ชุมชนตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี อยู่ห่างเมืองพัทยา 14 กิโลเมตร ว่ากันว่า...กระแสกำลังมาแรงด้วยกำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทชุมชน ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา ส่งเสริม สนับสนุน...เป็นป๋าดันกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
ปีที่แล้วมีผู้ไปเยือน 1 หมื่นคน...ทำรายได้สู่ท้องถิ่น 2 ล้านบาท
ปัจจัยหนึ่งที่หนุนนำชุมชนนี้ ได้แก่ “วัดตะเคียนเตี้ย” ที่ตั้งอยู่กลางชุมชน วัดนี้สร้างเมื่อปี 2383 ปีนี้ครบ 180 ปีพอดี ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นทางการว่า “วัดนาลิกวนาราม”
แต่ชาวบ้านก็มักเรียก “วัดตะเคียนเตี้ย” มากกว่าอย่างอื่นเพราะไม่คุ้นปาก
วัดที่ว่า...เคยมีเกจิอาจารย์ชื่อดังคือ “หลวงพ่อนิยม กนฺตจาโร” หรือ “พระครูเมตตาธิการี” ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสระหว่างปี 2530-2552 หลวงพ่อเป็นแฝดผู้น้องนามเดิมว่า “แกะ” เติบโตอยู่บ้านตะเคียนเตี้ยมาแต่กำเนิด เริ่มบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 17 ปี แต่ลาสิกขาไปรับราชการทหาร ก่อนกลับมาเป็นพระปี 2517
...
ก่อนบวชเรียนขณะอายุ 10 ปี ด.ช.แกะสนใจเรื่องวิชาอาคมเป็นพิเศษ จึงสมัครเป็นศิษย์โยมสืบ เปลี่ยนสี ผู้มีศักดิ์เป็นตากับเป็นจอมขมังเวทเรื่องหมอยา ขึ้นชั้น...“หมอเทวดา”
ใครต้องคุณไสยหรือป่วยไข้ หมอเทวดาจะบริกรรมคาถาให้หายสิ้น และยังปราดเปรื่องเรื่องผูกหุ่นยนต์กับฝัง “ตะโจ” ที่หมายถึงกระดูกเด็กเสียชีวิตแล้ว ไว้เฝ้าเรือน เฝ้าไร่-นา ป้องกันโจร และคุณไสยที่ลอยมาตามแรงลม...เด็กชายแกะ ได้รับการถ่ายทอดวิชาการเสกน้ำพระพุทธมนต์ ที่ยากสุดๆเนื่องจากต้องจดจำคาถา และอ่านโองการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แม่นยำ จะตกหล่นไม่ได้แม้แต่คำเดียว
พออายุได้ 16 ปี เริ่มเรียนวิชาลงตะกรุดคงกระพัน ผ้ายันต์พัดโบกสีขาว-แดง และสักยันต์ วิชาปลุกเสกพระปิดตามหาอุด และการลงกระหม่อม จากหลวงพ่อหิน ถาวโร วัดหนองสนม จ.ระยอง พร้อมรับมอบคาถาทำน้ำมนต์เสกหมึกให้ว่า... “นะอุด โมอัด พุทยัด ธาดัน ยะยันเข้าไว้ นะปิด นะหยุด นะอุด นะอัด นะพุท อุดพัด อัดผิด พระเจ้าแผลงฤทธิ์ ผิดนะพุทธัง พระอะระหังผิดนะ ผิดนะธัมมัง พระอะระหังผิดนะ ผิดนะ สังฆัง พระอะระหังผิดนะ ฯลฯ”
@@@@
ครั้นปีถัดมา... เรียนวิชาถัก “เชือกคาดเอว” มีคุณแคล้วคลาดป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษ กับหลวงปู่ไข่ และหลวงปู่เฉย วัดตะเคียนเตี้ย หลวงปู่เฉยยังสอนหุง “สีผึ้งเจ๊กร้องไห้”
...เมตตามหานิยม สำหรับพ่อค้าไทย-จีน เพื่อทำการค้าให้รุ่งเรืองอีกต่างหาก
เมื่อบวชเป็นพระได้เรียนวิชาคงกระพันเพิ่ม จากหลวงพ่อก้าน วัดห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ผู้เก่งกาจด้านทำนายโชคชะตา ผูกดวง และทำน้ำมันเขียวมหาเสน่ห์ โดยมีคาถา 5 พยางค์ของเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ คือ “อิ อะ ยะ ตุ เห”...มีเรื่องเล่า...ครั้งหนึ่งลูกศิษย์ อ.เปา บุญสังข์ ผู้เรืองวิชา สักยันต์ กับลูกศิษย์ อ.กัน (อ่าวตากัน) วิวาทถึงขั้นตีแทงกันในงานวัด แต่ไม่มีฝ่ายใดเสียเลือดด้วย หลวงพ่อนิยมจึงตัดสินใจขอเป็นศิษย์ อ.เปา แล้วเรียนเพิ่มเติมกับ อ.ปลั่ง บางลำพู และ อ.บุญ ตูดเหล็ก
จากนั้น...เรียนวิชาเสือเผ่น เสือสมิง จากหลวงพ่อคง สุวณฺโณ วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี และลงตะกรุดมหาโจร เสืออาคม การทำปลัดขิกจาก อ.โทน หลำแพร อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
เรียนวิชาลงรักหน้าทอง ลงตะกรุดสาลิกา และตะกรุดจักรพรรดิ (สามกษัตริย์) จากหลวงพ่อเจริญ วัดสุขใจดี ที่จำพรรษาอยู่วัดตะเคียนเตี้ย กับเรียนทำผ้ายันต์พัดโบกตามตำราโบราณ ดูการเคลื่อนย้ายวิถีดวงจันทร์ได้ถูกต้องแม่นยำ
โดยขั้นตอนลงยันต์นั้นต้องใช้หมึกพิเศษ ผสมดีสัตว์ 5 ชนิด คือไก่ดำ งู เต่า วัวขาว เสือ ตามปริศนาธรรม วัตถุมงคลนี้หากนำติดตัวไปทำธุรกิจต้องพัดโบกให้ครบ 4 ทิศ
พร้อมร่ายคาถา “เอโห เอหา มะ อะ อุ ฤ ฤา ฎ ฎา พุท โธ ภะ คะวา” เพื่อพบทางสำเร็จ
@@@@
พระครูปลัดสุรชัย ยโสธโร ที่ชาวชุมชนเรียก “อาจารย์กบ” ศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อนิยม ผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะเคียนเตี้ยองค์ปัจจุบัน เล่าว่า อดีตหลวงพ่อนิยมเคยถูกยกย่องให้เป็นพระสังคมบ้านนอกขั้นเทพ เทียบชั้น “หมอเทวดา” ด้วยคนสมัยนั้นติดอยู่กับความเชื่อเรื่องผีกิน ผีป่วง ผีป่า ว่าสามารถรักษาโรคโดยไม่ต้องพึ่งหมอ จึงเลือกฝากชีวิตไว้กับวัดให้หลวงพ่อทำการรักษา
...
ขณะเดียวกันมีฆราวาสอีกมากมาฝากตัวเป็นศิษย์ขอสักยันต์ และนำวัตถุมงคลที่หลวงพ่อรับถ่ายทอดวิชาจากเกจิอาจารย์เจ้าของวิชาไปสักการบูชา โดยเฉพาะคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพัน ปราศจากภยันตรายทั้งปวงนั้น เป็นสิ่งที่ลูกศิษย์ลูกหาต่างต้องการมากสุด
“มีทหารลูกศิษย์หลวงพ่อ ถูกส่งไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดถูกลอบวางระเบิดสังหาร แต่กลับไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย ด้วยมียันต์ที่หลวงพ่อสักไว้ให้ติดตัวปกป้อง” อาจารย์กบบอก
อีกครั้ง...ทหารเรือเกิดทะเลาะกัน ถึงขั้นคว้าปืนมายิงคู่กรณี แต่ลั่นไกกี่ครั้งกระสุนก็มีแต่ขัดลำกล้อง กรมสรรพาวุธทหารเรือจึงนำปืนไปตรวจพิสูจน์ ไม่พบว่าปืนผิดปกติตรงไหน
ทำให้เชื่อว่า...เป็นพุทธคุณที่หลวงพ่อแผ่คุ้มครองลูกศิษย์ของท่านมากกว่าอย่างอื่น
วาระสุดท้าย พระครูเมตตาธิการี หรือ หลวงพ่อนิยม ของชาวชุมชนตะเคียนเตี้ย บังเกิดขึ้นเมื่อคืน 19 ม.ค.2552 ที่ถึงกาลละสังขารขณะนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน และปรากฏเป็นสิ่งผิดปกติมนุษย์ทั่วไป ตรงสรีรสังขารหลวงพ่อไม่เกิดปฏิกิริยาเน่าเปื่อยตามธรรมชาติแต่อย่างใด
...
อาจารย์กบจึงนำร่างหลวงพ่อซึ่งไร้วิญญาณบรรจุไว้ในโลงแก้วรักษาอุณหภูมิอากาศที่เหมาะสม ให้ประชาชนได้กราบไหว้และบนบานในสิ่งปรารถนา จนเมื่อสมประสงค์แล้วก็จะกลับมาแก้บนกันต่างๆ นานา...มีนักมวยมาบนขอตำแหน่งแชมป์ เมื่อสำเร็จก็กลับมาชกถวาย พร้อมวางหนังสือหมัดมวยไว้คู่โลงแก้ว
ด้วย “หลวงพ่อนิยม” ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้เมื่อครั้งยังมีชีวิต
สตรีนางหนึ่ง...มากราบบูชาพลันเหลือบเห็นภาพหลวงพ่อปรากฏบนระเบียงชั้น 2 ของศาลา แต่อาจารย์กบกลับมองว่า...“หลวงพ่อเคยบอก...คนเราเมื่อตายก็จะไปสถิต ณ อีกภพภูมิหนึ่ง ไม่ย้อนกลับมายังโลก จึงอย่าไปเชื่อว่าจะเห็นภาพนั้นภาพนี้ตามคำเล่าลือในอุตริวิชาที่อวดอ้าง...ซึ่งไม่มีจริงในภพนี้”
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม