หากคุณกำลังวางแผนล่วงหน้าจะไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อสิริมงคลกับชีวิตในวันปีใหม่ พ.ศ. 2564 ที่ใกล้ถึงนี้ จังหวัดพิษณุโลกเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ตอบโจทย์ได้ดี เพราะวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
การไปเที่ยว ณ สถานที่ใดก็ตาม หากรู้ประวัติความเป็นมาก่อนไปเยือน ยิ่งทำให้การท่องเที่ยวได้อรรถรส เหมือนย้อนกลับสู่อดีต งั้นเราไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์อดีตไทยผ่าน “พระพุทธชินราช” พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกกันเลยดีกว่า
: ประวัติพระพุทธชินราช 663 ปี ทรงคุณค่าคู่เมืองพิษณุโลก :
“พระพุทธชินราช” ปัจจุบันสิริรวมอายุ 663 ปี ชาวเมืองพิษณุโลกนิยมเรียก “หลวงพ่อใหญ่” ตามชื่อวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่นั่นเอง วัดนี้ตั้งอยู่ ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก
ตามประวัติ “พระพุทธชินราช” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ใช้ช่างจากเมืองศรีสัชนาลัย และเมืองหริภุญชัย หล่อทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว และสูง 7 ศอก สร้างขึ้นมาพร้อมการสร้างเมือง และสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ใน พ.ศ. 1900 จากพระราชดำริของพระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงสุโขทัยในสมัยนั้น
...
พระพุทธชินราชตั้งอยู่ในพระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธชินราช พระวิหารหลังนี้มีบานประตู ประดับมุกโบราณที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งจำนวน 2 บานคู่ กว้าง 1 เมตร สูง 4.50 เมตร เดิมพระพุทธชินราชไม่ได้ลงรักปิดทอง กระทั่ง ปี พ.ศ. 2146 สมเด็จพระเอกาทศรถคราวเสด็จพระราชดำเนินมา นมัสการ พระพุทธชินราชจึงได้ ได้มีการปิดทองครั้งแรก
ความงดงามของ “พระพุทธชินราช” ที่วิจิตรงดงามตามศิลปะสุโขทัย คือ เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ พระพักตร์เอิบอิ่ม ค่อนข้างกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลิง มีลักษณะพิเศษเรียกว่าทีฆงคุลี คือ ปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่นิ้วยาวเสมอกัน
ซุ้มเรือนแก้วสร้างจากไม้แกะสลักในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นตัวมกร ลักษณะลำตัวคล้ายมังกร มีงวงคล้ายช้าง อยู่ตรงปลายซุ้ม และมีลำตัวเหรา (คล้ายจระเข้) กลางซุ้ม และมีท้าวเวสสุวรรณ และอาฬวกยักษ์ เทพอสุราปกป้องพระองค์อยู่สองตน
ด้วยพุทธลักษณะอันงดงามโดดเด่นเหล่านี้ สมควรอย่างยิ่งแล้ว ที่พระพุทธชินราชได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในประติมากรรมพุทธศิลป์อันสูงสุดของไทย ที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณ ไม่ควรพลาดมากราบไหว้
: ข้อควรปฏิบัติ ถ่ายภาพคู่พระพุทธชินราช :
การเดินทางมากราบไหว้ สักการะขอพรพระพุทธชินราช สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน เช่น รถตู้บริษัททัวร์ต่างๆ หรือในบางจังหวัดสามารถนั่งเครื่องบินมายัง จ.พิษณุโลก
วัดใหญ่ เปิดไหว้สักการะทุกวันตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น. การเข้าพระวิหาร ต้องสำรวมกิริยา วาจา แต่งกายสุภาพ ผู้หญิงไม่ควรนุ่งสั้น หรือใส่เสื้อแขนกุด สิ่งสำคัญ ห้ามยืนถ่ายรูปเด็ดขาด ต้องนั่งหรือคุกเข่าถ่ายรูปเท่านั้น หากต้องการใช้ขาตั้งกล้องเพื่อถ่ายภาพ ต้องทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้า
: 4 สถานที่สำคัญในวัด ควรสักการะ นอกเหนือพระพุทธชินราช :
...
สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร นอกจากพระพุทธชินราช ไฮไลต์สำคัญของวัดแล้ว ภายในวัดใหญ่ยังมี อีก 4 จุดสำคัญ ให้ชมความงดงาม และย้อนรอยสู่อดีต ดังนี้
1. พระเหลือ ถูกสร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระยาลิไท รับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดานำมาหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดเล็ก หน้าตัก กว้าง 1 ศอกเศษ
2 . พระปรางค์วัด โบราณสถานสมัยสุโขทัย สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของวัด รูปแบบพระปรางค์เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูม สร้างครอบพระสถูปเจดีย์
...
3. พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวิหารพระพุทธชินราช ภายในประดิษฐานหีบสมมติบรรจุพระบรมศพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระมหากัสสปะเถระ นั่งนมัสการพระบรมศพที่ปิดทองเหลืองอร่าม
5. พระอัฏฐารส ตั้งอยู่หลังวิหารพระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสูง 18 ศอก (ประมาณ 10 เมตร) สร้างขึ้นในสมัยเดียวกับพระพุทธชินราช เดิมพระอัฏฐารสประดิษฐานอยู่ในวิหาร วิหารพัง เหลือเพียงเสาศิลา แลง 3-4 ต้น
ปีเก่า 2563 กำลังผ่านไป หากคุณยังไม่เคยไปกราบไหว้ขอพรกับ "พระพุทธชินราช" เริ่มวางแผนทริปเสริมดวงสู่ปีใหม่ 64 กันได้เลย
(ที่มาข้อมูล : เฟซบุ๊กวัดพระศรีฯ , www.phitsanulok.go.th, www.watportal.com)
...
ข่าวน่าสนใจ