“สุนทรภู่” หรือ “พระสุนทรโวหาร” ถือกำเนิดเมื่อ 26 มิ.ย.2329 หลังตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ 4 ปี ที่ด้านเหนือพระราชวังหลัง มีบิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง
มารดาเป็นนางนมอยู่พระราชวังหลัง โดยชีวิตสุนทรภู่เริ่มจากการถวายตัวเป็นอาลักษณ์ราชสำนัก แล้วขึ้นเป็นพระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฯ และเสียชีวิตเมื่อปี 2398
สุนทรภู่เป็นกวีเอกมีงานประพันธ์นิทานคำกลอนสุภาพมากมาย หนึ่งในนั้นคือวรรณคดีไทย “พระอภัยมณี” ซึ่งถูกบรรจุเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนทุกยุคสมัย โดยไม่ปรากฏว่าแต่งขึ้นปีใด...
รู้แต่ขนาดความยาว 94 เล่มสมุดไทย เป็นคำกลอน 48,686 คำยาวสุดในโลก
ยูเนสโกจึงประกาศเชิดชูเกียรติให้เป็นบุคคลสำคัญระดับโลกด้านวรรณกรรม เมื่อปี 2529 คราวชาตกาล 200 ปีบุคคลผู้นี้
นิทานโบราณเรื่องนี้ บอกเล่าถึงพระอภัยมณีผู้มีวิชาขับเพลงปี่ ให้พราหมณ์ 3 คนเคลิ้มหลับอยู่ริมฝั่งทะเลได้ และเสียงปี่บทนั้นยังแว่วถึงนางผีเสื้อสมุทร ยักษีผู้อาศัยอยู่ในถ้ำใต้ทะเล
นางฟังเพลงปี่ที่แสนเสนาะจนต้องตัดสินใจผุดขึ้นจากทะเลเพื่อตามหาที่มา เมื่อพบเจ้าของเสียงก็พลันหลงรักทันที ดั่งกลอนบทหนึ่งที่สุนทรภู่เขียนรำพึงไว้
...
“ทั้งทรวดทรงองค์เอวก็อ้อนแอ้น เป็นหนุ่มแน่นน่าชมประสมสอง
ถ้าแม้นได้กับกูเป็นคู่ครอง จะตระกองกอดแอบไว้แนบเนื้อ
น้อยหรือแก้มซ้ายขวาก็น่าจูบ ช่างสมรูปนี่กระไรวิไลเหลือ
ทั้งลมปากเป่าปี่ไม่มีเครือ นางผีเสื้อตาดูทั้งหูฟัง”
O O O O
นางยักษ์ฉวยโอกาสขณะพระอภัยมณีหลับ แอบลักพาตัวไปหวังเป็นคู่ผัวเมียอยู่ในถ้ำและแม้นางจะจำแลงร่างเป็นสาวสวย แต่พระอภัยฯก็รู้อยู่
ดีว่านางเป็นยักษ์ ให้รู้สึกชิงชังเป็นที่สุด ฝ่ายนางยักษ์เอาแต่ออดอ้อนโลมเล้าหมายขยี้สวาท สุนทรภู่เขียนบรรยายให้เห็นภาพว่า...
“เกิดกุลาคว้าว่าวปักเป้าติด กระแซะชิดขากบกระทบเหนียง
กุลาส่ายย้ายหนีตีแก้เอียง ปักเป้าเหวี่ยงยักแผละกระแซะชิด
กุลาโคลงไม่สู้คล่องกระพล่องกระแพล่ง ปักเป้าแทงแต่ละทีไม่มีผิดจะแก้ไขก็ไม่หลุดสุดความคิด ประกบติดตกผาง ลงกลางดิน
สมพาสยักษ์รักร่วมภิรมย์สม เหมือนเด็ดดอก หญ้าดมพอได้กลิ่น
เป็นวิสัยในภพธรนินทร์ ไม่สุดสิ้นเสน่ห์ ประเวณีฯ”
ทั้งคู่อยู่ฉันผัวเมียได้ลูกคือ “สินสมุทร” ต่อมาสองพ่อลูกชวนกันหนียักษ์ไปอยู่กับฤาษีที่เกาะแก้วพิสดาร นางยักษ์ให้แค้นเคืองปนเศร้าหมอง ได้แต่พร่ำวอนให้กลับไปครองรักกัน
แต่ไม่อาจทนอาคมฤาษีได้ นางจึงจำยอมตรอมใจไปกับความรักที่มีต่อผัวอย่างรันทด
ตำนานรักในวรรณคดีชุดดังกล่าว เป็นภาพสะท้อนถึงความรักอันเป็นอมตะ ระหว่างยักษีอสุรกายกับชายร่างงามผู้มีมนต์เสน่ห์จากเพลงปี่ที่เป่า ส่งผลให้ผู้เสพนิทานต่างคล้อยตามเชิงยอมรับต่อคุณค่าแห่ง “ความรัก” อันบริสุทธิ์ที่นางอุตส่าห์ทุ่มบูชาให้กับผัวรักสุดหัวใจ
และแม้ว่าวรรณกรรมชุดนั้น...จะเป็นเพียงโลกสมมติที่เกิดจากจินตนาการ ของกวีเอกยุคต้นรัตนโกสินทร์ ทว่า...มันกลับดูเหมือนโลกแห่งความจริงในวงจรชีวิตมนุษย์
หลายท้องถิ่นจึงพร้อมใจกันสร้างร่างจำลอง “นางผีเสื้อสมุทร” ขึ้นกลางทะเล เช่น ที่หาดปึกเตียน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และริมทะเลเกาะเสม็ด หรือเกาะแก้วพิสดารในนิทานเรื่องเดียวกัน
O O O O
พลังสะท้อนศรัทธาแห่ง “ความรัก” ที่บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง มีภาพปั้นลอยตัวนางผีเสื้อสมุทรในท่ายืนขณะออกตามหาผัวรัก กับพระอภัยมณีขณะนั่งบรรเลงเพลงปี่ อยู่ตรงฐานด้านล่างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ และอีกแห่งต่อมาคือหาดแสงจันทร์ ใจกลางเมืองระยอง ตรงมุมทางแยกจาก ถ.สุขุมวิท มาบรรจบ ถ.เลียบชายฝั่ง หาดแห่งนั้นที่นี่มี...“ศาลนางผีเสื้อสมุทร” ตั้งอยู่กลางแจ้งริมชายหาดไม่ห่างบรรยากาศทะเล
...เป็นภาพปั้นลอยตัวนางผีเสื้อสมุทรหน้าตาดุดันดูน่าเกรงขามในท่ายืนสัญลักษณ์ไม่ต่างกับที่บ้านกร่ำ
โดยมีผ้าหลากสีพันกายคล้ายบอกให้รู้ว่าผู้ศรัทธารับเป็นธุระจัดหามาห่มให้ ส่วนที่เรียวแขนนั้นจะเห็นเด่นชัดว่าถูกประดับด้วยพวงมาลัยดอกไม้แห้งและสดอยู่มากมาย โดยมีโต๊ะบูชามีเชิงเทียนกระถางธูปกรุ่นธูปเทียน และที่สะดุดตาคือขวดน้ำสีจำพวกน้ำส้ม น้ำแดง เปิดฝาเสียบหลอดดูดคล้ายพร้อมดื่มได้
...
สิ่งเหล่านี้อนุมานสะท้อนได้ว่าเป็นเครื่องเซ่นบูชา จากผู้คนที่มากราบไหว้ด้วยพลังแห่งศรัทธาในแต่ละวัน ทั้งๆที่นางยักษีตนนี้ไม่มีวิญญาณให้สามารถบันดาลอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อันใด เหมือนเทพเทวดาประจำศาลทั่วไปที่พร้อม แสดงมนตร์อาถรรพณ์ออกมาให้ประจักษ์
นี่คือเรื่องจริง...ที่บ่งชี้ว่ามีผู้ประสงค์มาปฏิสัมผัสกับเมตตา “พลังแห่งความรัก” จากแม่นางยักษ์ตนนี้ ด้วยต่างเชื่อว่าหากอธิษฐานขอสิ่งใดอันเป็นที่รักเหมือนที่แม่นางทุ่มเทให้ผัวรัก ก็มักได้สิ่งนั้นตอบสนอง
อลงกรณ์ แสนประเสริฐ ชาวบ้านย่านปากน้ำระยอง ยืนยันเคยมาบนบานขอลูกสาว แล้วก็ได้สมดังหวัง จึงนำรูปปั้นพระอภัยมณีที่แม่นางหลงรักมาแก้บน ครั้งนี้มาอีกครั้งเพื่อขอลูกชาย คาดว่าจะได้สมใจนึก
จึงเกิดคำร่ำลือกันไปว่า...ศาลแห่งนี้เสมือนที่พึ่งทางใจให้กับผู้ศรัทธาด้านความรัก เช่น ขอลูก ขอคู่ครอง และความรักที่เป็นนิรันดร์ กระทั่งขอความคุ้มครองความปลอดภัยต่อชีวิต อีกทั้งความก้าวหน้าในชีวิตต่อหน้าที่การงานและทำธุรกิจประกอบอาชีพ
ปรากฏการณ์นี้แม้จะพิสูจน์ความจริงทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ว่านางคือผู้ศักดิ์สิทธิ์เหนือดินฟ้าและเมืองบาดาล แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดจากความเชื่อถือศรัทธา
...
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม