ใครที่ชอบเดินเที่ยวชมเมืองเก่า เชื่อว่าต้องเคยมาเที่ยวในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน หรือที่รู้จักกันในนาม เกาะรัตนโกสินทร์ นอกจากคนไทยที่นิยมมาเที่ยวชมวัดวาอารามแล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็นิยมมาเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ความที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเยอะนี่แหละ ย่านนี้ก็เลยมีโรงแรมที่พักอยู่นับร้อยแห่งให้เลือกมากมาย เราเองก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบเที่ยวที่นี่ และหาโรงแรมสบายๆ สำหรับพักผ่อนเช่นกัน ซึ่งเราเคยได้ยินมาแว่วๆ ว่ามีโรงแรมสไตล์ฮาลาลตั้งอยู่แถวนี้ด้วย เออ...น่าสนใจแฮะ
-1-
I TOUR ALONE คราวนี้ ฮัมมิ่งเบิร์ดจะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรงแรมสไตล์ฮาลาล อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า มันมีความแปลก แตกต่าง และน่าสนใจ เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ เปิ้ล-พนิดา นานา ทายาทตระกูล ‘นานา’ ตระกูลมหาเศรษฐีเชื้อสายมุสลิมที่เข้ามาตั้งรกรากในเมืองไทย นับแต่ช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังเป็นเจ้าของโรงแรมนูโว ซิตี้ โฮเทล ย่านสามเสนแห่งนี้ด้วย
...
ก่อนอื่นคุณเปิ้ลอธิบายให้เราฟังเกี่ยวกับคำว่า ‘ฮาลาล’ สำหรับพี่น้องมุสลิมคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับพี่น้องในศาสนาอื่นๆ อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคย โดยเธอเล่าว่า ฮาลาล เป็นภาษาอาหรับ แปลว่าถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งคนมุสลิมจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ก็เป็นสิ่งสะท้อนตัวตนของเธอ และครอบครัวได้อย่างดี เนื่องจากสมัยก่อนพื้นที่จำนวน 3 ไร่ ตรงนี้เป็นมรดกที่คุณพ่อได้รับมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ สมัยนั้นคุณพ่อใช้พื้นที่นี้ทำเป็นตลาดนานา คนยุคนั้นจะรู้จักและคุ้นเคยกันดี
ต่อมา พอมาถึงรุ่นลูก ซึ่งก็คือ คุณเปิ้ลและพี่ชาย ก็ได้มีการคุยกันว่าอยากปรับเปลี่ยนจากตลาดมาจับธุรกิจโรงแรม เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ในย่านที่คนยุโรปนิยมเข้ามาเที่ยว และมองหาที่พักในย่านนี้มากขึ้น ก็เลยตกลงใจว่าจะทำโรงแรม แต่ทำเป็นสไตล์ฮาลาล เพราะทางครอบครัวเป็นมุสลิม จึงอยากทำให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
“ครอบครัวตั้งแต่ต้นตระกูลมาเลย เรานับถือศาสนาอิสลาม ทีนี้การจะทำโรงแรมขึ้นมา ก็อยากทำให้เป็นฮาลาลด้วย คือมันเป็นไปโดยธรรมชาติ เราทำตามสิ่งที่ถูกต้องตามหลักอิสลามกำหนด ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากโรงแรมทั่วไปนะคะ เรามีห้องพัก มี Facilities ทุกอย่างเหมือนโรงแรมอื่นๆ แต่ก็จะมีพิเศษเรื่องอาหาร เพราะว่าเราไม่มีเมนูที่ปรุงจากเนื้อหมู และไม่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด” คุณเปิ้ล อธิบาย
-2-
แม้ว่าโรงแรมแห่งนี้จะเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2540 ที่มีเพียงตึกเดียว แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้าชาวยุโรป เลยมีการขยายสร้างเป็นตึกที่สองในปี 2554 และยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจนถึงปัจจุบัน
“เริ่มแรกเราทำแค่ตึกเดียวก่อน มี 170 ห้อง ต่อมาก็เพิ่มอีกเป็นตึกที่สอง ปัจจุบันมี 2 ตึก ห้องพักรวม 280 ห้อง ในห้องพักทุกห้อง เราจะติดสัญลักษณ์รูปลูกศร เพื่อกำหนดทิศสำหรับการสวดมนต์ หรือการทำละหมาด ซึ่งมุสลิมทุกคนเวลาทำละหมาดต้องหันหน้าไปยังทิศที่ถูกต้อง ก็คือทิศที่หันไปทางกรุงเมกกะ และมีห้องทำละหมาดรวมห้องใหญ่” เธอบอกจุดเด่นของโรงแรมสไตล์ฮาลาล
...
มาถึงรูปแบบของห้องพักกันบ้าง ที่นี่แบ่งห้องพักเป็น 5 แบบ ได้แก่ ซูพีเรีย ดีลักซ์ แกรนด์ดีลักซ์ ดีลักซ์สวีต และแกรนด์สวีต ซึ่งแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันที่วิวนอกห้อง และการออกแบบตกแต่งภายใน
ในภาพรวมโรงแรมแห่งนี้มีคอนเซปต์ว่าเป็น 4 stars Modern Boutique Halal Hotel ลักษณะการตกแต่งก็จะเป็นลักษณะของความทันสมัย โมเดิร์นสไตล์ แล้วก็มีความเป็น Boutique ก็คือแต่ละห้องก็ตกแต่งในรูปแบบแตกต่างกัน ซึ่งโรงแรมนี้เขาเป็นโรงแรม 4 ดาวแห่งแรกในเกาะรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว
...
...
“โรงแรมเราไม่ได้ออกแบบเป็นแขกจ๋าขนาดนั้น ถ้าสังเกตดู จะเห็นว่าแขกที่เข้ามาพักกับเราส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนมุสลิม แต่เป็นชาวยุโรปที่ชอบมาเที่ยวย่านนี้เยอะ ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดี ที่มาช่วยเสริมให้เราสามารถรองรับแขกทั่วไปได้ และรวมถึงแขกที่เป็นมุสลิมได้ด้วย” คุณเปิ้ล บอก
นอกจากนี้ก็ยังมีความพิเศษในเรื่องอาหารของโรงแรม เป็นอาหารที่รสชาติดี คนทั่วไปทานได้ แถมคนมุสลิมก็ทานได้อย่างสบายใจเช่นกัน มีให้เลือกหลากหลายเมนู ทั้งอาหารไทย อาหารอินเดีย และอาหารยุโรป อย่าเข้าใจผิดนะ อาหารฮาลาลไม่ได้มีเฉพาะอาหารแขกเท่านั้น จริงๆ แล้วสามารถทำได้ทุกเมนู
-3-
ความพิเศษของที่นี่ยังไม่หมด แม้ว่าทางโรงแรมจะไม่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่รอบๆ โรงแรม ย่านนี้จะมีร้านอาหารสไตล์บาร์แอนด์เรสเตอรองต์มากมาย แขกสามารถไปกินดื่มเที่ยวได้ใกล้ๆ เป็นตัวเสริมที่ทำให้แขกได้เที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย
เพียงแต่ทางโรงแรมขออนุญาตว่า ไม่ให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มในบริเวณ Public Area เท่านั้นเอง ซึ่งผู้เข้าพักก็เข้าใจ และกลับเป็นผลดี เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว มีเด็กๆ มาด้วย การที่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงแรม ก็ถือเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว รู้สึกถึงความปลอดภัย และเพิ่มความสบายใจให้ลูกค้าด้วย
อีกอย่างโรงแรมก็ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งเป็นย่านวัฒนธรรมของไทย นักท่องเที่ยวยุโรปส่วนใหญ่เวลามาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็มักจะมาเที่ยวพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง และวัดต่างๆ มากมาย เช่น วัดภูเขาทอง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดแจ้ง วัดมหาธาตุ วัดชนะสงคราม วัดสุทัศน์ วัดบวร เป็นต้น
ที่สำคัญคือ โรงแรมนี้การันตีคุณภาพด้วย Certificate จากดูไบ เมื่อเดือนมกราคม 2017 ที่ผ่านมา เพื่อรับรองว่าเป็น Halal Hotel แท้จริง ซึ่งโรงแรมที่ได้รับใบรับรองนี้มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในไทย
คุณเปิ้ลบอกว่า ในเมืองไทยยังไม่มีหน่วยงานที่จะตรวจสอบ และมอบใบรับรองด้านโรงแรมฮาลาล ทางโรงแรมเลยต้องทำเรื่องขอไปทางดูไบ เพื่อให้เขาส่งทีมงานมาตรวจสอบ และมอบใบรับรองให้ เพื่อยืนยันว่าห้องพักของโรงแรมเราเป็นฮาลาล ถูกต้องตามหลักอิสลามจริง
นอกจากนี้ เนื่องจากว่านูโวซิตี้โฮเทล ตั้งอยู่ในย่านที่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง โดยในช่วงเดือนตุลาคม 2560 นี้ จะมีประชาชนที่เดินทางมาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จำนวนมาก หากท่านใดเดินทางมาจากต่างจังหวัดเป็นหมู่คณะเพื่อร่วมพระราชพิธี และมองหาที่พัก ทางโรงแรมยินดีที่จะมอบส่วนลดให้เป็นพิเศษด้วย
...น่ารักแบบนี้ไม่ไปพักไม่ได้แล้ว!