กลายเป็นโรคยอดฮิตของคนในยุคดิจิทัล ที่มีชีวิตเกินครึ่งอยู่ในโลกออนไลน์ และอุปกรณ์สมาร์ทโฟน อย่างน้อยก็วันละ 7-8 ชั่วโมง สำหรับ โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) ที่ทำให้เกิดอาการปวดและชาตามมือ เท้า
มีข้อมูลว่า พฤติกรรมการใช้งานข้อมือซ้ำๆอย่างการคลิกเม้าส์หรือใช้สมาร์ทโฟนตลอดเวลาของคนวัยทำงาน อาจทำให้เกิดโรคปลายประสาทอักเสบได้ โดยส่วนใหญ่มักมีสัญญาณเริ่มต้นอย่างอาการมือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อก ไปจนถึงการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็น นิ้วมือเพราะกล้ามเนื้อไปกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วล็อก หรือข้อมือล็อกได้
เพจดังอย่าง...สาระสุขภาพยาน่ารู้โดยเภสัชกรอุทัย เขียนโดย ภก.อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล โพสต์ข้อความให้ความรู้เรื่องโรคปลายประสาทอักเสบ ว่า ปลายประสาทอักเสบ เป็นภาวะที่เส้นประสาทซึ่งเชื่อมต่ออวัยวะต่างๆในร่างกายไปยังสมองและไขสันหลังเกิดความเสียหาย
...
สาเหตุของโรค อธิบายอย่างง่ายๆ เปรียบเทียบร่างกายเรามีศูนย์กลางอยู่ที่สมอง เป็นอวัยวะสั่งการ คิด ตอบสนองกับสิ่งเร้า โดยการส่งสัญญาณไปขยับร่างกาย กิน นั่ง นอน เล่นเกม มากมายในชีวิตเรา การสั่งการเช่นนี้จากสมองเราจะมีเส้นประสาทลากยาวจากสมองไปยังทุกๆส่วนของอวัยวะในร่างกายของคนเรา ระบบประสาทส่วนปลายจะทำหน้าที่รับคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลาง แล้วส่งต่อคำสั่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและรับความรู้สึกได้
ภก.อุทัย บอกว่า สมองเราจะสั่งงานผ่านเจ้าสายไฟเล็กในเส้นประสาทในร่างกายเรา ที่เรียกกันว่า ระบบประสาทส่วนปลาย โดยจะมีเส้นประสาททำหน้าที่เหมือนเป็นสายไฟฟ้าในการนำคำสั่งไปตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งเส้นประสาทส่วนปลายที่ออกจากสมองมี 12 คู่ซ้ายและขวา แต่ละคู่ควบคุมการทำงานในแต่ละส่วนของร่างกายที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไป ซึ่งถ้ามีการผิดปกติหรืออักเสบที่ไหน ก็จะไปแสดงอาการตามมาตามกลุ่มของเส้นประสาท ทำให้อาการโรคแสดงออกมาแตกต่างกัน
เช่น ถ้าเป็นเส้นประสาทคู่ที่ 5 หรือเส้นประสาทใบหน้า (trigeminal nerve) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อในการเคี้ยวอาหารและรับความรู้สึกบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส ความรู้สึกร้อนหรือเย็น เมื่อมีสิ่งรบกวนที่ทำให้การทำงานของเส้นประสาทผิดปกติก็อาจส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น มีอาการปวดแปลบคล้ายไฟช็อตที่บริเวณใบหน้า ในบางรายอาจมีอาการคล้ายปวดฟัน หรือปวดบริเวณเหงือกร่วมด้วย ทั้งนี้ อาการของโรคปวดเส้นประสาทใบหน้ามักเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ คือเป็นๆหายๆ แต่สามารถเกิดขึ้นซ้ำเรื่อยๆในระหว่างวัน โดยอาจมีอาการเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้นบริเวณใบหน้า เช่น การสัมผัส ลมพัด ล้างหน้า โกนหนวด แปรงฟัน ฯลฯ ปลายประสาทอักเสบส่วนมากมักจะพบในผู้สูงอายุ แต่ก็มีบ้างที่พบในคนอายุยังน้อย และ อาการที่เรียกว่าปลายประสาทอักเสบนั้น บางครั้งก็เรียกว่าระบบประสาทส่วนปลายทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจไม่ได้แปลว่าปลายประสาทอักเสบทุกครั้ง
...
เพราะคำว่า อักเสบ จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ คือ ปวด บวม แดง ร้อน หรือถ้าดูในกล้องจุลทรรศน์จะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมาก แสดงว่ามีปฏิกิริยาต่อการอักเสบ ในที่นี้อักเสบคือ ระบบปลายประสาททำงานผิดปกติ ไม่ใช่อักเสบแดงๆล้นหลาม ร้อน หรืออักเสบติดเชื้อ จะได้ไม่งง เวลาหมอจ่ายยามาให้
เส้นประสาทอักเสบทำไมไม่จ่ายยาแก้อักเสบแบบยาฆ่าเชื้อ!!!!!
สาเหตุของโรคปลายประสาทอักเสบ แบ่งได้ 5 กลุ่ม คือ
1.มีการอักเสบจริงๆที่ระบบประสาทส่วนปลาย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ เช่น เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน, กลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนแรง ชา แต่ยังสามารถไปไหนมาไหนได้ ทำงานได้ ในผู้ป่วยที่เป็นรุนแรงจนถึงกล้ามเนื้อสำคัญๆ เช่น กล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจ อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นการอักเสบที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ตัวเองของร่างกาย ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะสามารถฟื้นได้ โดยการให้ยาบางชนิดเป็นยากลุ่มที่เป็นเซรั่มแก้อาการแพ้เข้าไปช่วย หากติดเชื้อรุนแรงบริเวณกล้ามเนื้อสำคัญบริเวณแขน ขา อาจมีอาการอ่อนแรง บางรายถึงขั้นต้องทำกายภาพบำบัด
2.กลุ่มที่ขาดวิตามิน หรือสารบางชนิด เช่น วิตามินบี ซึ่งพบผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้น้อย เนื่องจากปัจจุบันมีการบริโภคอาหารที่ดีขึ้น 3.ผลมาจากพิษต่างๆ เช่น พิษจากตะกั่ว โลหะหนัก พิษเหล่านี้จะทำให้ระบบประสาทส่วนปลายเสียไปมักจะเป็นที่ปลายมือปลายเท้า
4.ความผิดปกติที่ระบบประสาทส่วนกลาง ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่คล้ายจะเป็นที่ระบบประสาทส่วนปลาย แต่เป็นความผิดปกติที่ระบบประสาทส่วนกลาง คือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับไขสันหลัง เช่น มีเนื้องอกไปกดทับที่เส้นประสาท หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทบริเวณบั้นเอว ซึ่งพบได้บ่อย จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการชา อ่อนแรง และมีอาการปวด เสียการทรงตัวเนื่องจากขาอ่อนแรง ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีปัญหาหมอนรองกระดูกจะมีท่าเดินลักษณะเฉพาะ หรือบางครั้งอ่อนแรง และ 5.โรคเบาหวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปลายประสาทอักเสบ โดยกลุ่มนี้มีจำนวนไม่น้อย
...
โรคปลายประสาทอักเสบอาจดูเหมือนไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ หากเริ่มรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ ชาตามมือ เท้า หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรง มีอาการชาบริเวณใบหน้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์ด้านประสาทวิทยาจะรู้อยู่แล้วว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากเส้นประสาทส่วนไหน การรักษาก็จะเป็นไปตามแนวของเส้นประสาทที่ผิดปกติ
สำคัญที่สุด คือ ถ้ารู้ว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดปลายประสาทอักเสบ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อย่ารอให้ป่วยแล้วค่อยไปรักษา ควรป้องกันก่อนป่วยจะดีที่สุด.