ถ้ำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามลึกลับ ถ้ำบางแห่งเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่งดงาม บรรยากาศที่ดูวังเวงของถ้ำบางแห่งในประเทศไทยสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ที่ได้เข้าไปสัมผัสอย่างมาก ความมืดและบรรยากาศอันสงบเงียบและวังเวงท้าทายความกล้าของนักท่องเที่ยวหรือนักสำรวจ โดยมีความงดงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างสรรค์ไว้ในถ้ำเป็นรางวัล การเที่ยวหรือสำรวจถ้ำเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดรูปลักษณ์ต่างๆ ขึ้นในถ้ำ ถ้ำบางแห่งมีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ให้ศึกษาค้นคว้าความเป็นมาบรรพบุรุษของมนุษย์ แต่ภายใต้ความงดงามน่าค้นหาของถ้ำโบราณก็ยังมีอันตรายแอบแฝงอยู่
...
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการเที่ยวหรือสำรวจถ้ำ
อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำกว่าปกติ
ความเย็นในถ้ำถือว่าเป็นอันตรายรองลงมา ตามปกติน้ำในถ้ำจะมีความเย็นมากกว่าน้ำที่อยู่ภายนอกถ้ำ ถ้ำบางที่ในฤดูร้อนมีอุณหภูมิน้ำประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส บางช่วงมีลมแรงมาก การแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานทำให้เสี่ยงต่ออาการไฮโปเทอร์เมีย (Hypothermia) หรืออาการของคนที่อุณหภูมิในร่างกายต่ำเกินไปคือ ตัวสั่น เดินช้า ปล่อยของหลุดจากมือ กล้ามเนื้อไม่ค่อยเคลื่อนไหว พูดไม่สะดวก มองเห็นไม่ชัดเจน จิตใจเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย ถ้าอุณหภูมิในร่างกายลดลง 5-6 องศาฯ จะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้ ดังนั้นการเตรียมชุดเสื้อผ้าและอุปกรณ์จึงมีความจำเป็นต้องเป็นชุดที่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายได้ในระดับหนึ่ง
น้ำท่วมอย่างฉับพลัน
ถ้ำบางถ้ำที่มีพื้นที่ลุ่มน้ำขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำมาก และมีลำธารไหลลอดมักพบปัญหาน้ำท่วมถ้ำในฤดูฝน การสำรวจถ้ำประเภทนี้จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการสำรวจในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะจะเกิดอันตรายจากน้ำป่า และน้ำท่วมถ้ำ เราจะทราบได้อย่างไรว่ามีน้ำท่วมถ้ำ การสำรวจจะอาศัยการสังเกตตามผนังถ้ำหรือเพดานถ้ำ หากมีโคลนเคลือบอยู่หรือมีเศษไม้ติดอยู่ แสดงว่าในฤดูฝนช่วงที่มีฝนตกน้ำในลำห้วยมีโอกาสท่วมจนเต็มถ้ำได้
การหลงทางภายในถ้ำ
การสำรวจถ้ำที่มีความยากและซับซ้อนโถงถ้ำมีขนาดใหญ่และมีกองหินถล่ม มีโอกาสเกิดการหลงทางได้ง่าย ดังนั้นต้องมีการทำเครื่องหมายนำทาง เช่นการทิ้งสัมภาระไว้บริเวณทางแยกก่อนเข้าไปสำรวจเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงว่าจะกลับมาอีกครั้งหากมีการหลงทาง นักสำรวจร่วมคณะสามารถตามเข้าไปช่วยเหลือได้ หรือใช้วิธีการทำเทปนำทางวางไว้เป็นแนวเดินสำหรับเดินกลับออกมา
...
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าปกติ
บริเวณที่มีคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าปกติเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับการสำรวจถ้ำ บางพื้นที่จะเรียกว่า “ถ้ำสุญญากาศ” คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในบางบริเวณของถ้ำที่มีสัดส่วนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศสูงกว่าปกติ ส่วนใหญ่จะส่งผลให้ก๊าซออกซิเจนในอากาศลดลงด้วย เมื่อจุดไฟแช็คจะไม่ติดไฟเพราะออกซิเจนในอากาศไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการเผาไหม้
...
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นได้อย่างไร
ถ้ำในประเทศไทยส่วนใหญ่จะพบปัจจัยของการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในถ้ำ 5 ปัจจัยได้แก่
1. การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงและวัสดุที่ติดไฟ เช่น เทียน ตะเกียง คบไฟ
2. การย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมในถ้ำโดยแบคทีเรีย
3. การหายใจของสิ่งมีชีวิต เช่น คน หรือสัตว์ที่อยู่ในถ้ำ
4. การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากดินและหิน
5. การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากน้ำในถ้ำในกระบวนการตกตะกอนของแคลเซียมคาร์บอเนต
...
อุปกรณ์สำรวจมีปัญหา
ไฟฉายดับ ไม่มีหลอดไฟสำรอง หรือถ่านไฟฉายหมด
การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมและเพียงพอสำหรับการสำรวจ โดยการกำหนดเวลา ชั่วโมงทำงานที่จะอยู่ในถ้ำ พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ เช่น ไฟฉายสำรองอีก 2 ชุด และแบตเตอรี่สำรอง ดวงเทียนไฟฉายไว้อีกเท่าหนึ่งเสมอ หากเกิดกรณีต้องใช้เวลาในการเดินทางกลับมากกว่าปกติหรือหลงทาง
อันตรายจากอุบัติเหตุ
เช่น การพลัดตกจากที่สูง การลื่นล้มแขน ขาหัก หินร่วงลงมาจากเพดานถ้ำ และหินถล่ม ฯลฯ อันตรายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในถ้ำ เป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับการนำคนเจ็บออกมา แต่สามารถลดให้เกิดอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดได้โดยการสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกนิรภัย ถุงมือ สนับเข่า สนับแข้ง รองเท้าบูตที่แข็งแรง สามารถลดอาการบาดเจ็บได้ในระดับหนึ่ง
บทความเรื่อง อันตรายที่พบได้ในถ้ำ โดย อนุกูล สอนเอก http://exploreroneteam.blogspot.com/2011/05/blog-post_2654.html