Seasia.stats เว็บไซต์ยอดนิยมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้จัดอันดับ 20 ถนนที่สวยที่สุดในโลก ภายใต้แคมเปญชื่อ “The World’s 20 Most Beautiful Streets” ซึ่งปรากฏว่า ซอยรมณีย์ เมืองเก่าภูเก็ต ติดอันดับ 19 ของถนนสวยที่สุดในโลก โดยอันดับ 1 ได้แก่ Symi Harbour, Livadia ของประเทศกรีซ

สำหรับ ซอยรมณีย์ เป็นถนนเก่าแก่ของภูเก็ตโดยเฉพาะในยุคกว่า 100 ปีที่แล้ว สมัยที่ภูเก็ตรุ่งเรืองอย่างมากจากกิจการเหมืองแร่ ที่เจ้า ของเหมืองทั้งชาวไทย, จีน, มาเลย์ และฝรั่งต่างร่ำรวยจากการทำเหมือง

...

สมัยนั้นซอยรมณีย์คือสวรรค์บนดินของเจ้าของเหมืองแร่และวิศวกรเหมือง เป็นสถานที่ที่ได้หยุดพักจากการทำงานหนักเพื่อมาหาความสำราญ ลองนึกภาพยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสาวๆยืนกันเต็มริมฟุตปาท เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีและการชนแก้วเหล้าเป็นระยะๆ น่าจะพอจินตนาการถึงความสุขของตรอกเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 200 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตรของเมืองภูเก็ตยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

“หั่งอาหล่าย” คือชื่อเดิมของซอยรมณีย์ ออกเสียงตามสำเนียงชาวจีนฮกเกี้ยน แต่ถ้าเป็นสำเนียงจีนกลางจะออกเสียงว่า “ฮ่างจื่อเน่ย” ยุคที่การทำเหมืองแร่กำลังรุ่งเรือง ประชากรอันเนื่องมาจากแรงงานชายในการทำเหมืองมีจำนวนมาก จึงมีโสเภณีจากญี่ปุ่น มลายู มาเก๊า เข้ามาทำมาหากินในตรอก หั่งอาหล่ายกันอย่างคับคั่ง ส่วนบางเรื่องเล่าก็บอกว่า หลายคนเรียก ตรอกเล็กๆแห่งนี้ว่า “ตรอกโรงเกี๊ยะ”

เนื่องจากตกค่ำจะมีอาม่ามานั่งเคาะเกี๊ยะแดงกับพื้นถนนดัง ก๊อกแก๊ก ก๊อกแก๊ก เพื่อเชิญชวนให้บรรดาชายหนุ่มที่เข้ามาหาความสำราญในตรอกนี้เข้าไปใช้บริการบรรดาสาวๆโสเภณีที่รอคอยอยู่ด้านบนของตึก ไม่ปรากฏข้อมูลว่า จริงๆแล้วสีแดงที่พูดถึงเป็นสีของรองเท้าเกี๊ยะหรือสีของโคมไฟสีแดงที่ย่านบันเทิงแบบนี้ทั่วโลกเรียกว่าย่านโคมแดง

กิจการโสเภณีในตรอก หั่งอาหล่าย เฟื่องฟูอย่างมาก กระทั่งพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) มาเป็นสมุหเทศาภิบาล มณฑลภูเก็ต ประมาณปี 2445 เห็นควรให้มีการจัดระเบียบธุรกิจขายบริการ ร้านน้ำชา บาร์ ไนต์คลับในตรอกแห่งนี้ ให้ง่ายแก่การควบคุม จึงมีการจัดระเบียบพร้อมกับเปลี่ยนชื่อตรอกหั่งอาหล่ายเป็นซอยรมณีย์ ที่แปลว่า รื่นรมย์ น่ายินดี น่าสนุก น่าสบาย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

...

อาคารบ้านเรือนเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา แต่ด้วยความที่สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในย่านเมืองเก่าภูเก็ตมีสีสันของวัฒนธรรมแบบตะวันตกและจีนผสมกัน โดยเฉพาะอาคารแบบ ชิโนโปรตุกีส ซึ่งถ้าเทียบกับหลายจังหวัดแล้ว ภูเก็ตน่าจะมีจำนวนของอาคารแบบนี้มากที่สุด และยังคงอยู่ในสภาพดีที่สุด

ซอยรมณีย์กลับมามีสีสันอีกครั้งเมื่อมีการบูรณะอาคารหลายหลังขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในสภาพที่ดี ทาสีสันตกแต่งสวยงาม ดัดแปลงเป็นโรงแรมบูติก ร้านกาแฟ ร้านขายโปสต์การ์ด Art Gallery ฯลฯ ถือเป็นการเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองของการท่องเที่ยวที่มาแทนที่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอาคารทุกหลังในซอยรมณีย์จะสวยงามเหมือนกันหมด บางหลังยังคงความเป็นบ้านพักอาศัย เปิดกิจการเล็กๆ เช่น ร้านตัดผม ร้านขายของเล็กๆที่มีอาม่า อาซิ้ม ยังคงเปิดกิจการพอเป็นลมหายใจแห่งอดีตอยู่บ้าง

...

ในช่วงหลังๆที่การท่องเที่ยวบูมมากๆ ย่านเมืองเก่าภูเก็ตถูกเผยแพร่ไปยังสื่อต่างๆในต่างประเทศ จนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของภูเก็ต และซอยรมณีย์ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีคนมาเช็กอิน ถ่ายรูป จิบกาแฟเบาๆ กินขนมต้นตำรับอย่างโอ๊ะเอ๋ว บีโกมอย กันอย่างไม่ขาดสาย และถ้ามีเวลาพออาจจะแว่บไปฟังดนตรี กู่เจิง จากน้องแอนนี่ อธิษฐ์รดา เจ้าของฉายา “นางฟ้ากู่เจิง” ที่ถนนถลางด้วยก็เพลินไปอีกแบบ

และวันนี้รมณีย์ ซึ่งเป็นดั่งรมณียสถานที่ไม่เคยหลับใหลก็ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อได้รับการจัดอันดับให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกในปีนี้.