รีวิว Cyberpunk 2077: Phantom Liberty เกมสายลับที่มายกระดับความสนุกให้โลกไซเบอร์พังก์

ตำนานของ Cyberpunk 2077 เป็นมหากาพย์ที่น่าสนใจเรื่องหนี่งในวงการเกม มันเริ่มจากการที่ทีมพัฒนา CD Projekt RED เค้าขายฝันกับเกมเมอร์แบบจัดหนักจัดเต็ม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ามันจะมาเป็นเกมใหม่ที่จะมาพลิกโลก (อีกแล้ว) ผลสุดท้ายเกมกลับโดนด่าซะสนุกปากตอนที่มันวางขาย เนื่องจากบั๊กที่ก่อปัญหาทางเทคนิคให้เกมแบบนับไม่ถ้วน จนบางคนถึงกับซื้อมาแล้วเล่นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้เกม Cyberpunk ขึ้นชื่อดันกลายเป็นเรื่องที่มันโดนทุกคนรุมด่าจนจมดิน

หลังจากโดนถ่มถุยมานาน 2 ปี เกมดันกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แถมครั้งนี้ดันเป็นกระแสบวกอย่างล้นหลามจากแฟนอนิเมะ ต้องขอบคุณซีรีส์เรื่อง Cyberpunk: Edgerunners ที่สนุกแบบถึงพริกถึงขิงจนพลิกชื่อ Cyberpunk จากหลังเท้าเป็นหน้ามือ และหลังจากเวลาผ่านมาอีก 1 ปี ในที่สุดทีมพัฒนาเกมเขาก็ขอกลับมาแก้มืออีกครั้ง กับภาคเสริมของเกมที่มีชื่อว่า Phantom Liberty ภาคเสริมแบบเก็บตังค์ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเกมนี้ แต่การกลับมาครั้งนี้จะทำให้ตำนานของเกมนี้จบอย่างมีเกียรติ หรือดับอนาถอีกรอบกันแน่?

ยกเครื่องไซเบอร์เพื่อความสนุกของเกม RPG เต็มรูปแบบ

จุดที่ต้องขอยกนิ้วให้ทีมพัฒนา CD Projekt RED จริงๆ ก็คือการที่เขาปรับระบบเกมการเล่นในเกมใหม่หมดแบบแทบจะยกแผงนี่แหละ แถมเขายังจัดมาให้ในรูปแบบอัปเดตฟรี ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีแค่เกมภาคต้นฉบับหรือเพิ่งซื้อภาคเสริมตัวใหม่ ก็ได้รับสิทธิ์ลิ้มลองระบบเกม RPG แบบใหม่พร้อมกันถ้วนหน้า ซึ่งจุดเปลี่ยนที่เห็นชัดที่สุดก็คือการปรับวิธีอัปเลเวลและเพิ่มทักษะพิเศษของตัวละคร (Skill Tree) แบบใหม่ ทำให้ตอนนี้ทุกค่าสถานะของตัวละคร และทุกทักษะที่มีให้เลือกใช้จะมีประโยชน์กับการเล่นของคุณอย่างมีนัยสำคัญ ลืมทักษะก๊อกแก๊กที่กดมาแล้วเพิ่มความเก่งให้ 0.5% อะไรพวกนี้ไปได้เลย

ระบบการอัปเลเวลโฉมใหม่ยังช่วยให้เกมเมอร์สามารถจัดตัวละครที่รองรับกับสไตล์การเล่นของตัวเองได้ง่ายขึ้นด้วย อยากเป็นไซบอร์กสายบู๊อึดถึกทนเหรอ? จัดไป อยากเป็นซามูไรแฮกเกอร์ใช่ไหม? ย่อมได้ หรือจะเป็นนินจาไฮเทค ลอบเล้นเก็บศัตรูจากเงามืดก็เชิญเลย ส่วนค่าพลังป้องกันของตัวละครก็ได้รับการปรับให้ไม่ต้องไปขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าที่คุณเลือกใส่อีกต่อไป แต่มันจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ไซเบอร์ที่คุณเลือกฝังเข้าไปในร่างกายแทน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนที่เข้ากับธีมของโลกไซเบอร์พังก์ได้ดี และยิ่งคุณอัปเลเวลมาทางสายไซบอร์กมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเติมอวัยวะเหล็กเข้าไปในร่างได้มากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญกว่าคือมันทำให้ตัวละครของคุณไม่ต้องทนใส่แต่ชุดเฉิ่มๆ สีแจ๊ดๆ แต่ค่าพลังป้องกันสูง

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ว่ามาทำให้เกม Cyberpunk 2077 เวอร์ชัน 2023 กลายเป็นเกม RPG ในแบบที่มันควรจะเป็นซะที และเป็นเหตุผลชั้นเยี่ยมที่จะให้คุณกลับสู่โลกอาชญากรรมไซไฟกันอีกรอบ แถมการกลับมาครั้งนี้คุณยังจะได้พบกับภารกิจสุ่มแบบใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาอย่างงานแซ้งรถ งานปล้นเสบียงยุทโธปกรณ์จากแก๊งศัตรู รวมถึงระบบยิงต่อสู้ระหว่างซิ่งรถให้การใช้ชีวิตใน Night City มีสีสันขึ้นอีกด้วย

ปรบมือต้อนรับสายลับ Idris Elba ในเนื้อเรื่องไซเบอร์พังก์ 007

สำหรับโทนเรื่องของ Phantom Liberty จะเปลี่ยนจากเรื่องราวของการปล้นเพื่อเอาชีวิตรอดของ V และชาวแก๊ง มาเป็นแนวสายลับกับภารกิจหักเหลี่ยมโหด โดยมันเปิดเรื่องได้อย่างเร้าใจด้วยเหตุการณ์เครื่องบินของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกยิงร่วง ขณะเดียวกันก็มีแฮกเกอร์ลึกลับนามว่า Songbird ติดต่อเข้ามาให้ V รับภารกิจช่วยเหลือผู้นำสหรัฐฯ จากแดนเถื่อน Dogtown โดยเธอจะมอบหนทางช่วยชีวิตให้ V เป็นการตอบแทน ซึ่งยิ่งเล่นไป เกมเมอร์จะยิ่งได้ดำดิ่งไปในโลกของการสวมหน้ากาก การเฉือนคม รวมไปถึงการหักหลังในแวดวงสายลับ ไม่ต่างไปจากการนั่งดูหนัง 007 ที่มีฉากหลังเป็นโลกไซไฟอนาคต

ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจสายลับความยาว 10-20 ชั่วโมง คุณจะได้พบกับตัวละครใหม่มากหน้าหลายตา หนึ่งในนั้นก็คือตัวเอกอย่างสายลับ Solomon Reed ที่คุณ Idris Elba มารับบทนำแสดงให้อย่างมีมิติ มีความซับซ้อน และมีปมตัวละครที่น่าสนใจ ใครที่เคยดูของเฮียแกมาก่อนก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเฮียเป็นนักแสดงยอดฝีมืออยู่แล้ว และในครั้งนี้เขาก็สามารถส่งมอบบทสายลับสุขุม เยือกเย็น เจนโลกออกมาได้เป็นอย่างดี แถมเขายังโผล่มาบ่อยๆ ซะด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวละครของ Idris Elba แทบจะเป็นขั้วตรงข้ามจากบทบาทร็อคเกอร์ของเฮีย Keeanu Reeves ในภาคหลักเลย ดังนั้นอย่าไปหวังว่าเราจะได้เห็นการแสดงที่กระโชกโฮกฮากสุดโต่งแบบนาย Johnny Silverhand ละกัน

นอกจากตัวละครของเฮีย Idris Elba ตัวละครอื่นๆ ที่โผล่เข้ามาอีกหลายตัวต่างก็มีความน่าสนใจจนคุณจะอยากหาเข้าไปหาเรื่องคุยเรื่อยๆ โดยเฉพาะนางสปายสาว Songbird ที่จะคอยทำให้คุณเคลือบแคลงใจตลอดเวลาว่าเราควรเชื่อใจเธอหรือไม่ นายหน้าหางานอย่าง Mr. Hands ที่วางตัวเป็นไฮโซมารยาทดี ชอบใช้คำพูดสวยหรู แต่มีหลักศีลธรรมจรรยาที่เทาจนแทบดำ หรือแม้แต่เฮีย Keeanu ของเราเองก็มีบทบาทไม่น้อยในภาคนี้ ซึ่งบทที่เพิ่มเข้ามายังช่วยให้เราเข้าใจปูมหลังความหัวขบถสุดโต่งของแกมากขึ้นด้วย

นอกเหนือไปจากเนื้อเรื่องหลัก Phantom Liberty ยังเต็มไปด้วยเควสต์เนื้อเรื่องสั้นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก แต่ละเควสต์ย่อยก็จะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันไป และมันยังเล่าเรื่องราวอันน่าติดตามของโลกอาชญากรใน Cyberpunk ซึ่งจะทำให้คุณตั้งคำถามตลอดว่าอะไรคือผิดอะไรถือถูก เช่น คุณจะอยากช่วยผู้ก่อการร้ายกลับใจหรือไม่? คุณจะไว้ชีวิตคนที่ฆ่าคนเพราะอาการผิดปกติทางจิตหรือเปล่า? หรือคุณจะปิดศูนย์คัดนักกีฬาเด็กที่มอบโอกาสให้เยาวชนในสลัมโตสู่สถาบันระดับโลก แต่แลกกับการจับพวกเขามาผ่าต่อเติมอวัยวะเหล็กดีไหม? เป็นต้น เหล่านี้เป็นคำถามที่คุณจะต้องตอบและยอมรับผลที่ตามมาในเกมด้วยตัวเอง

โดยการตัดสินใจเลือกเดินตามทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมภาคนี้ด้วย เพราะตัวเลือกสำคัญที่คุณต้องตัดสินใจในภาคเสริมจะส่งผลกับเกมการเล่นในช่วงท้ายเกมของคุณเป็นอย่างมาก มันไม่ได้เป็นแค่ตัวเลือกหลอกๆ ที่จะทำให้คุณเห็นบทสนทนาที่ต่างออกไปนิดหน่อย แต่คุณจะได้เล่นในด่านช่วงสองสามชั่วโมงสุดท้ายของเกมที่ต่างกันแบบลิบลับ นำไปสู่จุดจบเรื่องราวที่น่าจดจำ แม้จะฟันธงไม่ได้ว่าแบบไหนคือแฮปปี้เอนดิ้ง แต่พูดได้เต็มปากว่าฉากจบทุกแบบใน Phatom Liberty นั้นเขียนบทออกมาเป็นอย่างดีและใส่ใจ ไม่ว่าจะเลือกจบแบบไหน คุณก็จะรู้สึกจุกอกจากการถูกทีมเขียนบทโรคจิตของเกมนี้ตุ๊ยท้องรัวๆ นอกจากนี้ ตัวเลือกบางอย่างยังจะพาคุณไปพบกับฉากจบเกมหลักแบบใหม่ถอดด้ามเลยด้วย และมันก็เป็นอีกหนึ่งฉากจบที่แฟนเกมนี้ทุกคนห้ามพลาด

นอกจากนี้ เกมเวอร์ชันพีซียังมีซับไทยมาให้ในส่วนของเนื้อเรื่องภาคเสริมทั้งหมดด้วย ใครภาษาอังกฤษไม่แข็งก็ยังสามารถติดตามเนื้อเรื่องทั้งหมดได้แน่นอน และซับไตเติลโดยรวมก็ถือว่าแปลออกมาได้ตามอารมณ์ของเรื่องดี ถึงจะไม่ได้แปลถูก 100% ตลอด แต่ก็ยังเก็บใจความสำคัญครบ ถือว่าผ่าน

Cyberpunk 2077 เวอร์ชันชุบตัวใหม่ ไฉไลกว่าเก่า

ถ้าจะเรียกภาคเสริม Phantom Liberty ว่าเป็นภาคชุบตัวของเกม Cyberpunk 2077 ก็คงไม่ผิดนัก แต่ถึงเกมจะโดนชุบตัวมาหนักขนาดนี้ก็ยังมิวายมีบั๊กเหลือให้เห็นอยู่ดี ทั้งปุ่มคำสั่งหาย จู่ๆ ก็เดินออกจากบางจุดไม่ได้ หรืออาวุธที่ถืออยู่ในมือก็หายไประหว่างสู้ซะงั้น ฯลฯ อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าตอนเกมภาคหลักเพิ่งวางขายแบบเทียบไม่ติด นอกจากนี้ เกมยังเติมฟีเจอร์ภาพกราฟิกสุดล้ำที่ชื่อว่า "Overdrive Path Tracing" เข้ามาให้ในเวอร์ชัน PC ด้วย หากคุณมีคอมแรงพอจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ได้ คุณจะได้พบกับเกมที่ภาพสวยงามที่สุด สวยชนิดที่มาแรงแซงโค้งทุกเกมที่ออกมาตอนนี้แบบไม่เห็นฝุ่น ทำให้บางฉากคุณอาจรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังที่คนจริงเล่นอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว ที่สำคัญคือเพลงประกอบ (Soundtrack) ใหม่ๆ ทั้งหลายในเกมนี้ก็ยังฟังมันสะใจจนต้องโยกหัวเหมือนเคย ช่วยบิลต์อารมณ์ตอนที่เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นให้ลุ้นกันเข้าไปอีก

ภาคเสริม Phantom Liberty และอัปเดต 2.0 แห่งปี 2023 คือป๋าดันเกม Cyberpunk 2077 ให้กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานในวงการ ตำนานของเกมที่คืนชีพจากการเป็นเกมชื่อเสียในหมู่เกมเมอร์ ก่อนที่จะใช้เวลาอีก 3 ปีไถ่บาป ปรับปรุงตัว จนกลายเป็นเกม RPG เต็มตัวแบบที่ทีมพัฒนา CD Projekt RED เขาเคยโม้เอาไว้ซะที ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเกม Cyberpunk 2077 อยู่แล้ว ภาคเสริมตัวนี้จะทำให้คุณหลงรักมันยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เคยผิดหวังกับเกมตอนที่มันออกมาเมื่อหลายปีก่อน นี่อาจเป็นจังหวะที่ดีในการให้โอกาสจอมโจรไซเบอร์ที่กลับใจรายนี้ก็ได้นะ ถึงจะช้า แต่ในที่สุดมันก็สามารถมอบความสนุกในโลกไซเบอร์พังก์แบบไม่มีสะดุดได้ซะที

ภาพ : Cyberpunk, Playstation