“มันอยู่ใกล้มากครับ” เคร์มัน การ์โรเต กระซิบ พร้อมกับชี้ไปยังเครื่องรับสัญญาณวิทยุแบบมือถือที่กำลังรับสัญญาณ จากเอเลนา ณ ที่ใดที่หนึ่งในสวนมะกอกริมทางหลวงอันจอแจทางตอนใต้ของประเทศสเปน แมวป่าลิงซ์ไอบีเรียกับลูกสองตัวอาจเฝ้ามองเราอยู่ หากไม่ได้ปลอกคอติดเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า แมวป่าที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งในโลกกำลังหมอบอยู่ท่ามกลางแถวต้นไม้ที่ปลูกเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ

“เมื่อสิบปีก่อน เราคาดไม่ถึงเลยครับว่า แมวป่าลิงซ์จะขยายพันธุ์ในถิ่นอาศัยแบบนี้ได้” การ์โรเตกล่าว เขาเป็นนักชีววิทยาในโครงการไลฟ์+ไอเบอร์ลินซ์ (Life+Iberlince Project) ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรกว่า 20 องค์กรนำโดยรัฐบาลที่ทำงานเพื่อคืนสัตว์นักล่าลายจุดชนิดนี้สู่คาบสมุทรไอบีเรีย

...

ที่จริงแมวซึ่งมีดวงตาสีเหลืองอำพันและเคราเป็นพุ่มชนิดนี้ เริ่มฟื้นตัวขึ้นในที่สุดหลังจากลดจำนวนลงเป็นเวลาหลายทศวรรษ ตอนที่ไอเบอร์ลินซ์ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเมื่อปี 2002 มีแมวป่าลิงซ์กระจายอยู่ทั่วป่าไม้พุ่มในแถบเมดิเตอร์เรเนียนไม่ถึงหนึ่งร้อยตัว จำนวนของพวกมันถดถอยจากการล่าและไวรัสที่เกือบกำจัดกระต่ายพันธุ์ยุโรปซึ่งเป็นอาหารหลักให้หมดไปจากภูมิภาค ประชากรของแมวป่าลิงซ์ลดลงจนความหลากหลายทางพันธุกรรมของพวกมันลดต่ำถึงระดับอันตราย

เคราะห์ดีสำหรับนักวิทยาศาสตร์ แมวป่าลิงซ์ขยายพันธุ์ได้ดีในสถานเพาะเลี้ยง และตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา มีแมวป่าลิงซ์จำนวน 176 ตัวได้รับการปล่อยคืนสู่ถิ่นอาศัยที่ได้รับการคัดเลือก พวกมันมีอัตราการรอดชีวิตราวร้อยละ 60 และมี สองสามตัวใช้ชีวิตได้เก่งกว่าที่คาดการณ์ไว้

ในบรรดาแมวป่าทั่วโลกทั้งหมด 38 ชนิด 31 ชนิดจัดเป็นสัตว์วงศ์แมวขนาดเล็ก โดยมีขนาดหลากหลายตั้งแต่ แมวลายจุดสีสนิมหนัก 1.5 กิโลกรัม จนถึงแมวป่าลิงซ์ยูเรเชียหนัก 20 กิโลกรัม พวกมันอาศัยอยู่ในห้าทวีปจากเจ็ดทวีปของโลก (ยกเว้นออสเตรเลียและแอนตาร์กติกา) และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติอันหลากหลาย รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่ทะเลทราย ป่าดิบชื้น ไปจนถึงสวนสาธารณะในเมือง เคราะห์ร้ายที่สมาชิกขนาดย่อมในวงศ์แมวยังอยู่ใต้เงื้อมเงาของญาติขนาดใหญ่กว่า เช่น สิงโต เสือโคร่ง เสือดาว เสือจากัวร์ และอื่นๆ ชนิดพันธุ์อันโด่งดังเหล่านี้ดึงดูดความสนใจอย่างมากและได้รับเงินสนับสนุนการอนุรักษ์เป็นกอบเป็นกำ แม้ว่าสัตว์วงศ์แมวที่ถูกคุกคามมากที่สุด 12 ชนิดจาก 18 ชนิดจะเป็นสัตว์วงศ์แมวขนาดเล็กก็ตาม

จิม แซนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์วงศ์แมวขนาดเล็กและผู้จัดการโครงการที่องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าโลก (Global Wildlife Conservation) ประเมินว่า เงินทุนที่จัดสรรเพื่อการอนุรักษ์แมวป่านับตั้งแต่ปี 2009 กว่าร้อยละ 99 ใช้ไปกับการช่วย เสือจากัวร์ เสือโคร่ง และแมวใหญ่อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ สัตว์วงศ์แมวขนาดเล็กมากมายจึงมีการศึกษาวิจัยน้อยมากหรือไม่มีเลย

...

สัตว์วงศ์แมวขนาดเล็กยังมีข้อเสียเปรียบอีกประการหนึ่งคือ ผู้คนมีแนวโน้มจะมองว่า พวกมันเป็นเพียงแมวเลี้ยงรูปแบบหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าเท่านั้น (แมวบ้านจัดเป็นชนิดย่อยหนึ่งของแมวป่า ซึ่งวิวัฒน์จากแมวป่าในดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ หรือพื้นที่ซึ่งทอดตัวเป็นแนวโค้งจากลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์จรดเมโสโปเตเมีย เมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อน) อเล็กซานเดอร์ สลีวา ผู้ดูแลสัตว์ที่สวนสัตว์โคโลญในเยอรมนี ชี้ว่า แมวขนาดเล็กไม่ทำให้สาธารณชน “รู้สึกเกรงขาม” เท่าแมวดุร้ายที่หายาก

...

ในฐานะนักล่าที่มักอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แมวป่าช่วยให้ระบบนิเวศดำเนินไปอย่างราบรื่น และควบคุมประชากรเหยื่อให้สมดุล ซึ่งรวมถึงสัตว์ฟันแทะหลายชนิด

ในบรรดาห้าทวีปที่แมวป่าอาศัยอยู่ เอเชียมีโอกาสสูญเสียสัตว์เหล่านี้มากที่สุด เพราะไม่เพียงเป็นพื้นที่ซึ่งมีชนิดพันธุ์แมวป่ามากที่สุดคือ 14 ชนิด เอเชียยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีความเข้าใจเกี่ยวกับแมวป่าน้อยที่สุดและอยู่ภายใต้ภัยคุกคามใหญ่หลวง ที่สุด ผืนป่ามากมายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการพัฒนาหรือแผ้วถางเป็นสวนปาล์มน้ำมันที่กำลังแผ่ขยายออกไป น้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบทั่วไปในอาหาร นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ทั่วโลกมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า สวนปาล์มน้ำมันน่าจะเป็นหายนะของแมวป่าหัวแบนและเสือปลา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสัตว์ทั้งสองชนิดนี้พึ่งพาพื้นที่ชุ่มน้ำ ในที่ลุ่มสำหรับจับปลากินเป็นอาหาร

...

ภัยคุกคามอีกอย่างหนึ่งที่สัตว์วงศ์แมวขนาดเล็กต้องเผชิญคือการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการลักลอบล่า เพื่อเอาหนัง ขน และอวัยวะอื่นๆ ในช่วงทศวรรษ 1980 จีนส่งออกหนังแมวดาวซึ่งกระจายพันธุ์ทั่วเอเชียนับแสนผืน แม้ความต้องการหนังลดลงค่อนข้างมากแล้ว แต่แมวดาวในจีนยังคงถูกล่าและฆ่าเพราะไปกินสัตว์เลี้ยง

ที่มา - National Geographic
www.ngthai.com 
www.facebook.com/NationalGeographicThailand