สำหรับนักเดินทางตัวยง ไอเทมที่ชีวิตนี้ต้องมี! คงหนีไม่พ้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ สามารถใส่เสื้อผ้าสัมภาระได้ 3-4 วัน ยิ่งถ้าใครเดินทางบ่อยๆ กระเป๋าเดินทางนี่...สำคัญมาก
แต่ถ้าใครเพิ่งจะลองเลือกซื้อครั้งแรก แล้วไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรดี วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมวิธีเลือกกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับคุณมาฝากกัน
1. ไซส์หรือขนาดของกระเป๋า
อันดับแรกให้เลือกจากขนาดของกระเป๋ากันก่อน การเดินทางของคุณครั้งนี้คุณจะไปใช้ชีวิตต่างถิ่น (ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือต่างจังหวัด) กี่วัน? ให้เลือกใช้ตามนั้น
- กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 18-20 นิ้ว เหมาะสำหรับเดินทางประมาณ 2-3 วัน
- กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 24 นิ้ว เหมาะสำหรับเดินทางประมาณ 4-5 วัน
- กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 28 นิ้ว เหมาะสำหรับเดินทางประมาณ 5 วันขึ้นไป
2. วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า
โดยทั่วไปกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากแบ่งได้ 2 แบบ คือ
...
- แบบ Soft Case
กระเป๋าเดินทางแบบ Soft Case ส่วนใหญ่จะผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมไนลอน มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดี แต่ข้อเสียคือหากใช้ไปนานๆ บวกกับการยัดของลงกระเป๋าอย่างบ้าระห่ำ รูดซิปยากเย็นบ่อยๆ อาจทำให้กระเป๋าขาดทะลุได้ ส่วนการทำความสะอาด ทำได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดฝุ่นละออง นำผึ่งลมให้แห้งป้องกันการเกิดเชื้อรา
- แบบ Hard Case
ส่วนตัวชอบแบบนี้มากกว่า แนะนำให้ใช้แบบนี้จะทนทานกว่านะจ๊ะสาวๆ กระเป๋าเดินทางแบบ Hard Case ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูง ที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนความร้อนสูง น้ำหนักเบา กันน้ำได้ และไม่ทำให้สิ่งของภายในกระเป๋าเกิดความเสียหาย ราคาแอบแพงกว่าแบบแรกนิดหน่อย
3. เลือกตามจุดประสงค์การใช้งาน
ถ้าเลือกจากจุดประสงค์ของการเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก ก็อาจจะเลือกจากลักษณะงานที่ไป เช่น
- เดินทางไปติดต่อเรื่องงาน : ควรใช้กระเป๋าแบบ Hard case มากกว่า เพราะทำให้คุณดูภูมิฐาน ดูดี ไม่โลว์คลาส เน้นใช้สีพื้นๆ เรียบๆ แต่หรู เช่น สีดำเมทัลลิก สีเทา สีน้ำเงินเข้ม สีแดงเข้ม ไม่ควรมีลวดลายอื่นๆ มาเสริม
- เดินทางไปเที่ยว : ใช้กระเป๋าได้ทั้งแบบ Hard case และแบบ Soft Case เลือกรูปทรงและสีสันได้ตามใจชอบ
- เดินทางไปเรียนต่อ หรืออยู่ต่างถิ่นนานๆ เป็นเดือน : อันนี้ก็สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ แต่เน้นขนาดกระเป๋าให้ใหญ่พิเศษ เน้นความทนทาน เพราะต้องหอบหิ้วสัมภาระไปจำนวนมาก
4. ล้อกระเป๋า
กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากมีทั้งแบบ 2 ล้อ และแบบ 4 ล้อ เราแนะนำว่าให้เลือกแบบ 4 ล้อจะดีกว่า เพราะสามารถหมุนได้รอบ และล็อกล้อได้ เวลาลากกระเป๋าไปตามสถานที่ต่างๆ จะลากได้ลื่นมือ ไม่มีสะดุด สะดวกต่อการใช้งาน ช่วยผ่อนแรงเวลาคุณเคลื่อนย้ายกระเป๋าไปตามที่ต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพ แต่ก่อนจะซื้อต้องตรวจสอบดูให้ดีว่าล้อทั้ง 4 ไม่ชำรุด ตรวจสอบการหมุนของล้อว่าหมุน เลื่อนได้ดี ไม่ติดขัด
...
5. ช่องใส่ของภายใน
กระเป๋าบางรุ่นจะมีแค่ช่องกว้างๆ ใส่ของแค่ 2 ส่วน คือ ส่วนของตัวกระเป๋า และส่วนของฝากระเป๋า แต่บางรุ่นเขาออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีช่องเล็กๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีก 4-5 ช่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บของให้มากขึ้น ถ้าสาวๆ มีของจุกจิกเยอะ ก็แนะนำให้เลือกกระเป๋ารุ่นแบบนี้ จะสะดวกมากๆ เลยจ้า
6. หูหิ้วกระเป๋า
หูหิ้วของกระเป๋าเดินทางควรทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นดี สังเกตจากหูหิ้วของกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก หูหิ้วควรยึดติดกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี และถ้าเป็นแบบคันชัก ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เสียในระหว่างการเดินทาง เพราะหากคันชักเสีย กระเป๋าเดินทางจะเคลื่อนย้ายลำบาก ต้องหิ้วแทน ก็จะเพิ่มความลำบากให้การเดินทางไปอีก
7. เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไม่ได้แปลว่าจะหนักกว่าใบเล็ก กระเป๋าเดินทางทุกขนาดจริงๆ แล้วมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน อยู่ที่ประมาณ 3-4 กก. บางคนก็คิดว่าไหนๆ จะซื้อแล้ว ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ลงทุนซื้อใบใหญ่ไปเลยก็แล้วกัน อันนี้ก็ไม่ผิด
...
แต่สำหรับบางคน...เป็นคนตัวเล็ก หรือเป็นคนปวดหลังบ่อย เราก็ไม่แนะนำให้ซื้อใบใหญ่ ให้ใช้ใบขนาดพอดีๆ ที่คุณสามารถยกมันได้จะดีกว่า อย่างไรก็ตามการซื้อกระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง ถ้าเลือกดีๆ อายุการใช้งานใช้ได้นาน 4-5 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า