เปิดหน้าประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีผู้หญิง 174 คน ที่ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลและผู้นำประเทศ บทบาทของผู้นำหญิงยิ่งมาแรงขึ้นตามแรงเหวี่ยงของฮวงจุ้ยยุคที่ 9 ซึ่งเริ่มเขย่าโลกให้เกิดการเปลี่ยนยุคครั้งใหญ่ตั้งแต่เข้าสู่ปีมังกร 2024 และจะกินเวลาครอบคลุมยาวถึง 20 ปี จับตาไว้เลยผู้หญิงกำลังจะครองโลกข้ามทศวรรษ!!

ถามว่าทำไมเมืองไทยจึงสมควรมีผู้นำประเทศเป็นสุภาพสตรีในยุค 9 ความคึกคักของตลาดหุ้นที่เขียวต่อเนื่องทุกวัน หลังการจุติของ “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประ เทศไทย คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด!! แค่ในชั่วข้ามคืนคนไทยก็เกิดความหวังขึ้นในดวงตา และกล้าฝันถึงอนาคตที่สดใสเรืองรอง จากเดิมที่มีแต่ความสิ้นหวังและมองไม่เห็นหนทางใดๆ

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

“นายกฯอิ๊งค์” ไม่เพียงทำลายสถิติการเป็นนายกฯอายุน้อยที่สุดของประเทศ ไทย ด้วยอายุย่าง 38 ปี และเป็นผู้นำหญิงอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสามของโลกในขณะนี้ เธอยังขึ้น ชื่อว่าเป็นผู้นำหญิงที่สวยสุดรวยสุดทรงอิทธิพลสุดแห่งโลกยุคใหม่ ด้วยแบ็กอัปแน่นโปรไฟล์เลิศในฐานะทายาทการเมืองหนึ่งเดียวของครอบครัวชินวัตร ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศมาแล้วถึง 2 คน หลายคนเอาใจช่วยให้ “นายกฯอิ๊งค์” กอบกู้เศรษฐกิจไทยกลับฟื้นคืนมาให้สำเร็จ หลังตกหลุมอากาศไม่พัฒนาไปไหนเลยเป็นทศวรรษ พร้อมกับสร้างสรรค์ผลงานดีๆให้ประเทศชาติ เพื่อฟื้นฟูศักดิ์ศรีของไทยแลนด์...อนาคตประเทศไทยฝากไว้ในมือคนรุ่นใหม่ได้แน่ ถ้าตั้งใจคิดใหม่ทำใหม่ เลิกทำงานการเมืองแบบเก่าๆซ้ำรอยเดิม

...

จอร์เจีย เมโลนี
จอร์เจีย เมโลนี
จอร์เจีย เมโลนี
จอร์เจีย เมโลนี

อีกหนึ่งผู้นำหญิงยุคใหม่ของโลกที่น่าจับตามองคือ “จอร์เจีย เมโลนี” (Giorgia Meloni) นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศอิตาลี เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2022 ขณะอายุ 45 ปี โดยได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์เมื่อปีก่อนให้เป็นผู้หญิงทรงอิทธิพลที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก การเข้ารับตำแหน่งของ “เมโลนี” ถูกจับตามองจากสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเธอชูลัทธิฟาสซิสต์ มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปและตลาดการเงินระหว่างประเทศ “เมโลนี” ยังประกาศนโยบาย “Italy First” คือ “อิตาลีต้องมาก่อน” แบบเดียวกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา เน้นให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติมากกว่าแคร์ส่วนรวมในยุโรป

อันนา เบรนาบิช
อันนา เบรนาบิช

ไม่เพียงสร้างประวัติศาสตร์เป็น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเซอร์เบีย “อันนา เบรนาบิช” (Ana Brna bic) ยังเป็นนายกฯหญิง LGBT คนที่สองของโลกด้วย ตามรอยนายกฯหญิงของไอซ์แลนด์ “โจฮันนา ซิกูร์ดาร์ดอตทีร์” ที่เคยเรียกเสียงฮือฮา เมื่อออกมายอมรับว่าตนเองเป็นรักร่วมเพศ ขณะเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2009 การมาของ “เบรนาบิช” สะท้อนการเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายมากขึ้นของโลกยุคใหม่ แม้จะมีกระแสต่อต้านจากนักการเมืองด้วยกันเองเยอะมาก แต่เธอก็พิสูจน์ฝีมือด้วยผลงานปฏิรูปการบริหารราชการ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เซอร์เบียสามารถเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป น่าเสียดายที่เพิ่งอำลาตำแหน่งไปเมื่อต้นปี 2024 หลังครองทำเนียบมานานตั้งแต่กลางปี 2017 ทำให้โลกขาดสีสันจากดอกไม้เหล็กผู้ทระนง

...

ซันนา มาริน
ซันนา มาริน

โค่นแชมป์นายกฯหญิงอายุน้อยที่สุดในโลกไปเลย เมื่อ “ซันนา มาริน” (Sanna Marin) ได้รับเลือกเป็น นายกรัฐมนตรีของประเทศฟินแลนด์ ในปี 2019 ขณะอายุเพียง 34 ปี กระนั้น ความสวยแซ่บเปรี้ยวซ่าส์ของเธอโด่งดังยิ่งกว่าผลงานการบริหารประเทศ โดยตลอดเวลาที่ครองตำแหน่งอยู่ 3 ปีครึ่ง เธอเป็นนายกฯหญิงที่มีข่าวด้านลบมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองฟินแลนด์ โดยเฉพาะเรื่องคลิปวิดีโอในงานปาร์ตี้สังสรรค์ พร้อมท่าเต้นที่ดูไม่เหมาะสมกับสถานะทางการเมือง จนเกิดเสียงเรียกร้องมากมายให้นายกฯหญิงเข้ารับการตรวจสารเสพติด เพราะดูเหมือนเมายา! เธอยอมรับก่อนอำลาตำแหน่งว่า ชอบปาร์ตี้และไม่คิดปิดบังตัวตน เพราะต้องการซื่อสัตย์กับตัวเองและเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งมันง่ายกว่าที่จะแอ๊บเป็นคนดี

...

จาซินดา อาร์เดิร์น
จาซินดา อาร์เดิร์น

ถ้าพูดถึงนายกฯหญิงรุ่นใหม่ที่สร้างผลงานโดดเด่นเป็นที่ชื่นชมไปทั้งโลก จะต้องมีชื่อของ นายกฯหญิงแกร่งแห่งนิวซีแลนด์ “จาซินดา อาร์เดิร์น” (Jacinda Ardern) เธอเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2017 ขณะอายุเพียง 37 ปี ขึ้นแท่นเป็นนายกฯหญิงอายุน้อยที่สุดในโลกอยู่ 2 ปี ก่อนจะเสียแชมป์ให้นายกฯหญิงวัย 34 ปี ของฟินแลนด์ โดยตลอดเวลา 5 ปีครึ่งที่ครองทำเนียบ “อาร์เดิร์น” ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำประเทศที่จัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดีที่สุดคนหนึ่งในโลก โดยสิ่งที่ทำให้โลกรู้จักเธอมากขึ้นคือ คลิปวิดีโอบรรยายผลงานของตัวเองตลอด 2 ปี ภายใน 2 นาที กับ 47 ผลงานที่ฝากไว้ให้ชาวนิวซีแลนด์ได้จดจำ กระทั่งตอนวางมือประกาศลาออกจากตำแหน่ง และไม่ลงชิงชัยเลือกตั้ง ก็เป็นที่กล่าวขวัญถึงในสปิริตแรงกล้า โดยเธอให้เหตุผลว่าไม่เหลือพลังทำงาน หากอยู่ต่ออาจทำร้ายประเทศ...ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้ผู้นำโลกหยุดการสืบทอดอำนาจ อยากให้โลกจดจำแบบไหนก็ต้องดีไซน์ชีวิตเราเอง

...

ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหลของโลกหลังยุคโควิด คงไม่มีอะไรจะอุ่นใจเท่ากับการโอบกอดอย่างเข้าใจของผู้นำหญิงยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและพร้อมโอบอุ้มในแบบมนุษย์แม่!!

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

แพทองธาร ชินวัตร

จาซินดา อาร์เดิร์น

ซันนา มาริน