ใครจะหนีฝน (และหนีร้อน) ไปเที่ยวต่างประเทศช่วงนี้ ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน (ถ้าเก็บได้ประมาณนึงน่ะนะ) เพราะได้เปิดหูเปิดตาในที่แปลกๆ ใหม่ๆ บ้าง แต่ก่อนจะไปเที่ยว หลายคนคงอยากเตรียมเงินไปช็อปปิ้งของฝากกลับมาเหมือนกัน งานนี้เลยต้องตระเตรียมเงินสกุลของประเทศนั้นๆ ให้พร้อม

ว่าแต่...จะไปแลกเงินที่ไหนได้บ้าง แล้วมีขั้นตอนอย่างไรให้แลกได้ไว ไม่ต้องเสียเวลาคอยนาน วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ขอเปิดคู่มือท่องเที่ยวชวนส่องวิธีการแลกเงินเจ๋งๆ มาฝากกัน จะต้องทำไงบ้าง ตามมาดู

1. เช็กอัตราค่าแลกเปลี่ยน

ก่อนจะแลกเงินไม่ว่าจะเป็นสกุลไหนๆ ก็ต้องเช็กเรตราคาหรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากันหน่อย เพื่อที่จะได้คำนวณล่วงหน้าได้ว่าอยากได้เงินสกุลนั้นๆ เป็นจำนวนเท่าไหร่ และจะต้องเตรียมเงินไทยไปแลกเท่าไหร่ โดยหากจะเดินทางไปแลกเงินตามร้านค้าที่ให้บริการอย่างซูเปอร์ริชก็เข้าไปดูที่เว็บไซต์ได้ที่ superrich1965 หรือ superrichthailand แต่ถ้าจะแลกตามธนาคารก็สามารถไปเช็กเรตราคาได้ตามหน้าเว็บไซต์ของธนาคารนั้นๆ

...

2. เอาพาสปอร์ตติดตัวไปเสมอ

เมื่อก่อนอาจจะไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต แต่เดี๋ยวนี้ไม่พกไปไม่ได้แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่จะถามหาทุกครั้งเพื่อตรวจสอบและยืนยันบุคคล โดยมีข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2556 เป็นต้นไป การแลกเปลี่ยนเงินตราต้องใช้เอกสารกำกับด้วย ซึ่งเอกสารสำหรับการซื้อเงินสกุลต่างประเทศ ต้องใช้พาสปอร์ตเท่านั้น ไม่ว่าจะไปแลกตามร้านที่ให้บริการ หรือตามธนาคาร ก็ต้องพกไปเหมือนกัน

3. สถานที่แลกเงิน

คุณสามารถเดินทางไปซื้อเงินสกุลต่างประเทศได้ตามร้านค้าที่ให้บริการ เช่น ซูเปอร์ริช (Super rich) ทั้งสีเขียวและสีส้ม สยามเอ็กเชนจ์ (Siam exchange) หรือตามธนาคารต่างๆ ที่มีบูธเขียนป้ายว่า Exchange Money ก็สามารถเข้าไปแลกเงินได้เลย ข้างๆ บูธแบบนี้จะมีป้ายไฟแสดงอัตราค่าเงินของสกุลต่างๆ ไว้ให้ดูด้วย หรือถ้าจะเอาสะดวกสุดๆๆ ก็ไปแลกตามสนามบินก่อนจะขึ้นเครื่องก็ได้ (ไม่ต้องเสียเวลาไปแลกล่วงหน้า แต่แอบแพงกว่าที่อื่น)

4. ขั้นตอนการแลกเงิน

หากใครอยากแลกเงินได้คุ้มในราคาถูก แนะนำว่าไม่ควรไปแลกที่สนามบิน ให้ไปแลกตามร้านค้าที่ให้บริการจะดีกว่า ได้เรตดี หมายถึงว่าจำนวนเงินไทยเท่าๆ กัน หากแลกตามร้านค้ามักจะได้เงินสกุลนั้นๆ จำนวนมากกว่า การไปแลกในสนามบิน ส่วนขั้นตอนการแลกเปลี่ยนเงินก็ง่ายๆ ดังนี้

- เช็กอัตราแลกเปลี่ยนอีกครั้ง ตามร้านค้าที่ให้บริการจะมีป้ายระบุราคาของสกุลเงินต่างๆ
- กดบัตรคิว เข้าคิวรอเรียก
- เมื่อถึงคิวก็ยื่น passport ให้พนักงานถ่ายเอกสาร
- บอกจำนวนเงินที่ต้องการแลก แล้วส่งเงินให้พนักงาน
- รับเงิน ตรวจเช็กจำนวน และเช็กว่าธนบัตรไม่อยู่ในสภาพที่ขาดหรือชำรุด

แต่ถ้าไม่อยากไปรอคิวนานๆ เดี๋ยวนี้ตามร้านค้าเหล่านี้รวมถึงธนาคารต่างๆ ก็มีบริการให้โทรไปแลกเปลี่ยนเงินได้ ควรโทรล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนไปรับเงิน และควรระบุสาขาของร้านหรือธนาคารที่เราสะดวกไปรับเงินให้ชัดเจนด้วย

5. แลกกลับยังไงให้คุ้ม?

ไปเที่ยวกลับมาแล้ว แต่เผอิญใช้เงินไม่หมด ถ้าอยากแลกกลับคืนเป็นเงินไทยก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ต้องพกบัตรประชาชนไปที่ร้านค้าหรือธนาคารที่ให้บริการด้วยทุกครั้ง ก็สามารถแลกเงินต่างประเทศกลับคืนเป็นเงินไทยได้สบายๆ

...

แต่เดี๋ยวก่อน...มันมีเคล็ดลับตรงที่แลกเงินกลับยังไงให้คุ้ม? มีกูรูหลายท่านในโลกโซเชียลได้ให้คำแนะนำไว้หลายวิธี แต่ที่นิยมทำกันก็คือ ส่วนใหญ่จะแลกเงินบาทไทยเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯก่อน จากนั้นจึงนำเงินดอลลาร์ไปแลกเป็นสกุลเงินที่เราต้องการใช้ (ว่ากันว่าถ้าอยากแลกเงินวอนของเกาหลี ใช้วิธีนี้จะคุ้มที่สุด) แต่ให้ทยอยแลก อย่าแลกไว้ทั้งหมด เพราะถ้าเงินเหลือก็ให้เหลือกลับมาเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐฯดีกว่า เพราะแลกคืนเป็นเงินบาทไทยแล้วขาดทุนน้อย 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีนี้จะได้ผลก็ขึ้นอยู่กับค่าเงินในช่วงเวลานั้นๆ และสกุลเงินของแต่ละประเทศด้วยนะ ไม่ใช่ว่าจะแลกได้คุ้มทั้งปี เอาเป็นว่าต้องศึกษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินกันสักนิด เพื่อความคุ้มค่าที่สุดก็แล้วกัน


ขอบคุณภาพ : rickstevesgoabroadcharts.tradingtheforexsuperrich1965,

...