ไม่ค่อยออกสื่อฯ สักเท่าไร สำหรับคุณแม่ยังสาว 'พีช-สิตมน ผลดี' หวานใจพระเอกหนุ่มหล่อตลอดกาล 'ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี' เมื่อเจอกันในอีเวนต์ล่าสุด เปิดตัวหนังสือ "I Heart You Baby journal & book" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไทยรัฐออนไลน์ จึงไม่พลาดเข้าไปกระทบไหล่ถามถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเอง ตลอดจนธุรกิจแบรนด์ LittleFox ที่กำลังไปได้สวย และอินสไปร์ในการออกแบบกันสักหน่อย ซึ่งใครหลายคนต่างยกให้เธอเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ไทยที่ดีไซน์เสื้อผ้าได้เก๋กู๊ดสุดๆ เลยล่ะ !
'ธุรกิจเสื้อผ้า LittleFox เราเริ่มทำมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มันเกิดจากการที่เราเป็นคนชอบแต่งตัว แล้วก็สนใจเรื่องแฟชั่นมาตลอด อีกทั้งตอนนั้นเรามีลูก พอน้องเริ่มโตขึ้นเราก็รู้สึกอยากจะแต่งตัวให้ แมตช์โน่นแมตช์นี่ให้ดูน่ารัก มันก็เลยเหมือนเป็นตัวจุดประกายให้เราอยากทำเสื้อผ้าให้ลูก อยากจะทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเป็นชุดเสื้อผ้าสำหรับเด็กๆ เพราะเราอยากเห็นเด็กๆ แต่งตัวแบบที่เราชอบ แบรนด์ของเรามีทั้งเสื้อผ้าผู้ชาย และผู้หญิงนะ รวมถึงแอคเซสเซอรี่สำหรับเด็กๆ ด้วย' พีช-สิตมน ผลดี คุณแม่ยังสาวเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นทำแบรนด์เสื้อผ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
...
เธอเผยให้ ไทยรัฐออนไลน์ ฟังต่อถึงเหตุผลที่ตั้งชื่อแบรนด์ LittleFox นั่นก็เพราะว่าเธอจินตนาการถ้าลูกเป็นสัตว์เล็กๆ เขาจะเป็นสัตว์อะไร แล้ว Fox (จิ้งจอก) มันเป็นอะไรที่ตรงกับลูกมากที่สุด มันเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก ซุกซน มีสปิริตสูงมาก อีกทั้งยังดูสง่า และมีความเป็นอิสระในตัวเองสูง เธอก็เลยตัดสินใจใช้ชื่อ Fox เป็นชื่อแบรนด์ ส่วน Little ก็เพื่อบอกว่าแบรนด์นี้สำหรับเด็กๆ ที่มีความซนแบบน่ารักๆ
สำหรับอินสไปร์ในการดีไซน์นั้นก็มาจากการที่เธอเป็นคนชอบเสพศิลปะ อะไรต่างๆ ที่เห็นแล้วปิ๊งขึ้นมาเป็นไอเดีย สามารถเป็นอินสไปร์ได้เธอก็ดึงมาใช้ อย่างรูปภาพ สถานที่เที่ยว หรือเพลงที่เธอรู้สึกอิน แล้วก็เริ่มวางโครงทำเป็นคอลเลกชั่น ซึ่งตอนนี้เธอก็มีแพลนคอลเลกชั่นของปลายปีหน้าไว้แล้วด้วย คอลเลกชั่นของแบรนด์ LittleFox จะคลอดปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นช่วง Spring/Summer ออกในเดือนมีนาคม และช่วงที่สองเป็น Autumn/Winter ออกในเดือนตุลาคม โดยแต่ละคอลเลกชั่นจะเน้นนำเสนอลายปริ้นซ์ ถามต่อว่าแต่ละคอลเลกชั่นมีความพิเศษแตกต่างกันยังไง สำหรับเธอแล้วความแตกต่างมันอยู่ที่อินสไปเรชั่นในแต่ละคอลเลกชั่นที่ทำ และวัสดุที่ใช้ต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับช่วงอากาศนั้นๆ มากกว่า เช่นว่า ฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ก็จะนำผ้าบางๆ อย่างชีฟอง หรือไหมบางๆ คอตตอนมาใช้ ทว่าปลายปีถึงแม้เมืองไทยจะไม่ได้หนาวมาก แต่ก็สามารถใช้เนื้อผ้าที่เป็นกำมะหยี่มาสร้างลูกเล่น-ความน่าสนใจได้
ด้านซิกเนเจอร์ของแบรนด์ LittleFox เธอย้ำว่า ยังคงความเป็นแฟชั่น (Fashionable) ไม่อยากให้รู้สึกว่ามันเด็ก หรือแบ๊วมากจนเกินไปเหมือนแบรนด์ตามท้องตลาด เธอไม่อยากให้ลูกใส่แบบนั้น ทว่าอยากได้แฟชั่นแบบเท่ๆ ปนน่ารักๆ มากกว่า ซึ่งแบรนด์ที่เมืองไทยไม่ค่อยมีให้เห็น เธอพยายามจับความเป็นแฟชั่น เทรนด์กระแส และความชอบส่วนตัวเข้าด้วยกันให้เป็นสไตล์ที่โดดเด่น มีความสนุกสดใสของแฟชั่น อย่างไรก็ดี แบรนด์นี้มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ฟีดแบ็กก็ค่อนข้างดีกว่าที่คิดไว้เยอะทีเดียว คนให้ความสนใจมาก ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็คงต้องรอไปอีกสักพักก่อน ตอนนี้เธอตั้งใจอยากทำมันให้ดีที่สุด และดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละคอลเลกชั่นเท่านั้นพอ
...
อย่างไรก็ดี ตอนนี้แบรนด์ LittleFox มีขยายมาทำเสื้อผ้าไซส์ผู้ใหญ่ด้วย ซึ่งเธอเผยถึงไอเดียนี้ให้ฟังว่า จริงๆ แล้วแบรนด์โฟกัสแค่เสื้อผ้าเด็ก ทว่าด้วยความที่เธอเอาแฟชั่นมาใส่ในเสื้อผ้าเด็กมากๆ เลยทำให้มันมีความเก๋ ทีนี้พอเอามาขยายผู้ใหญ่ก็สามารถใส่ได้ มันก็เลยกลายเป็นไอเดียที่เธอทำไซส์เด็ก และไซส์ผู้ใหญ่ขึ้นในแบบเดียวกัน ลายเดียวกัน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ใส่กับลูกๆ ไปไหนมาไหนแบบน่ารักๆ เอาจริงๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะขยายเป็นไซส์ใหญ่ตั้งแต่แรก บ่อยครั้งที่บรรดาคุณแม่มาซื้อเสื้อผ้าให้ลูกก็จะรีเควสต์ว่าอยากได้แบบนี้ไซส์ใหญ่บ้าง มันก็เลยทำให้เธอเก็ตไอเดียอีกทีว่า ถ้าขยายเป็นไซส์ใหญ่มันขายได้ ผู้ใหญ่ก็สามารถใส่ได้ อย่างล่าสุดที่เธอทำแจ็กเก็ตให้ลูกชาย (น้องเต็นท์) และขยายไซส์มาให้สามีลองใส่ด้วย ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก มันดูดีทั้งพ่อทั้งลูกเลย ตั้งแต่นั้นเธอก็เลยขยายไซส์มาเรื่อยๆ ให้ใส่ได้ทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก ซึ่งตรงนี้มันน่าจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้แบรนด์ของเธอแตกต่างออกไป
...
ถามถึงสามี (ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี) ได้เข้ามามีส่วนร่วมช่วยอะไรบ้างไหมกับแบรนด์นี้ เธอเผยแกมยิ้มเล็กๆ ว่า ช่วยให้กำลังใจ และเป็นที่ปรึกษาที่ดี ด้วยความที่งานดีไซน์มันจะมีอะไรจุกจิกเข้ามาตลอด มีอะไรให้ต้องแก้ทุกวัน ฉะนั้นเวลามีปัญหาเธอจะเล่าให้เขาฟังเป็นคนแรก ซึ่งเธอก็จะได้รับความคิด หรือทางออกอะไรดีๆ กลับมาเสมอ เขาเป็นคนที่มีความคิดมีมุมมองที่ดี ค่อนข้างมองต่างจากคนอื่น อันไหนที่เขาให้คำแนะนำได้ก็จะแนะนำให้เลย ส่วนอันไหนที่เขาให้คำแนะนำไม่ได้ก็จะหันมาให้กำลังใจเธอแทน หรืออันไหนที่เขาช่วยได้ก็จะช่วยอย่างไม่ลังเล เวลาคุยกับเขา เธอจะรู้สึกได้กำลังใจ ไม่เครียด แล้วก็แก้ปัญหาไปด้วยกันทีละจุดๆ
...
นอกจากธุรกิจเสื้อผ้าที่กำลังไปได้สวยแล้ว ตอนนี้เธอยังจับมือรวมตัวกับเพื่อนๆ ในชื่อกลุ่ม Babymoon และสำนักพิมพ์ยาหยี จัดทำไดอารี่บันทึกประสบการณ์มหัศจรรย์ของลูกน้อย 'I Heart You Baby journal & book' พร้อมแบ่งปันประสบการณ์เลี้ยงลูก ที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สนุกไปกับการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของตัวเองมากขึ้น เธอเผยว่าที่โฟกัส ณ ขณะนี้เลย ก็คือเรื่องแม่และเด็ก ส่วนของเรื่องคุณแม่เธออาจจะทำเป็นความสวยความงามเพราะมีความชอบด้านนี้เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ซึ่งคงจะมีให้เห็นปลายๆ ปีนี้แต่ขออุบไว้ก่อนว่าจะเป็นอะไร เธอเปิดมุมมองต่อเรื่องนี้ว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ตั้งแต่ที่เธอก้าวมาเป็นคุณแม่ ยิ่งคุณแม่ยุคนี้ด้วยแล้วจะทิ้งความงาม และปล่อยตัวไปตามวัยไม่ได้เด็ดขาด ต้องคิดหาสารพัดวิธีให้กลับมาสวยเหมือนเดิม ฉะนั้นแล้วเธอจึงคิดอยากจะหาสิ่งที่เหมาะสมกับเหล่าบรรดาคุณแม่มากที่สุด
เธอเผยปิดท้ายว่า เคล็ดลับในการดูแลตัวเองของเธอนั้นง่ายนิดเดียว คือการทานของที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (หรือทุกครั้งที่มีเวลาว่าง) เพราะสองสิ่งนี้มันช่วยดูแลสุขภาพจากภายในจริงๆ ซึ่งถ้าสุขภาพข้างในดีก็จะส่งผลให้ข้างนอกดีตามไปด้วย ทำให้สดใส เปล่งปลั่ง และไม่ทำให้ดูแก่กว่าวัย อีกทั้งก่อนนอนก็ต้องมีการเซฟผิวสวยด้วยการทาครีมบ้าง มาส์กหน้าบ้าง อันนี้เธอจะทำเป็นประจำตลอด ไม่เว้นแต่วันเดียว !
***ล้อมกรอบ***
ถ้าคุณแม่คนไหนสนใจแบรนด์ LittleFox ตอนนี้เธอเน้นเปิดขายออนไลน์เป็นหลัก และมีจัด Pop-up ตามห้างฯ บ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่เซ็นทรัลชิดลม และสยามพารากอน เหล่าคุณแม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ และคอลเลกชั่นน่ารักๆ ก่อนได้ที่ www.littlefoxclub.com