ใครที่เดินทางไปเที่ยวโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นอกจากตระเวนกิน เที่ยว ช็อป ตามพิกัดต่างๆ รอบเมืองแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ การไปไหว้ขอพรศาลเจ้าเก่าแก่ประจำเมือง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังได้ชมสถาปัตยกรรม สัมผัสวัฒนธรรม และความเชื่อท้องถิ่นอีกด้วย

"ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ" (Sumiyoshi Taisha Shrine) หรือที่คนไทยเรียกว่า "ศาลเจ้าสุมิโยชิ" ถือเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ของโอซากา ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีสะพานโค้งสีแดงเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดปีใหม่ของทุกปี จะมีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาขอพรยังศาลเจ้าแห่งนี้มากกว่า 2 ล้านคนเลยทีเดียว

ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสเดินทางไปยังศาลเจ้าสุมิโยชิได้เก็บภาพและบรรยากาศมาฝาก โดยจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ให้มากขึ้น เผื่อใครที่กำลังวางแผนเดินทางมายังโอซากาในเร็วๆ นี้ จะได้ปักหมุดศาลเจ้าสุมิโยชิเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด

...

ทำความรู้จัก "ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ" ศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 1,800 ปี

ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ (ภาษาญี่ปุ่น : 住吉大社) คือ หนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานที่สุดของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าสุมิโยชิย่อยอีก 2,300 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น

มีการสันนิษฐานตามตำนานว่า "จักรพรรดินีจิงกู" ซึ่งเป็นจักรพรรดิหญิงคนแรกของญี่ปุ่น เป็นผู้เริ่มสร้างศาลเจ้าสุมิโยชิขึ้นในปี ค.ศ. 211 หรือเมื่อราว 1,800 ปีก่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงความกตัญญูและขอบคุณเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ที่เชื่อว่าคุ้มครองให้พระองค์เดินทางไปยังอาณาจักรโคกูรยอ (ปัจจุบันคือประเทศเกาหลี) อย่างปลอดภัย ซึ่งในสมัยนั้นการเดินทางล่องเรือในทะเลเต็มไปด้วยอันตราย และมีความเสี่ยงต่อคลื่นลมแรงนั่นเอง

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ศาลเจ้าสุมิโยชิ จึงกลายเป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล สำหรับไหว้สักการะขอพรเรื่องการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ช่วยปัดเป่าภัยพิบัติ ดลบันดาลให้การทำเกษตรได้ผลผลิตดี รวมไปถึงยังกลายเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับบทกวีอีกด้วย

ปัจจุบัน ศาลเจ้าสุมิโยชิได้รับยกย่องในฐานะสมบัติของชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรม เนื่องจากไม่เพียงแต่เป็นศาลเจ้าศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่น แต่ยังมีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นเป็นระยะเวลานานกว่า 1,800 ปี

"สุมิโยชิ-ซึคุริ" สถาปัตยกรรมรูปแบบเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก

แม้ว่าประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าสุมิโยชิจะยาวนานกว่า 1,800 ปี นับตั้งแต่ตำนานการบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันอาคารศาลเจ้าหลักเก่าแก่หรือเทวาลัย มีจำนวน 4 หลัง ที่สร้างขึ้นราวทศวรรษที่ 18 โดยแต่ละหลังจะหันหน้าไปทางทิศที่มีทะเล คุ้มครองนักเดินเรือและชาวประมงให้ปลอดภัย

มีความโดดเด่นตรงที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่เรียกว่า "สุมิโยชิ-ซึคุริ" (Sumiyoshi-zukuri) ที่ได้ชื่อว่าเป็นรูปแบบเก่าแก่ที่สุดที่นำมาใช้ในการสร้างศาลเจ้าของญี่ปุ่น โดยจะประกอบด้วยหลังคาทรงตรง ภายในแบ่งเป็นห้องด้านหน้าและด้านหลัง แตกต่างจากศาลเจ้าทั่วไปในญี่ปุ่นที่มักสร้างด้วยหลังคาทรงโค้ง

...

เทวาลัยทั้ง 4 หลังนี้ แบ่งออกเป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล 3 หลัง ส่วนอีก 1 หลังเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณจักรพรรดินีผู้เริ่มสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ ว่ากันว่าการจัดเรียงเทวาลัยทั้ง 4 หลัง จะมีลักษณะคล้ายกองเรือที่กำลังแล่นอยู่ในมหาสมุทร บ้างก็ว่าเหมือนนกกระเรียนที่กำลังสยายปีก

ภายในศาลเจ้ามีต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกเรียงรายให้ความสงบร่มรื่น มีภาพวาดเก่าแก่ประดับให้ชมตรงบริเวณทางเข้า อีกทั้งยังมีจุดล้างมือที่เรียกว่า "โชสุยะ" ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าก่อนที่จะเข้าไปไหว้เทพเจ้าจะต้องใช้กระบวยตักน้ำล้างมือซ้าย-ขวา และล้างปาก เพื่อชำระล้างร่างกายและจิตใจก่อนเสมอ

...

จุดเด่นศาลเจ้า "สะพานโค้งสีแดง" สัญลักษณ์มงคลแห่งการเริ่มต้นใหม่

ก่อนจะเดินเข้าไปสักการะเทพเจ้าที่บริเวณด้านในศาลเจ้าสุมิโยชิ จะต้องเดินข้ามสะพานโค้งสีแดงขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า "โซริฮาชิ" (Sorihashi Bridge) มีความยาวประมาณ 20 เมตร ได้ชื่อเป็น 1 ใน 100 วิวที่สวยงามที่สุดของภูมิภาคคันไซ

ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ถือเป็นอีกจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาชมความสวยงาม อีกทั้งในช่วงปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจะต้องมาข้ามสะพานโค้งสีแดงแห่งนี้ โดยเชื่อว่าเป็นการชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ เมื่อเดินลงจากสะพานก็เปรียบเสมือนการเริ่มต้นใหม่ของชีวิต 

...

สะพานโค้งสีแดงแห่งศาลเจ้าสุมิโยชิ จะสะท้อนกับผิวน้ำเบื้องล่าง เงาในน้ำเชื่อมต่อกับสะพานจริง คล้ายกับกลองไทโกะบาชิของญี่ปุ่น ทำให้บางคนเรียกสะพานนี้ว่าสะพานกลองนั่นเอง ถือเป็นพิกัดไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเยือนศาลเจ้าสุมิโยชิแห่งเมืองโอซากา

ห้ามพลาด! เก็บหินมงคล 3 ก้อน พกเป็นเครื่องรางนำโชค เสริมพลังใจ

แน่นอนว่าการไปศาลเจ้าญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือการซื้อเครื่องรางนำโชคในเรื่องต่างๆ กลับมา สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้มีจุดจำหน่ายเครื่องรางที่บริเวณทางออก แต่ขณะเดียวกันมีจุดไฮไลต์ของเครื่องรางที่เรียกว่า "โกไดริกิ อิชิโมริ" โดยจะมีลักษณะเป็นถุงเล็กๆ ให้เรานำไปยังจุด "หินขอพร" แล้วเลือกหยิบก้อนหินบริเวณนั้น ซึ่งจะต้องประกอบด้วยหินที่มีตัวอักษรมงคล 3 คำ ได้แก่ 五, 大, 力

เชื่อว่าเมื่อเจอหินขอพรทั้ง 3 คำ นำเก็บใส่ถุงกลับบ้าน จะทำให้สิ่งที่ขอพรเป็นจริงตามปรารถนา เราสามารถเก็บหินขอพรทั้ง 3 ก้อนนั้นเป็นเครื่องรางสิริมงคลได้เลย ช่วยเสริมพลังใจ สติปัญญา สุขภาพ การเงิน โชคลาภ สุขภาพแข็งแรง และมีอายุยืนยาว

ทั้งนี้ หากคำขอพรสำเร็จ หลายคนก็จะนำหินที่มีลักษณะคล้ายกันมาวางคืนที่บริเวณจุดหินขอพร พร้อมทั้งเขียนข้อความขอบคุณเทพเจ้าและศาลเจ้าสุมิโยชิ พร้อมทั้งหยิบหินขอพร 3 ก้อนใหม่กลับไปอีกครั้ง ทำให้บริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยถุงเครื่องรางใส่ก้อนหินขอพร ที่มีผู้นำมาแขวนไว้เรียงรายเมื่อพรสมปรารถนานั่นเอง

ภายในศาลเจ้ายังมีจุดเสี่ยงเซียมซี เพื่อขอให้เทพเจ้าประทานข้อคิดและคำเตือนที่เราควรระวังในช่วงนี้ในด้านต่างๆ วิธีเซียมซีเพียงแค่หยิบกระบอกไม้ขึ้นมาถือ และคว่ำให้มีไม้หล่นลงมา 1 แท่ง หลังจากนั้นก็ดูว่าเป็นตัวเลขอะไร แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดอ่านคำทำนายได้เลย โดยคำทำนายจะมีให้เลือกหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย โดยสามารถร่วมทำบุญครั้งละ 200 เยน

ไปไหว้สักการะ "ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ" นิยมขอพรเรื่องอะไร?

ในอดีตศาลเจ้าสุมิโยชิ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ขอพรด้านการออกเรือหรือด้านทางข้ามทะเล แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่นิยมขอพรเรื่องการเดินทาง เพื่อขอให้การเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากอันตรายทั้งปวง

นอกจากนี้ ศาลเจ้ายังมีชื่อเสียงในด้านการขอพรเรื่องการงาน และขอให้ประสบความสำเร็จด้านการทำธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากกว่า 2 ล้านคน รวมทั้งยังมีชื่อเสียงจนมีนักธุรกิจต่างชาติเดินทางมาไหว้สักการะขอพรอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากศาลเจ้ามีความเก่าแก่นับพันปี จึงมีจุดต่างๆ ภายในศาลเจ้าที่เชื่อว่าช่วยเสริมพลัง ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และช่วยเสริมสิริมงคลแก่ผู้ไปไหว้สักการะ ทำให้ผู้ศรัทธายังนิยมไปขอพรในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น สุขภาพ คลอดบุตรปลอดภัย รวมถึงเรื่องการแต่งงาน ซึ่งภายในบริเวณสวนสาธารณะของศาลเจ้า มักจะมีคู่รักมาถ่ายรูปแต่งงานให้เห็นอย่างสม่ำเสมอ

วิธีเดินทางไปขอพรที่ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น

  • หากนั่งรถราง Hankai : ลงที่สถานี Sumiyoshi-Toriimae 
  • หากนั่งรถไฟ Nankai Line : ลงที่สถานี Sumiyoshi Taisha

เวลาเปิด-ปิด ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ

  • เดือนเมษายน - กันยายน : เวลาทำการ 06.00-17.00 น.
  • เดือนตุลาคม - มีนาคม : เวลาทำการ 06.30-17.00 น.
  • ค่าเข้าชม : ฟรี

สำหรับใครที่วางแผนเดินทางไปเที่ยวเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น สามารถซื้อ Kansai Railway Pass (บัตรโดยสารรถไฟสำหรับท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซ) หรือจองตั๋วออนไลน์อื่นๆ ล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Klook

เฉพาะลูกค้าใหม่ของ Klook ซื้อ eSIM สำหรับใช้ที่ประเทศญี่ปุ่น ใส่โค้ด "THJPESIM" เพื่อรับส่วนลดพิเศษ ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค. 2567 เท่านั้น

เรื่องและภาพ : ตติยา แก้วจันทร์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม