แอปเปิลได้วางจำหน่ายไอโฟน 15 ซีรีส์ (iPhone 15) ในตลาดในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเช้าวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สนใจแห่กันไปเข้าคิวซื้อที่แอปเปิล เซ็นทรัลเวิลด์ กันตั้งแต่ค่ำวันที่ 21 ก.ย. และทยอยมาเรื่อยๆ จนเต็มหน้าร้านที่เปิดประตูรับตั้งแต่ 08.00 น.ของวันที่ 22 ก.ย. ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติหลายประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามที่แอปเปิลยังไม่เปิดขาย
ทีมงานได้รับเครื่องมารีวิวการใช้งานเบื้องต้นใน iPhone 15 ซีรีส์ทุกรุ่น รุ่นละสี จึงนำมาเปรียบเทียบระหว่างรุ่นโปรและรุ่นเริ่มต้นรวมทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน
...
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
บทสรุปของผู้ไม่ต้องการอ่านยาว iPhone 15 Pro Max เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะสเปกจัดเต็มในทุกด้าน แลกด้วยราคาแพงสุดเริ่มต้นที่ 48,900 บาท แต่มีจุดด้อยคือใช้งานมือเดียวไม่ค่อยถนัดนัก เพราะจอขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ต้องถอยไปใช้ iPhone 15 Pro จอ 6.1 นิ้วแทน สเปกกล้องจะด้อยกว่านิด แต่ราคาถูกกว่า เริ่มต้นที่ 41,900 บาท
ดีไซน์ไทเทเนียมทนทานและสวยงาม
แม้ว่าหน้าตาจะดูคล้ายกับรุ่นเดิม แต่จากการดีไซน์ใหม่ นำไทเทเนียมมาเป็นตัวเฟรมโทรศัพท์ ทำให้ตัวเครื่องเบาลง รู้สึกได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เป็นวัสดุแข็งแรงทนทานมาพร้อมผิวที่ผ่านการปัดจนเงางาม มีขอบมน และขอบจอที่บาง ดูดีมีระดับ สวยงามโดยเฉพาะสีไทเทเนียมธรรมชาติได้รับความสนใจมากที่สุด
ชิปใหม่ A17 Pro ทำให้ iPhone 15 Pro และ Pro Max ทรงพลังที่สุด มองข้ามสมาร์ทโฟนด้วยกันข้ามไปตีตลาดเกมคอนโซล จากการทดสอบผ่าน Geekbench 6 ชิปใหม่ ผลการประมวลผล GPU ได้คะแนนสูง 27,231 คะแนนสูงกว่าชิป A16 Bionic ของ iPhone14 Pro ที่มี 22,280 คะแนน ส่วน CPU มัลติคอร์ได้คะแนน 7,144 คะแนน สูงกว่า iPhone 14 Pro ที่มี 6,375 คะแนน
ชิป A17 Pro รองรับ ray tracing สำหรับเกมหนักๆที่สมาร์ทโฟนทั่วไปไม่รองรับการเล่นมาก่อน จากการทดสอบการเล่นเกม Resident Evil Village ผ่าน TestFlight ที่จะมาใน iPhone 15 Pro ปลายปีนี้ การเล่นเบื้องต้นผ่านการบังคับของ iPhone โดยตรง รู้สึกได้ว่าเกมไหลลื่นได้ดี ภาพมีความคมชัดเห็นรายละเอียดได้ดี ดูมืดๆตามสไตล์เกมนี้ รองรับภาษาไทย แต่เล่นสักพักเครื่อง iPhone รู้สึกว่าจะร้อนกว่าปกติ สำหรับคอมเกมนำไปต่อพ่วงกับอุปกรณ์ตัวคอนโทรลจะเพิ่มอรรถรสการเล่นเต็มที่
...
ทางด้านระบบกล้องถูกอัปเกรดใหม่เมื่อทำงานรวมกับ iOS17 แล้วถ่ายรูปสวยขึ้นมาก ระบบกล้องใช้ง่าย การถ่ายภาพบุคคลค่อยมาเลือกแก้ไขหลังการถ่ายภาพได้ ไม่จำเป็นต้องไปที่โหมดภาพถ่ายบุคคลก่อนเหมือนรุ่นก่อนหน้า โหมดภาพถ่ายกลางคืนดีขึ้น ให้รายละเอียดมากขึ้น ถ่ายในสภาวะแสงน้อยดีขึ้น ถ่ายเทเล 5X คมชัดดี
กล้องหลักรองรับโหมด ProRAW ที่ค่าเริ่มต้นใหม่ที่ 24 MP จากสูงสุดที่ 48 MP ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจัดเก็บและแชร์ได้สะดวกขึ้น กล้อง iPhone 15 Pro และ Pro Max เสมือนมีกล้องโปร 7 เลนส์ด้วยกัน การถ่ายภาพได้เพิ่มกล้องหลักให้เลือกคือ 1X ระยะ 24 มม., 1.2X ระยะ 28 มม. และ 1.5X ระยะ 35 มม.
...
สำหรับ iPhone 15 Pro Max เลนเทเล ออปติคอลซูมได้ 5X ระยะ 120 มม. โหมดการถ่ายภาพบุคคลได้สูงสุด 5X ส่วน iPhone 15 Pro ออปติคอลซูมได้ 3X ระยะ 77 มม. โหมดการถ่ายภาพบุคคลได้สูงสุด 3X
...
ปุ่มแอ็กชันใหม่มาทดแทนปุ่มปิด-เปิดเสียงเดิม สามารถตั้งค่าได้ 9 โหมด ตามโหมดที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น กล้องกดทำงานและกดถ่ายได้ทันที
iPhone 15 Pro และ Pro Max ได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แบบเดียวกับ Mac, iPad และ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) รองรับ USB 3 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 10 กิกะบิตต่อวินาที หรือเร็วขึ้นกว่าที่ผ่านมาถึง 20 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายไฟชาร์จให้กับ iPhone14 รวมทั้งอุปกรณ์อื่น เช่น Apple Watch และ AirPods ได้โดยตรง
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus
บทสรุป แอปเปิลดูเหมือนจะแบ่งเซ็กเมนต์ของผู้ใช้ iPhone 15 ซีรีส์อย่างชัดเจน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus หลากสีสันสวยงาม เหมาะกับการเป็นสมาร์ทโฟนแฟชั่น เทคโนโลยียังคงเปี่ยมล้น แต่คุ้มค่าคุ้มราคา หน้าจอรองรับ Dynamic Island เหมือนรุ่นท็อป ระบบกล้องอัปเกรดครั้งใหญ่ กล้องหลักเพิ่มเป็น 48 MP ใช้ชิป A16 Bionic ชิปเดียวที่ใช้ใน iPhone 14 Pro Max ทั้งสองรุ่นสเปกเหมือนกัน เพียงแค่ต่างกัน ที่หน้าจอ iPhone 15 จอ 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท ส่วน iPhone 15 Plus จอ 6.7 นิ้ว เริ่มต้น 37,900 บาท
สีใหม่สวยงาม ระบบกล้องสุดล้ำ
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ดีไซน์ใหม่ดูสวยงามหรูหรา แบบสีพาสเทล 5 สีใหม่คือสีชมพู, เหลือง, เขียว, ฟ้า และสีดำ ด้านหลังเป็นกระจกแต่งสี ขอบจอมน บนตัวเครื่องอะลูมิเนียม
ระบบกล้องอัปเกรดครั้งใหญ่กล้องหลัก 48 MP เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้า 4 เท่า และใช้การประมวลผลภาพเชิงคำนวณทำให้ตั้งค่าเริ่มต้นที่ความละเอียดสูงแบบใหม่ได้สูงสุดที่ 24 MP กล้องออปติคอลซูมได้ 3 ระดับที่ 0.5X, 1X และ 2X
สำหรับโหมดการถ่ายบุคคลถูกอัปเกรดใหม่ ช่วงถ่ายภาพอยู่ในโหมดปกติหากวัตถุที่ถูกถ่ายภาพเป็นคนหรือสัตว์เลี้ยง จะถูกจับภาพอัตโนมัติ ไม่ต้องสลับไปโหมดภาพถ่ายบุคคล เมื่อถ่ายเสร็จนำมาแก้ไขเป็นภาพบุคคลอย่างง่ายๆในแอปรูปภาพ เพียงแตะจุดที่ต้องการโฟกัส เมื่อทดลองถ่ายภาพแล้วนับว่าสะดวกมากๆ รวดเร็วดีและปรับโฟกัสได้ตามต้องการ ปรับชัดตื้นได้ดีมาก แต่ชัดลึกภาพยังไม่คมชัดเท่าชัดตื้น ภาพถ่ายบุคคลให้โทนสีผิวสมจริง ส่วนโหมดภาพถ่ายกลางคืนให้รายละเอียดคมชัดมากขึ้น
ทางด้านชิป A16 Bionic ซึ่งใช้ในรุ่น Pro iPhone รุ่นก่อนหน้านั้น เป็นครั้งแรกที่ถูกนำมาใช้ในรุ่นรองลงมา ทำให้ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จัดการกับงานหนักๆได้สบาย ทำงานได้เร็วขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทั้งสองรุ่นได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ด้วยเช่นกัน เป็นเพาเวอร์แบงก์สำหรับชาร์จให้ AirPods และ Apple Watch ได้โดยตรง
เมื่อทำงานร่วมกับ iOS17 จะช่วยให้ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มีความสามารถใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกมากมาย โดยเฉพาะ NameDrop เป็นวิธีใช้ AirDrop แบบใหม่เพื่อให้แชร์ข้อมูลรายชื่อได้ง่ายขึ้นเพียงแค่นำ iPhone ทั้ง 2 เครื่องมาวางซ้อนกัน หรือวางติดกัน วางใกล้ๆ อีกทั้งยังแชร์คอนเทนต์และอีกมากมายผ่าน AirDrop ได้ด้วย
คลิกอ่านคอลัมน์ "บทความไซเบอร์เน็ต" เพิ่มเติม