เฉลิมฉลอง โว้ก ประเทศไทย ฉบับปฐมฤกษ์ จัดเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้บนพรมแดง รวมที่สุดของคนเบื้องหลังวงการแฟชั่น ถ่ายทอดกลิ่นอายไทยล้ำสมัย เต็มอิ่มแฟชั่นกว่า 10 เซต เสพสไตล์ที่สัมผัสได้ ในเนื้อหาเอ็กซ์คลูซีฟอัดแน่นกว่า 350 หน้า...!
โว้ก (VOGUE) นิตยสารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนิตยสารแฟชั่นทรงอิทธิพลที่สุดเล่มหนึ่งของโลก เตรียมวางแผง โว้ก ประเทศไทย ฉบับปฐมฤกษ์ รวบรวมคนเบื้องหลังวงการแฟชั่นไทยฝีมือขั้นเทพ ถ่ายทอดกลิ่นอายไทย ภายใต้แนวคิด ‘This is VOGUE Thailand’ เผยกระแสตอบรับพื้นที่โฆษณาทะลุเป้าเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เต็มอิ่มกับภาพแฟชั่นกว่า 10 เซต อัดแน่นด้วยเนื้อหาสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาชมที่ไหนไม่ได้มากกว่า 350 หน้า พร้อมจัดงานเฉลิมฉลองโว้ก ประเทศไทย ฉบับปฐมฤกษ์ อย่างเป็นทางการ ในบรรยากาศปาร์ตี้ Red Carpet ท่ามกลางการรวมตัวของคนในวงการแฟชั่นระดับแถวหน้าของเมืองไทย เซเลบริตี้ระดับเอ-ลิสต์ ดีไซเนอร์ชั้นนำ สไตลิสต์ ช่างภาพ ศิลปิน ดารา นางแบบ ร่วมงานคับคั่ง ที่เสนาแวร์ เฮ้าต์ สุขุมวิท 50
...
สิรี อุดมฤทธิรุจ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เซเรนดิพิตี้ มีเดีย จำกัด ผู้นำเข้าและผู้บริหารนิตยสาร โว้ก ประเทศไทย (VOGUE THAILAND) เผยว่า สังเกตได้ว่าเมื่อนิตยสารโว้กเข้าสู่ตลาดไหน เป็นสัญญาณสะท้อนให้เห็นว่าประเทศนั้นๆ มีแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่น อย่างประเทศไทยโว้กใช้เวลาถึง 5 ปีในการศึกษาภาพรวมของตลาดก่อนเลือกเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นิตยสารโว้ก ประเทศไทย ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด ยอดพื้นที่โฆษณาเกินเป้ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าความเป็นโว้กมีอิทธิพลกับอุตสาหกรรมแฟชั่นในทุกๆ ประเทศ
“ในช่วง 2 ปีแรกนี้ โว้ก ประเทศไทย จะมุ่งการทำการตลาดค่อนข้างมาก รวมถึงการแนะนำตัวโรดโชว์ยังต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ โดยคงมุ่งกระตุ้นอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย เปิดโอกาสให้กับดีไซเนอร์ไทยไปสู่เวทีโลก ด้วยการทำให้คนไทยตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วมในวงการแฟชั่นมากขึ้น อย่างล่าสุดมีการส่งนางแบบไทยไปถ่ายแฟชั่นยังต่างประเทศ และส่งแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยไปถ่ายแฟชั่นที่นิวยอร์ก ซึ่งจะเผยแพร่ในฉบับปฐมฤกษ์ของเราด้วย”
ในอนาคต โว้ก ประเทศไทย มีแผนจัดงาน Vogue Fashion’s Night Out ซึ่งจะเป็นกิจกรรมผลักดันอุตสาหกรรมค้าปลีกในวงการแฟชั่น พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และเป็นการช่วยดีไซเนอร์ไทยในเชิงธุรกิจ โดยในปีหน้าเดินหน้า Vogue Fashion Fund ซึ่งเป็นแบบฉบับเดียวกับที่อเมริกา และอังกฤษ โดยกิจกรรมนี้จะเป็นการส่งเสริมดีไซเนอร์หน้าใหม่ ทั้งในเชิงพัฒนาการออกแบบและต่อยอดธุรกิจอย่างเป็นระบบ
...
นอกเหนือจากช่วยผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว ความที่เป็นโว้ก เป็นนิตยสารทรงอิทธิพลในการกำหนดรสนิยมของคนทั่วไป โว้กยังเน้นการให้ความสำคัญกับการเป็นสื่อแฟชั่นที่ต้องงามทั้งภายนอกและภายใน จึงมีข้อตกลงระหว่างโว้กทั่วโลก ที่จะไม่ว่าจ้างนางแบบอายุต่ำกว่า 16 ปี และไม่ว่าจ้างนางแบบที่ต่ำกว่าไซส์ศูนย์อีกด้วย หรือที่เรียกว่า Health Initiative
สำหรับกระแสแนวโน้มว่าประเทศไทยผู้อ่านนิตยสารจะลดลง ผู้บริหารโว้ก ประเทศไทย มองว่าไม่กระทบ เพราะแม้ว่าบางกลุ่มจะเลือกบริโภคนิตยสารในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะสมาร์ต แอพพลิเคชั่น แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าผู้คนยังต้องการเสพนิตยสารในรูปแบบสิ่งพิมพ์อยู่ ด้วยเสน่ห์ของหนังสือที่ยังคงสะท้อนเอกลักษณ์และตอบสนองด้านความรู้สึกที่จับต้องได้
“เรามองว่าโว้กไม่ใช่แค่นิตยสาร แต่โว้ก คือแบรนด์ ที่สามารถต่อยอดไปยังช่องทางต่างๆ เพื่อเข้าถึงผู้อ่านและลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและหลากหลาย ซึ่งเรามีการพัฒนาตนเองอยู่เรื่อยๆ ในฐานะแบรนด์ๆ หนึ่ง ฉะนั้นโว้ก ประเทศไทย จึงมีส่วนเผยแพร่ในช่องทางอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นอี-แมกกาซีน, เว็บไซต์ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับโซเชียล มีเดีย อื่นๆ อาทิ เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และโมบายแอพพลิเคชั่นอื่นๆ โดยในอนาคตโว้กจะเข้าไปอยู่ในโซเชียล มีเดีย มากขึ้น”
...
...
"ส่วนของเว็บไซต์จะเปิดตัวพร้อมกับนิตยสาร ส่วนเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม เราได้มีการอัพเดตไปแล้ว และในส่วนของโมบาย แอพพลิเคชั่นอื่นๆ อาทิ LINE Official Account และ LINE Sticker จะเปิดในเดือนกุมภาพันธ์ โดยทั้งหมดยังคงอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์และคอนเซปต์ของโว้กเช่นเคย” สิรี กล่าว
สำหรับในส่วนเนื้อหาซึ่งเป็นที่จับตามอง คงไม่มีใครจะถ่ายทอดความเป็นโว้ก ประเทศไทยได้ดีไปกว่า กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร นิตยสารโว้ก ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้โว้ก ได้รับการยกย่องว่าเป็นคัมภีร์แฟชั่น นั่นเพราะโว้กได้รวบรวมความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในทุกเรื่องที่ต้องการถ่ายทอด จากการทำงานร่วมกับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความเป็นมืออาชีพในสายงานนั้นๆ ภายใต้ความเป็นเลิศที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกในแบบฉบับของโว้ก ไม่ว่าจะเป็นสไตลิสต์ นักเขียน หรือช่างภาพ ฯลฯ ซึ่งขณะนี้ โว้ก ประเทศไทย ได้คัดเลือกช่างภาพไทยมาร่วมงานแล้ว 2 ท่าน ได้แก่ ณัฐ ประกอบสันติสุข และธาดา วาริช
“โว้กไม่ใช่แมกกาซีนแฟชั่นที่มีเพียงรูปช็อปปิ้งหรือเทรนด์แฟชั่น แต่คือมุมมองใหม่ที่เรามีให้กับสไตล์และการใช้ชีวิต การออกเดินตามหา โว้ก ไทยแลนด์ สำหรับผมและทีมงานในครั้งนี้นอกจากตั้งใจคัดสรรสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ยังต้องไม่ลืมที่จะผสมรากเหง้าและวิถีแห่งไทยสมัยใหม่เข้าไปอย่างเท่าเทียม จุดเริ่มต้นที่เราร่างทุกอย่างขึ้นคร่าวๆ ในฉบับปฐมฤกษ์นี้จึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการค้นหาแนวทางของประเทศไทยในครอบครัวโว้ก”
“ในแต่ละฉบับจะมีการวางคอนเซปต์ไปเรื่อยๆ จากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการนิตยสารแฟชั่นมานาน มองว่าการทำนิตยสารแม้ว่าจะมีการศึกษากลุ่มเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา แต่ในที่สุดแล้วนิตยสารในทุกๆ ฉบับต้องมีการปรับตัวไปเรื่อยๆ เพราะคนอ่านนิตยสารเมืองไทยนั้นมีรสนิยมและสไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ฉะนั้นการทำนิตยสารจึงไม่ตายตัว เพราะปัจจุบันเราไม่ได้แบ่งกลุ่มผู้อ่านตามอายุอีกแล้ว แต่แบ่งตามรสนิยมและไลฟ์สไตล์ อย่างคนอายุ 50 แต่ใจอายุ 20 ก็ยังอ่านโว้กได้ แม้แต่เด็ก 17 ก็อ่านโว้กได้ ซึ่งเราสามารถผลักดันให้เขาเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตและไลฟ์สไตล์ได้”
ดังนั้นเนื้อหาภายในเล่มของโว้ก ประเทศไทย เน้นสำนวนอ่านง่าย เข้าใจง่าย นำเสนอแฟชั่นที่จับต้องได้และสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กับชีวิตประจำวัน ที่สำคัญโว้กคือผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่าน และด้วยความเป็นนิตยสารระดับโลก ยังได้สิทธิ์ในการใช้คลังภาพที่มีนับล้านภาพภายใต้ลิขสิทธิ์โว้กนำมาประกอบในเล่ม จากการลั่นชัตเตอร์โดยช่างภาพฝีมือขั้นเทพ และช่างภาพชื่อดังมากมาย อาทิ Irving Penn ช่างภาพแนว Still Life ชื่อดัง, Patrick Demarchelier ช่างภาพระดับตำนานแห่งวงการแฟชั่น ฯลฯ รวมถึงได้ร่วมงานกับช่างภาพระดับอินเตอร์อีกมากมาย อาทิ David Bellemere ช่างภาพแห่งโว้ก ฝรั่งเศส เป็นต้น
สำหรับ นิตยสารโว้ก ประเทศไทย ฉบับปฐมฤกษ์นี้ จะเป็นการนำเสนอเนื้อหาภายใต้แนวคิด “This is Vogue Thailand” หยิบยกกลิ่นอายความเป็นไทยมาถ่ายทอด นำเสนอเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหญิงสาวผ่านแฟชั่นมากกว่า 10 เซต เนื้อหาอัดแน่นมากกว่า 350 หน้า
ทั้งนี้บรรยากาศการเฉลิมฉลองนิตยสาร โว้ก ประเทศไทย เป็นการเนรมิตเสนาแวร์เฮ้าส์ ให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของกรุงเทพฯ แบ่งพื้นที่แต่ละโซนให้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของกรุงเทพฯ ในแง่มุมที่แตกต่างกัน อาทิ Bangkok Maze, Bangkok Night ในบรรยากาศปูพรมแดง Red Carpet ต้อนรับเหล่าคนดังในวงการแฟชั่นระดับแถวหน้าของเมืองไทย เซเลบริตี้ระดับเอ-ลิสต์ ดีไซเนอร์ชั้นนำ สไตลิสต์ ช่างภาพ ศิลปิน ดารา นางแบบ อาทิ สินจัย เปล่งพานิช, จันจิรา จูแจ้ง, เมทินี กิ่งโพยม, อาภาศิริ นิติพน, ซินดี้-สิรินยา เบอร์บริดจ์, บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์, สิ-พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, นัท มีเรีย, โดม-ปกรณ์ ลัม, คริส-พลอย หอวัง, วง Moderndog, วงสล็อต แมตชีน เป็นต้น
