หลังจากจบนอกมาหมาดๆ ก็พกความหล่อ เท่ แถมหัวใจยังโสด มาเรียกคะแนนจากสาวไทยไปเต็มๆ สำหรับหนุ่มน้อยหน้าใส ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ หลานชายอดีตนายก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะบอกว่ายิ่งโตก็ยิ่งหล่อ แถมบางมุมก็ดูเหมือนคุณน้าอภิสิทธิ์ยังกับฝาแฝด!

ไทยรัฐออนไลน์ เห็นความเคลื่อนไหวของหนุ่มคนนี้จากการที่เขาเข้าไปสมัครทหารเกณฑ์ด้วยตัวเอง สร้างความฮือฮาในสังคมมากทีเดียว บ้างก็ว่าทำเพื่อเรียกคะแนนทางการเมือง บ้างก็ว่าไปสมัครเพราะเห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหาร

เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งคิดไปเอง ลองมาทำความรู้จักตัวตนของหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้นก่อน รวมถึงจะพาไปอัพเดตไลฟ์สไตล์ของหนุ่มไอติม ผ่านบทสัมภาษณ์บางช่วงบางตอนจากรายการดังเอามาให้อ่านกัน 

1. ไอติม หรือ พริษฐ์ วัชรสินธุ ปัจจุบันอายุ 25 ปี เพิ่งเรียนจบจากคณะปรัชญาเศรษศาสตร์และการเมือง ปริญญาตรีควบปริญญาโท มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ สมัยที่ยังเรียนอยู่เคยถูกรับเลือกให้เป็น ประธานชมรมโต้วาที แห่งเมืองออกซ์ฟอร์ด ถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้

...

2. ไอติมเป็นลูกชายของศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ อาจารย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับศาสตราจารย์แพทย์หญิง อลิสา วัชรสินธุ อาจารย์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ 

อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นน้องชายของแพทย์หญิงอลิสา คุณแม่ของไอติม ดังนั้นจึงมีศักดิ์เป็นน้าชายของหนุ่มไอติม

3. ล่าสุด มีประเด็นโด่งดังในโซเชียล เมื่อหนุ่มคนนี้เข้าไปสมัครทหารเกณฑ์ด้วยตัวเอง เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์กันว่า หนุ่มไอติมเห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหารใช่หรือไม่? ซึ่งประเด็นนี้หนุ่มไอติมออกมาชี้แจงผ่านช่องทางโซเชียลว่า

"เมื่อวันก่อน ผมได้เดินทางไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ที่วัดทองใน เขตสวนหลวง ขอใช้พื้นที่นี้ตอบ 3 คำถามที่หลายคนถามเข้ามา

Q1. ทำไมถึงสมัครเป็นทหารเกณฑ์?

ในฐานะประชาชนคนไทย ผมมีหน้าที่มาเกณฑ์ทหารตามกฎหมาย เนื่องจากผมศึกษาอยู่ต่างประเทศช่วงมัธยมทำให้ผมไม่ได้มีโอกาสเรียน ร.ด. ผมมีทางเลือก 2 ทางเลือก คือ สมัครไปเลย หรือ จับใบดำใบแดง ผมตัดสินใจสมัครไปเลย เพราะ

1) ผมต้องการเลือกช่องทางที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน และโปร่งใสที่สุด
2) ผมเป็นคนรักเสรีนิยม การที่ตัดสินใจมาก่อนว่าจะสมัคร ทำให้ผมรู้สึกว่าได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ต้องการทำ ไม่ใช่การเสี่ยงโชค แล้วได้ใบที่ไม่ต้องการ

Q2. การเป็นทหารเกณฑ์ 6 เดือนจะกระทบงานทางการเมืองที่ผมได้ประกาศไว้ไหมว่าอยากจะสร้าง พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ที่ชัดเจนขึ้นในอุดมการณ์ เสรีนิยมประชาธิปไตย?

เรื่องนี้มี 2 ประเด็น
1) สิ่งที่สำคัญกว่าการที่ผมเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองใดๆ ก็คือผมเป็นคนไทย ที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันกับคนไทยคนอื่น ดังนั้น ขณะนี้ผมต้องมุ่งมั่นทำหน้าที่ในส่วนนี้ก่อน
2) ผมไม่ใช่คนเดียวที่พยายามจะสร้าง พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เพื่อนร่วมงานผมรู้และเตรียมตัวมานานแล้ว

...

Q3. การที่ผมสมัครไปเป็นทหารเกณฑ์ แสดงว่าผมคิดว่าชายไทยทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร?

เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ว่าผมจะคิดยังไงเกี่ยวกับรูปแบบการเกณฑ์ทหารในอนาคต ผมมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ผมเชื่อว่าเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการมีการเกณฑ์ทหารนั้นคือการที่อยากเห็นประชาชนและเยาวชนทำประโยชน์เพื่อสังคม" 

...

4. ปัจจุบันหนุ่มไอติมทำงานอยู่ 2 อย่าง คือ เข้ามาทำงานการเมือง มุ่งมั่นที่จะปรับพรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่ยุคใหม่ และอีกอย่างคือทำรายการทีวี 'เห็นกับตา' เป็นสารคดีที่ตามติดดูอาชีพแต่ละอาชีพ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวันของคนแต่ละอาชีพ

5. ไอติมเป็นคนสนใจการเมืองมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เกี่ยวกับว่าได้รับอิทธิพลจากน้าชาย แต่ชอบเอง อยากเรียนเอง เลือกเรียนสาขานี้เองโดยที่น้าชายไม่ได้รู้เรื่องแต่แรก เพื่อนๆ มักจะแซวว่า สามารถโยงทุกเรื่องในชีวิตประจำวันให้เป็นเรื่องการเมืองได้

...

6. หนุ่มไอติมนิยามตัวเองว่า 1) เป็นคนจริงจังมากเวลาทำงาน 2) เป็นคนไร้สาระเวลาอยู่กับเพื่อน 3) เป็นคนใช้ชีวิตง่ายๆ 

"ผมกินมื้อเช้าเมนูเดิมๆ ติดกันมา 2-3 อาทิตย์แล้ว ก็คือข้าวไข่ดาว กินทุกเช้าเลย ตอนเย็นชอบไปร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ซื้อข้าวกะเพราไข่ดาวมากิน เพราะมันลดราคา ผมมีรองเท้าทั้งหมด 5 คู่ มีรองเท้าคัทชูสีดำ รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ รองเท้ายิม รองเท้าบอล"

7. ไอติมไม่ชอบการเปรียบเทียบ ไม่อยากเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะคิดว่ามันไม่แฟร์ "ผมไม่ได้เพอร์เฟกต์ไปกว่าคนอื่นหรอกครับ"

8. หนุ่มไอติมเป็นคนบ้ากีฬาฟุตบอลเข้าเส้น เริ่มเชียร์บอลตั้งแต่ 9 ขวบ เป็นแฟนตัวยงของทีมลิเวอร์พูล ชอบเตะฟุตบอล ชอบดูบอล เล่นเกมแฟนตาซีพรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาติดอันดับ 200 ของประเทศด้วย

9. ตอนนี้หนุ่มไอติมโสดสนิท และยังอยากใช้ชีวิตโสดไปเรื่อยๆ คนที่ใช่เดี๋ยวก็คงเจอเอง ส่วนสเป็กสาวๆ หนุ่มไอติมบอกว่า ไม่มีสเปก ไม่อยากเหมารวม มองว่าแต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง

10. ถ้าไม่ทำงานด้านการเมือง หนุ่มไอติมคิดอยากไปสมัครทำงานเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอล 

ที่มาภาพ : IG paritw , ItimFcThai

ที่มาเนื้อหาบางส่วน : Thestandard Daily