สาวๆ บางคนกำลังประสบปัญหาผมร่วงเยอะ ถึงเยอะมากๆ จนทำให้ผมบางลงๆ ทุกวัน ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ อาจจะหัวล้านก่อนวัยอันควร จะออกไปไหนก็ไม่มั่นใจ ทำไงดี?

นอกจากผิวพรรณ หน้าตา เสื้อผ้า กระเป๋า ที่สาวๆ อย่างเราให้ความสำคัญแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ห้ามมองข้ามก็คือ การดูแลเส้นผมให้สุขภาพดี ลดปัญหาผมร่วง ผมขาด แก้ปัญหาผมบาง ถ้าใครผมร่วงหนักๆ ละก็ ต้องตามมาดูทางนี้ ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมเคล็ดลับป้องกันผมร่วงมาให้คุณแล้ว

1. เลือกแชมพูให้เหมาะสม

เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมให้เหมาะกับสภาพเส้นผม เลือกใช้แชมพูอ่อนๆ ที่มีส่วนประกอบแบบ organic และไม่เป็นด่างมากเกินไป แชมพูและครีมนวดให้เลือกที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของตัวเอง มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน แคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม อย่าใช้แชมพูที่มีพาราเบน หรือซิลิโคน เพราะจะยิ่งทำให้ผมร่วงง่าย

2. สระผมให้ถูกวิธี

ไม่ควรสระผมเกินวันละ 1 ครั้ง ก่อนการสระผมด้วยแชมพู ควรล้างผมด้วยน้ำเปล่าก่อนเป็นเวลา 15 วินาที ก่อนที่จะลงแชมพูทุกครั้ง ในขณะสระผมไม่ควรขยี้ผมหรือเกาหนังศีรษะแรงๆ เพราะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อของหนังศีรษะ แต่ให้เปลี่ยนมาสระผมโดยใช้วิธีนวดหนังศีรษะแทน โดยใช้ปลายนิ้วนวดเป็นวงกลมเบาๆ จะช่วยถนอมเส้นผมและหนังศีรษะ และช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้นอีกด้วย

...

3. อย่าสระผมด้วยน้ำอุ่น

หลายคนอาจจะชอบสระผมด้วยน้ำอุ่น แต่รู้หรือไม่? น้ำอุ่นนี่แหละเป็นตัวการทำร้ายเส้นผม ทำให้ผมแห้งแตกปลาย หนังศีรษะแห้ง จนในที่สุดเส้นผมก็มีสภาพอ่อนแอและหลุดร่วงจากหนังศีรษะได้อย่างง่ายดาย ควรเปลี่ยนมาใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการสระผม ก็จะช่วยลดปัญหาผมร่วงที่เกิดขึ้นได้

4. อย่ารุนแรงกับผม!

ในขณะผมเปียกชื้น เส้นผมจะอ่อนแอมากที่สุด หลังสระผมไม่ควรเช็ดผมแรงๆ หรือหวีผมแรงๆ เพราะจะไปทำลายสารเคลือบผมและโปรตีนในเส้นผม จึงควรค่อยเช็ดให้แห้ง หวีให้เบามือที่สุด และควรเป่าให้แห้งด้วยลมเย็น

5. ไม่นอนทับผมเปียก ระวังเชื้อรา

ไม่เข้านอนในขณะผมยังเปียกชื้นอยู่ เนื่องจากเชื้อราที่เกิดจากความเปียกชื้นจะก่อตัวจับกลุ่มกันที่บริเวณหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะมีกลิ่นเหม็นอับ เกิดอาการคัน และเป็นรังแค ทำให้รากผมไม่แข็งแรง สุดท้ายผมก็จะหลุดร่วงได้ง่าย แถมเชื้อราบนหนังศีรษะนี่รักษากันยาว กว่าจะหาย ผมก็ร่วงไม่หยุด ไม่ดีๆ 

6. หลีกเลี่ยงความร้อนสูง ทำสี ย้อม ดัด

หลีกเลี่ยงการไดร์ผมหรือหนีบผม ด้วยความร้อนสูงเป็นประจำ เพราะจะทำให้ผมแห้งเสีย แตกปลาย เปราะบางและหลุดร่วงได้ง่าย ถ้าจำเป็นต้องไดร์ร้อน ก็ถือไดร์ให้ห่างๆ จากผม หรือเคลือบเส้นผมด้วยเซรั่มป้องกันความร้อนก่อนการจัดแต่งทรงผม อีกอย่างคือหลีกเลี่ยงการย้อมสีผมหรือยืดผมซ้ำๆ บ่อยๆ ก็จะดี 

7. รู้จักเลือกผลิตภัณฑ์แต่งผม

ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมส่วนมากจะมีเนื้อหนาและหนัก เพื่อช่วยล็อกทรงผมให้อยู่ทรงได้ตลอดทั้งวัน มักมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่มาก ซึ่งแอลกอฮอล์นี่แหละที่ทำให้ผมแห้ง พันกัน หลุดร่วงง่าย ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีสารอาหารบำรุงผม จะช่วยลดปัญหาผมร่วงได้

8. อย่ามัดผมแน่น+ล้างหวีบ้าง 

การมัดผม รวบผม หรือการถักเปียที่แน่นมากจนเกินไป ก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ง่าย ควรปล่อยผมให้ทิ้งตัวสบายๆ บ้าง หรือเลือกทรงผมที่ไม่ดึงรั้งผมมากจนเกินไป และอีกอย่างคือ ควรทำความสะอาดหวีหรือแปรงอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เนื่องจากสิ่งสกปรกและน้ำมันที่ตกค้างอยู่ตามซอกหวีหรือแปรง อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค อาจทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะจนผมร่วงเป็นกระจุกๆ เอาได้

...

9. สูตรบำรุงผม แก้ผมร่วง

- กินอาหารมีประโยชน์ เน้นโปรตีน ไบโอติน ซิงค์ เป็นต้น

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนหนังศีรษะ ช่วยให้รากผมแข็งแรง

- นวดศีรษะด้วยมือเป็นประจำ วันละไม่กี่นาที เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ 

- หมักผมด้วยของธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้งผสมไข่แดง, น้ำแอปเปิ้ลหมัก 1/2 ชั่วโมง แล้วล้างออกก่อนสระผม ก็จะช่วยบำรุงเส้นผมและลดผมร่วงได้ หรือหมักผมด้วยน้ำชาเขียว สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในชาเขียวช่วยป้องกันผมร่วง รวมถึงเร่งให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดีขึ้น นำมาชโลมให้ทั่วหนังศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะล้างออก เป็นต้น

10. พบแพทย์

ถ้าลองทำตามวิธีต่างๆ ด้านบนแล้ว ก็ยังผมร่วงหนักเหมือนเดิม แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด่วนๆ เพราะอาการผมร่วงบางประเภทสามารถรักษาอย่างได้ผล ยกเว้นผมร่วงที่เกิดขึ้นแบบถาวร 

ในทางการแพทย์การรักษาผมร่วง ได้แก่ การใช้ยารักษา การผ่าตัด การรักษาด้วยเลเซอร์ ซึ่งแพทย์อาจแนะนำการรักษาแบบผสมผสานด้วยวิธีเหล่านี้ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด เป้าหมายของการรักษาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม และชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม

...

ปัจจุบันมียาที่ได้รับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เพื่อใช้รักษาผมร่วง ได้แก่ ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) มีทั้งชนิดน้ำและโฟม ใช้ทาที่หนังศีรษะวันละ 2 ครั้ง มีจำหน่ายตามเคาน์เตอร์ทั่วไป โดยสรรพคุณของยาชนิดนี้จะช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยป้องกันไม่ให้ผมร่วง

สามารถใช้ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อใช้ยาไปจนถึง 16 สัปดาห์ แต่อาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ได้แก่ การระคายเคืองหนังศีรษะ การเกิดผมงอกขึ้นมาในที่ที่ไม่ต้องการ เช่น ที่ใบหน้าหรือมือ และอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วได้ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา

ที่มา : medthaipobpad