เปิดอุตสาหกรรมและกลยุทธ์ “Smart Life Solution” ที่ยกระดับขับเคลื่อนด้วย AI ตามวิสัยทัศน์ Life’s Good จากบริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG Electronics Inc.) ที่น่าจับตามองในปี 2567

  • การบริการ “โรงงานอัจฉริยะ AI”
  • แพลตฟอร์มสื่อและความบันเทิงบน “webOS”
  • “webOS” และ “AlphaWare” สำหรับยานยนต์

บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG Electronics Inc.) หลังประกาศวิสัยทัศน์ในเดือนกรกฎาคม 2566 เรื่องของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในปี 2567 จากฐานะผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับโลก เข้าสู่การเป็น "บริษัทโซลูชันเพื่อชีวิตสมาร์ท (Smart Life Solution Company)"

บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG Electronics Inc.) ประเทศเกาหลีใต้
บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG Electronics Inc.) ประเทศเกาหลีใต้

...

โดยทางบริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์เตรียมพัฒนาและมุ่งเน้นธุรกิจการบริการให้เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาโซลูชัน เพื่อให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ทุกคนตามพันธกิจ Life’s Good ที่สามารถเชื่อมต่อและขยายประสบการณ์อันหลากหลายของลูกค้า

พร้อมกับผลักดันรายได้ทั่วโลกให้ถึง 100 ล้านล้านวอน ภายในปี 2573 ด้วยการเปลี่ยนแปลงและก้าวกระโดดสู่การเป็นบริษัทโซลูชันเพื่อชีวิตสมาร์ท ที่เชื่อมต่อและขยายพื้นที่และประสบการณ์ต่างๆ ของลูกค้า ควบคู่ไปกับตำแหน่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ดีที่สุดที่นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมาย Triple Seven ซึ่งครอบคลุมถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยและกำไรจากการดำเนินงานที่ 7% หรือมากกว่า รวมถึงมีอัตราส่วนมูลค่ากิจการต่อ EBITDA อยู่ที่ 7 ด้วยเป้าหมายในการเพิ่มยอดขายจาก 65 ล้านล้านวอนในปีที่แล้วสู่ 100 ล้านล้านวอนภายในปี 2573

บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG Electronics Inc.) ประเทศเกาหลีใต้
บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG Electronics Inc.) ประเทศเกาหลีใต้

แอลจีมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านสู่โมเดลธุรกิจบริการที่ใช้แพลตฟอร์มเป็นฐาน พร้อมทั้งการพัฒนาในด้าน B2B ด้วยการจัดหาเครื่องจักรแห่งการเติบโตใหม่บนพื้นฐานของความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยทั้ง 3 ด้านนี้จะเน้นที่ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสำคัญ และภายในปี 2573 คาดการณ์ว่าจะช่วยดันในแง่ของยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50% บริษัทวางแผนที่จะลงทุนเป็นมูลค่ามากกว่า 50 ล้านล้านวอนภายในปี 2573 เพื่อสร้างการเติบโตเชิงคุณภาพให้แก่ธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่นำโดยเครื่องจักรแห่งการเติบโตใหม่ทั้งสามด้าน ซึ่งรวมถึงการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) มากกว่า 25 ล้านล้านวอน การลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า 17 ล้านล้านวอน และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ 7 ล้านล้านวอน Smart Life Solution ที่น่าจับตามองจาก LG ในอุตสาหกรรมต่างๆ ประกอบไปด้วย

การบริการ “โรงงานอัจฉริยะ AI”

บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดโรงงานอัจฉริยะระดับโลก โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการสร้างและดำเนินการโรงงานอัตโนมัติอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจแบบ B2B อันหลากหลายของบริษัทให้มากยิ่งขึ้น

...

ช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา แอลจีได้จัดตั้งส่วนธุรกิจโรงงานอัจฉริยะภายในสถาบันวิจัยวิศวกรรมการผลิต (PRI) และได้เริ่มต้นการทำเทคโนโลยีการสร้างโรงงานอัจฉริยะและโซลูชันการดำเนินงานในเชิงพาณิชย์

ธุรกิจโรงงานอัจฉริยะของแอลจีไม่เพียงแต่นำเสนอโซลูชันการผลิตอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการวางแผนการผลิต การดำเนินงาน และโซลูชัน Digital Twin ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตของลูกค้า ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดในทุกขั้นตอน

  • ศูนย์เร่งความเร็วในเรื่องโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory Acceleration Center)

กลุ่มธุรกิจนี้ได้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่สำคัญ คือ ได้รับคำสั่งซื้อโซลูชันสำหรับโรงงานอัจฉริยะจากลูกค้าภายนอกในประเทศเกาหลีใต้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านวอน โดยโรงงานอัจฉริยะจากบริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์จะมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เช่น หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ และระบบตรวจสอบด้วยภาพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI

...

  • เทคโนโลยีหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR)

หุ่นยนต์ระบบปฏิบัติการ AI ที่ได้รับการติดตั้งกล้อง เรดาร์ และเซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อจดจำสภาพแวดล้อม ชิ้นส่วน และวัสดุต่างๆ ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงคนงานและสิ่งกีดขวาง ผ่านการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี Mobile Manipulator (MM) ซึ่งผนวกแขนหุ่นยนต์หลายข้อต่อเข้ากับ AMR ให้สามารถทำงานอย่างอัตโนมัติหลากหลายรูปแบบอย่างราบรื่น เช่น การประกอบ การตรวจสอบข้อบกพร่อง และการขนส่งชิ้นส่วนและวัสดุต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ของหุ่น AMR ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อยได้อีกด้วย

โดยนวัตกรรมนี้จะเข้ามาขับเคลื่อนโรงงานแบบในยุคดิจิทัลได้อย่างน่าสนใจ ลดความผิดพลาด สร้างประสิทธิภาพ และจำนวนการผลิตที่มากขึ้น และตอบโจทย์การเข้ามาของยุคแห่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้ในอนาคต

  • ระบบตรวจจับแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Vision AI

ระบบตรวจจับนี้สามารถเรียนรู้ถึงสภาวะการทำงานที่ปกติและไม่ปกติของโรงงาน และตรวจจับเมื่อเกิดความผิดปกติ เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ข้อบกพร่องของการผลิต เช็กเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านข้อมูล ภาพ และกล้อง Check PR(AI) Cam, เสียง PR(AI) Sound

...

นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรื่องความปลอดภัยในโรงงานของมนุษย์ ด้วยการระบุถึงคนงานที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัยหรือเสื้อกั๊กนิรภัยอย่างเหมาะสมได้อีกด้วย

กลุ่มธุรกิจในโรงงานอัจฉริยะ เป็นหนึ่งในธุรกิจจากทางบริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจด้าน B2B ด้วยการจัดหาเครื่องจักรแห่งการเติบโตใหม่บนพื้นฐานของความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยให้บริการตั้งแต่การวางแผน ออกแบบโรงงาน ไปจนถึงการก่อสร้างการดำเนินงาน และพร้อมทั้งให้บริการด้านการให้คำปรึกษาเพื่อการปรับปรุงและอัพเกรดโรงงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยข้อได้เปรียบในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอันยาวนานถึง 66 ปีของบริษัท

โดยกลุ่มธุรกิจนี้ได้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่สำคัญ ด้วยการได้รับคำสั่งซื้อโซลูชันสำหรับโรงงานอัจฉริยะจากลูกค้าภายนอกคิดเป็นมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านวอนแล้ว ซึ่งงบในการจัดตั้งธุรกิจโรงงานอัจฉริยะ ขึ้นอยู่กับสเกลของธุรกิจนั้นๆ โดยมีมูลค่าที่ 10 ถึง 100 ล้านวอนโดยประมาณ

แพลตฟอร์มสื่อและความบันเทิงบน “webOS”

สมาร์ททีวีของแอลจีในปี 2557 ทำให้ webOS ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มของสมาร์ททีวีที่ได้รับความนิยม ในการทำงานที่ขับเคลื่อนทีวีมากกว่า 200 ล้านเครื่องทั่วโลก webOS ยังรองรับแบรนด์ทีวีอื่นๆ หลายรายในหลากหลายตลาด

อนาคตแอลจียังมีแผนที่จะขยาย webOS ไปยังบริษัทผู้ผลิตทีวีรายอื่นๆ เพิ่มเติม และขยายแพลตฟอร์มไปสู่หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยคาดการณ์ว่าจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ webOS มากกว่า 300 ล้านเครื่อง เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายที่ไม่เหมือนใครให้แก่ฐานลูกค้าในวงกว้างด้วยการนำแพลตฟอร์ม webOS ไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น โปรเจกเตอร์ ป้ายดิจิทัล รวมถึงระบบสาระบันเทิงในยานยนต์

ทำให้ webOS Hub ได้รับการอัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการนำเสนอเนื้อหาที่มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น รวมถึงบริการเกมคลาวด์และบริการ OTT อีกทั้งมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การใช้งานโดยรวม นอกจากนี้ แบรนด์ทีวีพันธมิตรบางรายของแอลจีได้เปิดตัวทีวี OLED ของตนเองที่ขับเคลื่อนด้วย webOS Hub แล้ว

แพลตฟอร์มสมาร์ททีวี webOS มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอการอัปเกรดแบบไร้รอยต่อที่เพิ่มการรองรับบริการใหม่ๆ และปรับปรุงส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (UI) และการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

แอลจีจึงมีแผนที่จะลงทุนครั้งสำคัญ คิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านวอนเกาหลีในธุรกิจ webOS ในช่วงห้าปีข้างหน้า เพื่อนำเสนอเนื้อหาและบริการที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตและความชื่นชอบที่แตกต่างกันของผู้บริโภค ด้วยการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านเนื้อหาและบริการ ด้วยการยกระดับ webOS ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสู่แพลตฟอร์มสำหรับนักเล่นเกม แฟนกีฬา หรือผู้ใช้งานเจนเนอเรชัน Z ผ่านวิสัยทัศน์ที่ว่า "Sync to You, Open to All" ที่มอบประสบการณ์ด้าน AI เป็นสำคัญที่สามารถปรับแต่งเฉพาะบุคคล ซึ่งตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ ความชื่นชอบ และรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ใช้งานในแต่ละราย เช่น การจดจำการตั้งค่าของแต่ละยูเซอร์ที่มีความเป็นส่วนตัว, มีคอนเทนต์หลากหลายตัวความสนใจ รวมถึงระบบแชทบอท แจ้งปัญหาของระบบทีวี และตั้งค่าได้ทันที รวมถึงยังซัพพอร์ตภาษาถึง 23 ภาษา รวมประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่น่าสนใจประกอบด้วย

  • การผสานรวมเทคโนโลยีเฉพาะของ Prime Video ซึ่งมอบเทคโนโลยีที่มีความหน่วงต่ำ เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าที่เป็นแฟนการถ่ายทอดสดกีฬาอย่างรายการ Thursday Night Football
  • รองรับการสตรีมมิ่งคอนเทนต์จาก Netflix ในระดับ HDR และเวอร์ชันทดลองสำหรับ Netflix Games บนทีวี และด้วยการเปิด
  • หน้าจอไลฟ์สไตล์สำหรับ Gen Z บน YouTube เพื่อทำให้ Native Touch UX พร้อมใช้งานสำหรับแอปพลิเคชันบนทีวีรุ่นต่างๆ
  • การค้นหาและการแนะนำที่ใช้ AI เป็นพื้นฐาน ด้วยฟีเจอร์ติดต่อผู้ใช้ด้วยเสียง (Voice User Interface หรือ VUI) เข้ากับแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งาน webOS สามารถควบคุมและใช้งานบริการเนื้อหาของบริษัทภายนอกได้อย่างง่ายดายและช่วยให้การค้นพบเนื้อหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น
  • การใช้งานบริการจะได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกับ LG Channels 3.0 ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งฟรีระดับพรีเมียมของแอลจี โดดเด่นด้วยตัวเลือกทีวีซีรีส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (UI) ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตัวเลือกเนื้อหาได้มากขึ้นบนหน้าจอ ครอบคลุมทั้งช่องรายการสดและภาพยนตร์ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการเลื่อนดูหน้าจอ และด้วย UI ใหม่นี้ ผู้ใช้สามารถสำรวจรายการที่กำลังออกอากาศบนช่องอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องหยุดหรือออกจากรายการที่กำลังรับชมอยู่

LG Channels นี้ให้บริการใน 27 ประเทศทั่วโลก มีช่องรายการมากกว่า 3,000 ช่องในปัจจุบัน และมีผู้สมัครใช้บริการมากกว่า 50 ล้านราย

ปี 2565 มีการใช้งาน LG Channels ในอุปกรณ์ที่ไม่ซ้ำกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 ในขณะที่เวลาการรับชมเพิ่มขึ้นร้อยละ 57 และความถี่ในการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้บริการนี้กลายเป็นหนึ่งในห้าแอปพลิเคชันที่มีการเข้าถึงมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม webOS

แอลจีกำลังลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาขีดความสามารถของแพลตฟอร์มสมาร์ททีวี โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศเกาหลีใต้เพื่อบ่มเพาะบุคลากรด้านซอฟต์แวร์รุ่นถัดไป และเสริมสร้างความพยายามในการสรรหาผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ระดับแนวหน้าจากทั่วโลก แอลจีกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยแนวทางที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้าอย่างแท้จริง

“webOS” และ “AlphaWare” สำหรับยานยนต์

ปัจจุบันการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคยานยนต์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicle-SDV) เป็นแนวโน้มสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ อันเนื่องมาจากวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นำไปสู่การปรับโครงสร้างซอฟต์แวร์ยานยนต์อย่างสิ้นเชิง

การกำกับดูแลซอฟต์แวร์จึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์สามารถรักษาขีดความสามารถในอุตสาหกรรมการเคลื่อนที่ (mobility industry)

ทำให้อุตสาหกรรมนี้จะต้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ มุ่งเน้นการร่วมมือแบบไร้ขีดจำกัด แทนที่จะเป็นการแข่งขันที่ไม่มีที่สิ้นสุด อนาคตของโซลูชันระบบสาระบันเทิงในยานยนต์ขึ้นอยู่กับความสามารถของบริษัทในการมอบประสบการณ์การใช้งานภายในยานพาหนะที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้ การบรรลุเป้าหมายนี้ต้องอาศัยความเข้าใจผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น สภาวะทางอารมณ์และร่างกาย นิสัย และความชอบส่วนตัว การตรวจจับและแปลความหมายปัจจัยภายนอก ทั้งในแง่บริบทและเทคนิค เช่น สถานะการทำงานของยานพาหนะ สภาพถนน สภาพแวดล้อมโดยรอบ การพัฒนาและบำรุงรักษายานพาหนะด้วยซอฟต์แวร์และข้อมูล

นอกจากนี้ การนำซอฟต์แวร์และข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาและบำรุงรักษายานพาหนะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถส่งมอบการอัปเดตซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพฟีเจอร์ต่างๆ ทั้งหมดนี้ทำได้ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารยานพาหนะขั้นสูง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน

การใช้ประโยชน์เชิงรุกจากความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และไอที และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า สำหรับแนวทางเชิงกลยุทธ์ มีเป้าหมายในการสร้างโซลูชันแบบบูรณาการ โดยมีรากฐานจากระบบสาระบันเทิงภายในยานพาหนะ (IVI) ระบบเทเลเมติกส์ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เนื้อหาและบริการซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยการเคลื่อนที่

แอลจีมุ่งเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญใน 4 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย โซลูชันด้านซอฟต์แวร์ โซลูชันด้านฮาร์ดแวร์ บริการด้านวิศวกรรม และบริการคลาวด์ ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่ไว้วางใจได้ พร้อมโซลูชันด้านการเคลื่อนที่แบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคยานยนต์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (SDV)

AlphaWare สร้างสรรค์วิสัยทัศน์ "พื้นที่อาศัยบนยานยนต์" ให้เป็นจริง

แอลจีกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ SDV ด้วย LG AlphaWare อันล้ำสมัย AlphaWare เป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ก้าวล้ำ เป็นนวัตกรรมที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ภายในห้องโดยสารที่ทันสมัย

เป้าหมายของ LG AlphaWare คือ ยานยนต์ในอนาคต และยกระดับความคาดหวังต่อวงการยานยนต์ โดยแอลจีได้เปิดตัวซอฟต์แวร์โซลูชันในงาน AutoTech : Detroit และได้แบ่งปันมุมมองและแนวทางในการปฏิวัติโมเดลธุรกิจ SDV ด้วยแนวโน้มของยานพาหนะที่กำลังกลายเป็นส่วนขยายของพื้นที่ส่วนตัวของผู้คน

โดยมอบการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อสำหรับการทำงานและการพักผ่อน รถยนต์จึงกำลังเปลี่ยนแปลงไปเป็นมากกว่าแค่พาหนะในการเดินทาง LG AlphaWare จะมีบทบาทสำคัญในการทำให้ยานยนต์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (SDV) กลายเป็น “พื้นที่อาศัยบนล้อ” โดยสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกับที่ได้รับจากการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในบ้าน

ชุดซอฟต์แวร์ LG AlphaWare ประกอบด้วยโซลูชันหลัก 5 ประการ ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับประสบการณ์ภายในยานพาหนะ ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการเคลื่อนที่สามารถเอาชนะความท้าทายทางเทคนิค และมอบความสะดวกสบายและการเชื่อมต่อแบบเดียวกับที่บ้านให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีนี้ แอลจีกำลังผลักดันให้ยานพาหนะกลายเป็นพื้นที่อาศัยที่เคลื่อนที่ได้ ซึ่งมอบทั้งความสะดวกสบายของบ้านและความคล่องตัวของการเดินทาง ประกอบด้วย

  • PlayWare - เป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงที่ยกระดับประสบการณ์สาระบันเทิงภายในยานพาหนะ โดยนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูง และมอบคุณภาพเสียงที่เหนือชั้น คุณสมบัติเด่นของ PlayWare คือการใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของแอลจีกับแอปสตรีมมิ่ง ช่องกีฬา และข่าวชั้นนำ พร้อมนำประสบการณ์ LG TV มาสู่รถยนต์ ใช้ทรัพยากรหน่วยความจำน้อย แต่ทำงานได้รวดเร็ว และราบรื่น แสดงเนื้อหาในความละเอียด 4K อันน่าทึ่ง และใช้เทคโนโลยี AI Audio ที่ดัดแปลงมาจาก LG TV เพื่อยกระดับเนื้อหาเสียงให้เป็นเสียงรอบทิศทางที่สมจริง MetaWare – ยกระดับประสบการณ์การขับขี่โดยใช้เทคโนโลยี AR และ MR เพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านจอแสดงผลต่างๆ เช่น AR HUD (จอแสดงผลบนกระจกหน้า) หน้าปัดรวม และแผงควบคุมกลาง
  • MetaWare - รองรับการสร้างสภาพแวดล้อม 3D ที่สมจริงแบบอัตโนมัติ แปลงแผนที่ 2D มาตรฐานให้เป็นภาพ 3D ที่น่าตื่นตาตื่นใจ MetaWare มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ขับขี่รับรู้และโต้ตอบกับข้อมูลระหว่างการเดินทาง โดยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
  • VisionWare – แพลตฟอร์ม AI และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านระบบตรวจสอบขั้นสูง โดยใช้อัลกอริทึม AI กรอบการทำงานของซอฟต์แวร์ หน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีกล้อง VisionWare มีระบบตรวจสอบผู้ขับขี่เพื่อป้องกันการเสียสมาธิ และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะขับรถ ระบบตรวจสอบภายในที่วิเคราะห์สถานะของผู้โดยสารทั้งหมด โดยตรวจจับการใช้เข็มขัดนิรภัย ท่าทางมือ รูปแบบพฤติกรรม การมีเด็กอยู่ในรถ เพื่อส่งมอบประสบการณ์สู่คนรุ่นใหม่
  • BaseWare – กระดูกสันหลังของยานพาหนะ นำเสนอชุดโมดูลซอฟต์แวร์ที่หลากหลายและครอบคลุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบปฏิบัติการยานพาหนะที่มีอยู่ของผู้ผลิตรถยนต์ (OEM) และช่วยในการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับวงจรชีวิตที่สำคัญของรถยนต์ Baseware ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการแบบเรียลไทม์ที่เชื่อถือได้ ลดความซับซ้อนของการพัฒนาและการทำงานของบริการต่างๆ และมี Mixed Critical Orchestrator ที่รองรับการจัดการทั้งบนอุปกรณ์และบนคลาวด์ โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด
  • OpsWare – แพลตฟอร์มปฏิบัติการกลาง ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ OpsWare ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมทั่วโลกตลอดกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการติดตั้ง โดยให้ความสำคัญกับการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง ให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุมสำหรับการบำรุงรักษาในระยะยาว และบริการ Cybersecurity-as-a-Service ของ LG ที่ให้การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเข้มข้น นอกจากนี้ยังสนับสนุน OEM ในการรักษาความปลอดภัยระดับสูงและปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการวงจรชีวิตของซอฟต์แวร์

webOS แพลตฟอร์มเนื้อหาสำหรับยานยนต์ (ACP)

webOS เป็นพื้นฐานของแอลจีที่นำประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านมาสู่ห้องโดยสาร สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านการเคลื่อนที่ในอนาคตของแอลจีที่ต้องการเปลี่ยนรถยนต์ให้เป็น "พื้นที่อาศัยบนล้อ"

webOS นี้ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในยานพาหนะ ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลายและดื่มด่ำกับเนื้อหาที่ชื่นชอบได้เหมือนกับอยู่ที่บ้าน โดยการนำเทคโนโลยีความบันเทิงภายในบ้านมาสู่ยานพาหนะ ทำให้การเดินทางกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความเพลิดเพลินและผ่อนคลาย

ในเดือนพฤษภาคม 2567 แอลจีได้ประกาศว่าจะนำแพลตฟอร์มเนื้อหาสำหรับยานยนต์ (ACP) ที่ใช้ webOS อันทันสมัยมาใช้กับรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของ Kia การผสานรวม ACP ของแอลจีเข้ากับ Kia EV3 ที่เพิ่งเปิดตัวถือเป็นครั้งแรกที่นำโซลูชันนวัตกรรมนี้มาทดลองใช้กับยานยนต์ไฟฟ้า

นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายการใช้งานเทคโนโลยีความบันเทิงของแอลจีในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า แพลตฟอร์มความบันเทิงสำหรับยานยนต์ของแอลจีเปิดตัวครั้งแรกในเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว โดยใช้กับรถยนต์รุ่น Hyundai Genesis GV80 และ GV80 Coupe การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มุ่งสู่การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและความบันเทิงเข้ากับประสบการณ์การขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต

ทั้งหมดนี้ทำให้การเดินทางไปทำงานและการเดินทางท่องเที่ยวมีความสนุกสนานและมีคุณค่ามากขึ้น โดยช่วยให้เจ้าของและผู้โดยสารของรถยนต์เข้าถึงแอปพลิเคชันจากผู้ให้บริการเนื้อหาระดับพรีเมียมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, YouTube, Baby Shark World for Kids, Stingray Karaoke, Play.Works, และ LG Channels ให้อยู่ในปลายนิ้วของผู้โดยสารแต่ละคนอย่างสะดวกสบาย

นอกจากธุรกิจที่น่าจับตาที่กล่าวมาข้างต้นของทางบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์แล้ว แอลจีเองก็ยังคงพัฒนาต่อในเรื่องของ AI ที่ตอบโจทย์ Life’s Good ต่อการเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ดีที่สุดด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงคงเดิม

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเพิ่มความสามารถ ความสะดวกสบายของเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย AI อย่างสร้างสรรค์ และสามารถปรับแต่งตามความชอบเพื่ออำนวยความสะดวกต่อไลฟ์สไตล์ผู้คน

รวมถึงไลน์อัพชิปเซ็ต AI บนอุปกรณ์เฉพาะทางเพื่อการประยุกต์ใช้งานในวงกว้าง และการเชื่อมต่อและความอเนกประสงค์บน LG ThinQ ON ที่ยังคงทำได้ดีอยู่แล้วมาอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นแนวทางใหม่ๆ จากทางบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ที่ฉีกกรอบของการ “เป็นมากกว่าคนขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่คือผู้สร้างเทคโนโลยี” ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดเป็นนวัตกรรมที่สอดคล้องไปกับยุคเทคโนโลยีอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามในอนาคต หากธุรกิจที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นไปตามเป้าหมาย การเดินเข้าสู่เส้นชัยของแอลจีต่อการเป็น “Smart Life Solution” เบอร์ต้นที่ตอบโจทย์ Life’s Good ให้กับผู้คนอย่างแท้จริง คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม