ภาวะตกขาว เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนรู้จัก แต่อาจจะไม่รู้จริง เพราะภาวะตกขาวมีหลายลักษณะอาการ ซึ่งมีที่มาจากหลายสาเหตุ และอาการแสดงต่างๆของตกขาว สามารถบ่งบอกโรค หรือความผิดปกติของร่างกายได้

พญ.จิราภรณ์ ครุพานิช สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า “ตกขาว” เป็นลักษณะของสิ่งคัดหลั่งที่ออกมาจากช่องคลอดของสตรี ในบางกรณีตกขาวไม่ได้เกิดจากภาวะการติดเชื้ออักเสบแต่อย่างใด ตามธรรมชาติร่างกายของสตรีจะมีภาวะความเป็นกรดค่อนข้างสูงในช่องคลอด (Ph 4-6) เมื่อใดก็ตามที่มีสมดุลของความเป็นกรดด่างเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดการตกขาวได้ทั้งนั้น ดังนั้นจึงแยกสาเหตุของตกขาวได้ในกรณีดังต่อไปนี้

•    สิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นภายในช่องคลอด อาจเป็นชิ้นส่วนของถุงยาง หรือวัสดุที่ใส่เข้าไปภายในช่องคลอด

•    จำนวนแบคทีเรียที่เพิ่มขึ้นเกินปกติอาจเกิดจากภาวะสมดุลเสีย หรือมีระดับเอสโตรเจนในร่างกายมากขึ้นจากฮอร์โมนภายนอกร่างกายที่เข้าสู่ร่างกายในรูปยารับประทาน ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือเกิดจากการเปลี่ยแปลงตามธรรมชาติของรอบประจำเดือน โดยเฉพาะในช่วงไข่สุก หรือใกล้มีประจำเดือน เป็นต้น การติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวนี้อาจเกิดจากคู่นอนเป็นพาหะนำมาก็ได้ เช่น กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงระยะเวลาที่ร่างกายของสตรีนั้นอ่อนแอ หรืออยู่ในภาวะใกล้มีประจำเดือนไม่นาน เป็นต้น

•    ภาวะการติดเชื้อนอกเหนือ เช่น เชื้อรา, เชื้อพยาธิ การเกิดเชื้อรานั้นมีได้ทั้งในตัวเองและจากคู่นอนนำมาก็ได้ กรณีที่สตรีนั้นเป็นเบาหวาน, รับประทานยาแก้อักเสบติดเชื้อมาเป็นเวลานาน เช่น เตตราซัยคลิน หรือเกิดร่วมกับภาวะการตั้งครรภ์ ซึ่งจะพบเชื้อรามากกว่าสตรีปกติถึงร้อยละ 30

•    อาการแรกเริ่มของมะเร็งปากมดลูก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภาวะติดเชื้อ HPV (Human papilloma virus) ที่พบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก 80 %

อาการ

อาการแสดงออกในร่างกายเมื่อมีภาวะตกขาวเกิดขึ้น มีได้ทั้งตกขาวจำนวนมากหรือน้อย มีกลิ่นรุนแรงผิดปกติ เช่น  กลิ่นคล้ายปลาเน่า นมบูด หรืออาจมีสีผิดปกติ กล่าวคือ ลักษณะคล้ายมีเลือดปน คล้ายหนองปน มีได้ทั้งสีเหลือง เทา ขาว และเขียว สตรีท่านใดมีอาการดังกล่าวควรมารับการตรวจรักษาโดยสูตินรีแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง จะได้ทำการรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องต่อไป การใช้ยาเหน็บช่องคลอดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษาอาการได้เพียงพอ จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องโดยเร็ว เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงพยาธิสภาพของโรคอันเป็นทางที่สายเกินแก้ นำไปสู่การรักษาที่ยุ่งยากและอาจต่อเนื่องไปถึงการผ่าตัดฉายแสงและเคมีบำบัดในขั้นตอนสุดท้าย

พญ.จิราภรณ์ แนะนำว่า การป้องกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการให้การรักษาทุกขั้นตอนดังกล่าวมานี้

...


ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลเวชธานี
www.vejthani.com