รู้หรือไม่? "โยคะ" ไม่ได้แค่ช่วยในเรื่องฝึกสมาธิ และยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้าเท่านั้น แต่การ "ออกกำลังกาย" แบบนี้ ยังช่วยสาวๆ "ลดน้ำหนัก" ได้ผลเป็นอย่างดี

Thairath Women จะมานำเสนอท่าเล่น "โยคะ" ที่เน้นออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้ทั่วทั้งร่างกายเพื่อสลายไขมัน ช่วยลดน้ำหนักได้จริง แถมช่วยกระชับหุ่นได้เพียวสวยมากขึ้น

ทั้งนี้ทั่วๆ ไป มีการระบุไว้ว่า โดยเฉลี่ยแล้วหากเราเล่นโยคะ (แบบปกติ) ประมาณ 1 ชั่วโมง ร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 150-500 แคลอรี ขึ้นอยู่กับท่าโยคะ และความสามารถในการเกร็งและค้างท่าของแต่ละคนเวลาเล่นโยคะ ดังนั้นหากสามารถเล่นโยคะได้ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน ก็จะสามารถเผาผลาญพลังงานไปได้อย่างน้อย 300-1,000 แคลอรี (ยิ่งเป็นโยคะร้อน คือ การเล่นโยคะในห้องเปิดโล่งไม่ติดแอร์ ก็จะยิ่งเผาผลาญได้เร็วขึ้น)

...

ขณะที่อีกมุมหนึ่ง ข้อมูลวิจัยจาก Harvard Medical School ระบุว่าการ "ออกกำลังกาย" ด้วยโยคะอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน จะช่วยให้คุณเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 120-178 แคลอรี ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละคน

แล้วถ้าอยาก "ลดน้ำหนัก" ให้ได้เยอะๆ กว่านี้ล่ะ ต้องทำแค่ไหน? ก็มีการคำนวณต่อจนพบว่า ควรเล่นโยคะเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน จะสามารถเผาผลาญได้ถึงวันละ 550 แคล ซึ่งทำให้คุณสามารถ "ลดน้ำหนัก" ได้ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ หรือ เดือนละ 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว!

How to "โยคะ" เพื่อลดน้ำหนัก!

จริงๆ แล้ว ท่าสำหรับเล่น "โยคะ" มีให้เลือกทำหลากหลายท่า ทั้งแบบพื้นฐานและแบบ Advance โดยทั่วไปคนเล่นโยคะจะทำท่าต่างๆ หมุนเวียนกันไป 12-15 ท่า ขึ้นอยู่กับเวลาที่เรากำหนด เช่น 1 ชั่วโมง, 2 ชั่วโมง, 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งหัดเล่น แนะนำให้ทำท่าพื้นฐานง่ายๆ ก่อน และนี่คือ 5 ท่าแนะนำสำหรับมือใหม่หัดเล่น "โยคะ" ที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

1. โยคะท่านักรบ (Warrior Pose)

เริ่มจากท่าแรก เป็นวิธีเล่นโยคะที่ใช้บริหารกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วนได้พร้อมกันในท่าเดียว เช่น ไหล่ หลัง ต้นขา เอว สะโพก ช่วยลดไขมันรอบๆ สะโพก อีกทั้งช่วยยืดเหยียดเส้นเอ็น หลัง ไหล่ ข้อเท้า บรรเทาอาการปวดหลัง ไหล่ คอ ปวดเอว ปวดเข่า ปวดน่อง และข้อเท้า

วิธีฝึก : ยืนตรง ปลายเท้าชิดกัน ลำตัวตรง แล้วก้าวขาซ้ายไปข้างหลังให้กว้างพอประมาณ พร้อมกับชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ เหยียดตรง เอาแขนแนบหูไว้เพื่อให้แขนตรงตลอดเวลา หน้าอกจะยกขึ้น จะรู้สึกเกร็งบริเวณเนินอก ไหล่ ต้นแขน ก้น สะโพก ต้นขา

จากนั้นงอเข่าขาขวาในลักษณะมุมฉาก แล้วถ่ายน้ำหนักไปด้านหน้าของลำตัว แต่ลำตัวส่วนบนยังคงตั้งตรงอยู่ ค้างไว้ 15-20 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น แล้วทำสลับกับขาอีกข้าง 

2. โยคะท่างู (Cobra Pose)

ส่วนโยคะท่านี้ จะช่วยเผาผลาญไขมันช่วงหน้าท้อง ก้น ต้นแขน ต้นขา ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องส่วนบน ลดการปวดประจำเดือน นอกจากนี้ยังช่วยให้กระดูกสันหลังแข็งแรง

...

วิธีฝึก : นอนคว่ำวางลำตัวนอนราบไปกับพื้น ขาเหยียดตรง งอข้อศอกวางฝ่ามือบริเวณข้างๆ ลำตัวทั้งสองข้าง แล้วค่อนดันฝ่ามือกับพื้น ยกลำตัวด้านบนขึ้น พยายามดัดตัวไปข้างหลังให้มากที่สุด จากนั้นค้างไว้ 15-20 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น

3. โยคะท่าเรือ (Boat Pose)

โยคะท่าเรือช่วยให้คุณลดไขมันหน้าท้อง ช่วยป้องกันไขมันที่อาจจะก่อตัวบริเวณเอว และบริหารกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร ทั้งยังเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและขา ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลังและสะโพกแข็งแรง ช่วยลดความเครียด ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และอวัยวะภายใน

วิธีฝึก : เริ่มด้วยการนั่งลงกับพื้นให้หลังตั้งตรง ขาเหยียดตรง หายใจเข้า เหยียดแขนชี้ไปข้างหน้า หายใจออกแล้วเอนตัวไปข้างหลัง จากนั้นค่อยๆ เกร็งหน้าท้องแล้วยกขาขึ้นจากพื้น ทำมุมประมาณ 45 องศา ปลายเท้าอยู่สูงเหนือระดับศีรษะ

จากนั้นยกแขนขึ้นให้แขนเหยียดตรง ขนานกับพื้นในแนวเดียวกับหัวไหล่ พยายามทรงตัวให้อยู่ในท่าสมดุล ค้างไว้ 10-20 วินาทีแล้ววางแขนและขาลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น

...

4. โยคะท่าธนู (Bow Pose)

เป็นท่าที่ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง หลังส่วนล่าง แขน และขาของเราได้เป็นอย่างดี ยิ่งกับคนที่วันๆ นั่งติดเก้าอี้ ไม่ค่อยได้ลุกไปไหน ได้เวลามาผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อร่างกายด้วยท่านี้กันแล้ว

วิธีฝึก : เริ่มจากนอนคว่ำ เท้าแยกกันพอประมาณ หน้าคว่ำ หน้าผากจรดพื้น จากนั้นงอเข่า ให้มือซ้ายจับข้อเท้าซ้าย มือขวาจับข้อเท้าขวา หายใจเข้า แล้วยกลำตัวและศีรษะขึ้น พร้อมกับใช้มือดึงข้อเท้า เพื่อยกเข่าและต้นขาขึ้นจากพื้น หลังจากยกขาได้สูงสุด ให้บีบเข่าและปลายเท้าเข้าหากันให้มากที่สุด ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาที แล้วคลายท่ากลับสู่จุดเริ่มต้น

5. โยคะเข่าชิดอก (Knee to Chest Pose)

...

โยคะท่านี้ช่วยลดไขมันหน้าท้องส่วนล่าง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรง ช่วยลดอาการแน่นท้องเนื่องจากแก๊สในกระเพาะ ลดอาการท้องผูก เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมองและคอ แก้ปวดหลัง

วิธีฝึก : นอนราบ เท้าเหยียดตรง แขนวางข้างลำตัว หายใจเข้าช้าๆ พร้อมกับยกเข่าทั้งสองข้างขึ้นชิดหน้าอก และใช้มือทั้งสองข้างกอดขาทั้งสองข้างนับ 1 2 3 แล้วหายใจออกพร้อมกับคลายท่า หากทำจนเกิดความชำนาญและร่างกายแข็งแรง ให้ยกลำตัวและศีรษะขึ้น ให้ศีรษะจรดเข่า

แนะนำว่าฝึกทำแค่ 5 ท่านี้ให้ชำนาญก่อน แล้วค่อยมาเพิ่มเติมท่าอื่นๆ ที่เหลือให้ครบ 12 ท่ากันในคราวหน้านะคะ ติดตามอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ "ผู้หญิง" ได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

ที่มา : harvard, wecandietyosanayogaspells