู้ติดตามบนไอจีกว่า 73.3 ล้านบัญชี พร้อมแคปชั่นสั้นๆ แต่ทรงพลัง ว่า “อร่อย” อีกด้วย
ขนมมะเขือเทศและขนมพริกหยวก นับเป็นกรณีศึกษาของขนมถุงที่มีจุดแข็งโดดเด่น หากเทียบเคียงกับกลยุทธ์ของผู้ผลิตขนมถุงเจ้าอื่นที่ทุ่มโฆษณาไม่อั้น หรือแม้แต่จ้างพรีเซนเตอร์ตัวท็อปมานำเสนอความอร่อยของสินค้าตน แฟชั่นฟู้ดแทบจะไม่ได้ทำการตลาดกระตุ้นการรับรู้ ทุ่มงบจำนวนมากไปกับการโฆษณา สร้างแคมเปญสื่อสารการตลาดใหญ่โต เพียงแค่รักษาคุณภาพของสินค้า และชูเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นจุดแข็งให้ยืนหนึ่งปะทะสายตาผู้คน
อย่างที่เราจะเห็นว่า แม้จะผ่านมาหลายปี แบรนด์ยังรักษารสชาติความคลาสสิก หวานเปรี้ยวเค็มและเผ็ดของมะเขือเทศ-พริกหยวก เป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน โดยในปีนี้ก็ได้ออกรสชาติ บาร์บีคิว รสชาติใหม่ให้คนไทยลิ้มลองในรอบ 34 ปี
นอกจากนี้รูปมะเขือเทศและพริกหยวกลูกโตโชว์อยู่ตรงกลางห่อขนม การใช้สีแดง สีเขียวบ่งบอกรสชาติ ตัดกับห่อสีเงินที่เตะตา ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือรีแบรนด์ให้ทันสมัยขึ้นแต่อย่างใด ยังคงทำงานอย่างแข็งแกร่งในฐานแบรนด์ดิ้งที่สร้างภาพจำติดตาให้กับวัยรุ่น Y2K จนถึงปัจจุบัน
จุดเด่นแรก คือ การตอบโจทย์ทุกปัจจัยการเลือกซื้อขนมถุงกินของคนทั่วไปได้อย่างง่าย เยอะ ปริมาณขนมที่เรียกได้ว่า ชิ้นขนมเยอะกว่าอากาศในห่อ การกำหนดขนาดของสินค้า ไซส์เล็กจนถึงบิ๊กไซส์ในราคาที่เด็กประถมเข้าถึงได้ ขนมมะเขือเทศให้ปริมาณที่มากกว่า ทำให้กลายเป็นขนมที่ขึ้นชื่อว่า คุ้มเป็นอย่างมาก
และแน่นอนว่า ขนมถุงแดงเขียวนี้ยังหากินง่ายอีกด้วย โดยบริษัทแฟชั่นฟู้ดเน้นกลยุทธ์กระจายสินค้าออกไปสู่หน้าร้านจัดจำหน่ายให้ได้เยอะที่สุด เพื่อส่งขนมถึงมือผู้คน เราจะเห็นว่า ขนมมะเขือเทศ รวมถึงสินค้าแบรนด์เอฟเอฟ วางขายทั้งร้านในห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด ซุปเปอร์มาเก็ต เซเว่นอีเลฟเว่น และตามร้านขายของชำทั่วประเทศ โดยจะเน้นไฮเปอร์มาร์เก็ต และระบบค้าส่งที่จะเป็นจุดกระจายหลักๆ มากกว่า เรียกได้ว่า มัดใจตลาด Mass ได้อยู่หมัด ในต้นทุนที่ต่ำกว่าแบรนด์ใหญ่ๆ
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีบริษัท แฟชั่นฟู้ด จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2563 ทำรายได้ 939 ล้านบาท กำไร 13 ล้านบาท ปี 2564 รายได้ 935 ล้านบาท กำไร 20 ล้านบาท และปี 2565 รายได้ 953 ล้านบาท ขาดทุน 27 ล้านบาท โดยปัจจุบัน แฟชั่นฟู้ดส่งออกขนมไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา แคนาคา ยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย และในเอเชียอย่างฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว เมียนมา กัมพูชา
และสุดท้ายต้องยอมรับว่า ผลจากการโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของบรรดาไอดอลเกาหลีที่ได้สัมผัสรสชาติและต้องการบอกต่อความอร่อยนี้ เปิดการมองเห็นขนาดใหญ่ สร้างอิมแพคมหาศาลให้กับแบรนด์ขนมของเอฟเอฟเป็นอย่างมาก ทำให้ ‘ขนมมะเขือเทศและขนมพริกหยวก’ ดังเป็นพลุแตก ทำให้ผู้ที่ไม่เคยลองอยากซื้อกินตามๆ กัน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของแบรนด์ไทยร้อยเปอร์เซนต์ที่มีศักยภาพ จุดแข็งของสินค้าและแบรนด์ดิ้งที่มีฐานแกร่ง พร้อมกับการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคที่ลงตัวเหมาะเจาะ กลายเป็นกระบอกเสียงสำคัญ ทำให้แบรนด์ FF โกอินเตอร์ กลายเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ให้กับประเทศอีกด้วย