สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เทียบความแตกต่างระหว่าง "สลากดิจิทัล" กับ "สลากโครงการสลาก 80" พร้อมแนะวิธีการขึ้นเงินรางวัล


พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยถึงกรณีการซื้อสลากที่มีตราประทับแล้วเกิดปัญหาขึ้นเงินรางวัลไม่ได้ อาจเกิดจากการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนสับสนระหว่างสลากที่จำหน่ายในโครงการสลาก 80 กับสลากดิจิทัล พร้อมทั้งได้ชี้แจงให้ทราบถึงความแตกต่าง ดังนี้

สลากที่จำหน่ายในโครงการสลาก 80

  • ผู้ซื้อเลือกซื้อสลากแบบใบจากจุดจำหน่ายของโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศ (ปัจจุบันมี 1,129 จุดจำหน่าย) ซึ่งขายในราคาไม่เกิน 80 บาททุกใบ
  • ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"
  • เมื่อถูกรางวัล ผู้ซื้อสลากจะต้องนำใบสลากที่ถูกรางวัลไปขอรับเงินรางวัลเท่านั้น ไม่สามารถนำข้อมูลของสลากที่อยู่ในแอปพลิเคชันเป๋าตังไปขอรับเงินรางวัล
  • สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สนามบินน้ำ) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ทุกสาขาทั่วประเทศ

สลากดิจิทัล

  • ผู้ซื้อเลือกซื้อสลากแบบดิจิทัลจากแอปพลิเคชันเป๋าตังโดยตรง
  • ซื้อชำระเงินค่าซื้อสลากโดยชำระเงินผ่าน แอปพลิเคชันเป๋าตัง
  • ผู้ซื้อจะได้รับข้อมูลของใบสลากที่ซื้อไว้ปรากฏในแอปพลิเคชันเป๋าตัง
  • สามารถขึ้นเงินรางวัลได้โดยการเลือกการขึ้นเงินรางวัลจากการโอนเงินเข้า G-Wallet หรือหากต้องการมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะต้องนำข้อมูลของสลากที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" พร้อมบัตรประชาชนมาแสดงเพื่อขอรับเงินรางวัล

...

อย่างไรก็ตาม กรณีสลากที่ประทับตรา เป็นสลากที่จำหน่ายในโครงการสลาก 80 ซึ่งสำนักงานฯ จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท ขณะนี้สำนักงานฯ มีจุดจำหน่ายสลากตามโครงการ จำนวน 1,129 จุดทั่วประเทศ ประชาชนสามารถค้นหาจุดจำหน่าย ได้จากเว็บไซต์สำนักงานฯ www.glo.or.th หรือสอบถามที่ ศูนย์ Call Center 0-2528-9999

สำหรับสลากในโครงการสลาก 80 ทุกใบ ทุกหมายเลขราคา 80 บาท โดยผู้ซื้อจะได้ใบสลากมาครอบครอง ส่วนการขึ้นเงินรางวัล ต้องนำใบสลากมาขึ้นรางวัลเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า สลากที่มีตราประทับทุกใบ สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ทุกช่องทางของสำนักงานฯ อย่างแน่นอน.