หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดเทรนด์ในเวลานี้ ต้องมีชื่อของ “ถ้ำนาคา” ขึ้นอันดับหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายมูเตลู เพราะเชื่อกันว่าเมื่อเดินทางไปกราบไว้ขอพรแล้วจะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองด้านการเงินและหน้าที่การงาน เป็นเหตุให้มีทั้งคนธรรมดาไปจนถึงเหล่าดาราคนดังที่เชื่อในเรื่องสายมูเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย สำหรับใครที่วางแผนจะไปตามรอยถ้ำนาคา ควรรู้อะไรบ้างก่อนเดินทาง ไทยรัฐออนไลน์รวบรวมมาให้แล้ว
1. ที่มาความมูของถ้ำนาคา
ก่อนที่จะไปขอพรควรรู้ประวัติเบื้องต้นซึ่งเป็นที่มาของความมูเตลูเสียหน่อย โดย "ถ้ำนาคา" เป็นถ้ำที่ถูกค้นพบใหม่ ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีความสวยงามโดดเด่นจากความมหัศจรรย์และซับซ้อนของธรรมชาติที่ทำให้หินบริเวณถ้ำนาคามีลักษณะคล้ายเกล็ดงู ในทางวิทยาศาสตร์ด้านธรณีวิทยาเรียกว่า "ซันแครก" (Sun Crack) ที่เกิดจากการแตกผิวหน้าของหิน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้หินเกิดการขยายตัวและหดตัวสลับไปมา จนแตกเป็นลายเหลี่ยม ต่อมามีการผุผังและกัดเซาะโดยน้ำและอากาศในแนวดิ่ง ทำให้เกิดลักษณะเป็นชั้นๆ และด้วยลวดลายที่โดดเด่นคล้ายกับพญานาคนี้จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่าและความเชื่อที่ส่งต่อกันมาของถ้ำนาคา
...
ตามความเชื่อแต่โบราณมีตำนานเล่าว่า “เจ้าปู่อือลือราชา” เป็นราชาผู้ถูกสาปให้เป็นพญานาคเฝ้าถ้ำแห่งนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เพราะเป็นต้นเหตุของรักไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง องค์อือลือจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อบังเกิดเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดใหม่คือบึงกาฬ
ทั้งนี้ตำนานและความเชื่อที่เป็นเรื่องเล่าของถ้ำนาคามีทั้งหมด 7 เรื่องด้วยกัน คือ ตำนานพญานาคที่ถูกสาปเป็นหิน, "เมืองหลวงของชาวบังบด" หรือเมืองลับแล, ตำนานดินแดนแห่งเมืองพญานาคราช หรือเมืองบาดาล, ตำนานดินแดนประสูติของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์, ตำนานดินแดนสนามรบกิเลส หรือพระธุดงค์กรรมฐาน, ตำนานดินแดนอาถรรพณ์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และ "ดินแดนสมุนไพร" ตำนานรามเกียรติ์ ตอนพระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์
2. การเดินทางไปถ้ำนาคา
ด้วยกระแสความนิยมของถ้ำนาคาจึงทำให้ต้องการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 350 คนต่อวัน ดังนั้นก่อนเดินทางจึงต้องมีการลงทะเบียนเพื่อจองคิวผ่านแอปพลิเคชันคิวคิว ล่วงหน้าไม่เกิน 15 วัน ส่วนการเดินทางสามารถทำได้ 3 วิธี คือ
- นั่งเครื่องบินไปลงที่จังหวัดอุดรฯ หรือจังหวัดนครพนม แล้วเช่ารถไปจังหวัดบึงกาฬ
- นั่งรถทัวร์ลงจังหวัดบึงกาฬ จากนั้นก็เช่ารถเพื่อขับไปอุทยานแห่งชาติภูลังกา
- ขับรถยนต์ส่วนตัวไปเอง
ไม่ว่าจะขึ้นเครื่องบินหรือมาด้วยรถทัวร์ก็ต้องทำการเช่ารถเพื่อเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติภูลังกา ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครพนม และจังหวัดบึงกาฬ โดยถ้ำนาคา อยู่ที่ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ แนะนำว่าควรปักหมุดมาที่ "น้ำตกตาดวิมานทิพย์" ได้เลย โดยแต่ละกลุ่มจะมีการเปิดให้ขึ้นห่างกัน 30 นาที ตามมาตรการเว้นระยะห่าง
...
ส่วนการเดินทางขึ้นไปยังถ้ำนาคานั้น จะขึ้นได้ทางเดียวคือ บริเวณ "สำนักสงฆ์ฐิติสาราราม" (วัดตาดวิมานทิพย์) เส้นทางน้ำตกตาดวิมานทิพย์ จุดนี้ระหว่างทางจะพบประตูเต่า หินหัวเรือ หัวนาคาหัวที่ 3 และเมื่อขึ้นถึงบนเขาจะมีทางไปพบหัวนาคาหัวที่ 1 ซึ่งเส้นทางเดินนั้น จะเป็นทางเดินป่าขึ้นเขา 2 กิโลเมตร เป็นทางดินสลับกับบันได และมีบางช่วงจะต้องดึงเชือก เส้นทางเดินป่าชัดเจนมีป้ายบอกทาง และมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ เพื่อแนะนำและรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ซึ่งการเที่ยวชมถ้ำนาคาจะใช้เวลาเดินไปกลับทั้งหมดประมาณ 4-5 ชั่วโมง จึงควรเดินขึ้นในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 7.00-12.00 น. เพื่อให้มีเวลาเที่ยวชมได้หลายจุด ซึ่งทางอุทยานฯ กำหนดให้ลงจากเขาถึงพื้นล่าง ก่อนเวลา 17.00 น. โดยไม่อนุญาตให้ทำการค้างคืน หรือกางเต็นท์บริเวณถ้ำนาคาโดยเด็ดขาด
...
3. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นถ้ำนาคา
เมื่อวางแผนการเดินทางเรียบร้อย ข้อควรรู้ที่สำคัญก่อนขึ้นถ้ำนาคาก็คือการเตรียมตัว เตรียมใจและร่างกายให้พร้อม เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินที่มีความลาดชัน และระยะทางค่อนข้างไกล โดยมีข้อแนะนำดังนี้
- แต่งกายด้วยชุดที่ทะมัดทะแมงและควรสวมรองเท้าผ้าใบเพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินป่า
- เตรียมน้ำดื่มยาดม หรือของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าให้พร้อม
- ห้ามนำห้ามนำกระดาษทิชชู หลอดดูดน้ำ ถุงพลาสติก กล่องโฟม ดอกไม้ธูปเทียนเครื่องเซ่นไหว้ ขึ้นเขาโดยเด็ดขาด
- ผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรง โดยเฉพาะผู้ป่วยความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคไขข้อ ไม่แนะนำให้ขึ้น
- หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ไม่ควรขึ้น
...
4. ค่าธรรมเนียมในการเที่ยวชมถ้ำนาคา
- ผู้ใหญ่ 30 บาทต่อคน (ค่าธรรมเนียม 20 บาท และค่าประกันชีวิต 10 บาท)
- เด็ก 20 บาทต่อคน (ค่าธรรมเนียม 10 บาท และค่าประกันชีวิต 10 บาท)
- ค่ามัดจำขยะ 100 บาท/กลุ่ม
5. ข้อปฏิบัติในการเข้าชมถ้ำนาคา
นอกจากข้อควรรู้ทั้งหมดข้างต้นแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้มีข้อกำหนดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดทั้งหมด 16 ข้อดังต่อไปนี้
- ห้ามสัมผัสหรือแตะต้องประติมากรรมในถ้ำ เช่น หินงอก หินย้อย เสาหิน ฯลฯ
- ห้ามตี เคาะ ทำลายหินในถ้ำ
- ห้ามสูบบุหรี่ ก่อกองไฟ จุดธูปเทียน หรือกิจกรรมใดๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพอากาศภายในถ้ำ
- ห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทานในถ้ำรวมทั้งทิ้งเศษขยะมูลฝอยใดๆ
- ห้ามทำเสียงดังหรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการรบกวนหรือก่อความรำคาญให้แก่สัตว์ รวมทั้งห้ามยิงปืน จุดประทัด และวัตถุระเบิด
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์พาหนะเข้าไปในถ้ำ
- ห้ามขีดเขียน ขูดลบ ขีดฆ่า ทาหรือพ่นสี หรือปิดประกาศ
- ห้ามถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะในถ้ำ
- ห้ามเก็บหรือนำสิ่งใดๆ ออกจากถ้ำ อาทิ หิน ผนึกแร่ ซากดึกดำบรรพ์ โบราณวัตถุ หรือสิ่งมีชีวิตภายในถ้ำ
- ห้ามกระทำการใดๆ อันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางน้ำ หรือสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ ที่จะทำให้น้ำท่วมล้น หรือเหือดแห้ง เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่
- ห้ามตั้งแคมป์พักแรมภายในถ้ำ
- ห้ามเดินออกนอกเส้นทางที่กำหนด
- ไม่แตะต้อง และ/หรือ ทำลายระบบไฟฟ้าในถ้ำ
- ไม่รบกวนแหล่งโบราณคดี หรือซากดึกดำบรรพ์ที่พบในถ้ำ
- ไม่ก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สะพาน ทางเดิน บันได เว้นแต่การก่อสร้างเพื่ออำนวยความสะดวก/ปลอดภัยเท่าที่จำเป็น และให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติในถ้ำ
- ให้มีผู้นำเที่ยวท้องถิ่นที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐาน Local Cave Guide และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อหลักที่นักท่องเที่ยวสายมูเตลูควรรู้และเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวถ้ำนาคา เมื่อจดลิสต์ไว้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมวางแผนเดินทางไปขอพรกันได้เลย