สายชาร์จดูดเงินเป็นความเข้าใจผิดของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ เพราะส่วนหนึ่งเข้าใจว่า “สายชาร์จ” เป็นอุปกรณ์ที่โอนถ่ายข้อมูลได้ จึงน่าจะเข้ามาแฮกข้อมูลบางส่วนในสมาร์ทโฟนได้หรือเปล่า เรื่องนี้ฝ่ายเทคนิคของทีมไทยรัฐออนไลน์ข้อสรุปข้อมูลไว้ดังนี้

สายชาร์จดูดเงินออกจากบัญชีไม่ได้ แอปเถื่อนต่างหากทำได้

สายชาร์จดูดเงินไม่จริง เพราะอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือมีระบบความปลอดภัยที่ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหาเงินหาย หรือถูกแฮกข้อมูลจากเครื่อง มักเกิดจากผู้ใช้อนุญาตให้แอปเข้าถึงการใช้งานโทรศัพท์

ความวุ่นวายเหล่านี้เกิดจาก

1. โหลดแอปเถื่อนที่ไม่ได้อยู่ใน Play Store

แอปผี แอปเถื่อน แอปมัลแวร์ ไม่ได้มีแค่แอปหาคู่ มิจฉาชีพใช้วิธีสร้างแอปที่ล่อลวงคนอยากใช้ของดี ของฟรี มาให้โหลด อาทิ

ดูหนังฟรี หรือยูทูบแบบไม่มีโฆษณา
ดูรูปโป๊ ภาพหวิว

หลักการทำงานของแอปดูดเงิน

แอปเหล่านี้มันรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องไหนมีเงินในบัญชีมาก หรือน้อย จากการใช้งานพบว่าผู้พัฒนาระบบเน้นจำนวนให้คนกดดาวน์โหลดให้เยอะมากที่สุด แอปเหล่านี้สามารถรู้ว่าเจ้าของเครื่องมีพฤติกรรมการใช้งานเข้าออกแอปธนาคารบ่อยครั้งแค่ไหน และสุดท้ายหากเรารู้ตัวแล้วจะลบ ก็ทำไม่ได้ ด้วยโค้ดที่ล็อกให้เด้งกลับเข้ามาสู่หน้า Home โดยที่เจ้าของเครื่องทำอะไรไม่ได้เลย

...

2. อย่ากด Privacy ให้เข้าถึงข้อมูล

การกด “อนุญาต” “อนุญาตขณะใช้แอป” และ “Allow” ต่างๆ ทำให้แอปผีเหล่านี้เข้าสู่ข้อมูลเครื่องโทรศัพท์มือถือของคุณในลักษณะทำงานแทนการใช้นิ้วคลิกกดในหน้าต่างๆ โหมดนี้มีชื่อว่า “โหมดช่วยเหลือคนพิการ” ซึ่งมันจะทำงานแทนโดยที่คุณไม่รู้ตัว มิหนำซ้ำ กดแอปทำความสะอาดเครื่องหรือ Reset Factory จากโทรศัพท์มือถือก็ไม่หาย ต้องไปเคลียร์การตั้งค่าจากโรงงานด้วยคอมพิวเตอร์เท่านั้น

3. เผลอโหลดแล้วลบไม่ได้

ถ้าเผลอกดดาวน์โหลดไปแล้ว แอปที่ดูดเงินได้เหล่านี้มักจะลบออกจากเครื่องไม่ได้ มันสามารถซ่อนตัวทำงานอยู่ในโทรศัพท์มือถือโดยไม่แสดงผลว่ากำลังทำงานอยู่ให้เห็น และลบออกไม่ได้ 

การแก้ไขกรณีที่ว่าเผลอโหลดแอปเถื่อนลงเครื่อง ยากในระดับหนึ่ง หลักการแก้ไขคือต้องนำโทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แล้วเข้าโหมด DFU Mode เพื่อทำการ Flash ROM ใหม่ หรือ Cleaning Flash ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้งานทั่วไปจะทำไม่ค่อยเป็น และหากทำผิดขั้นตอน โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นก็จะใช้งานไม่ได้ ศัพท์เทคนิคเรียกว่า Brick คือกลายเป็นเครื่องทับกระดาษไปแทน

นอกจากนี้การแก้ไขด้วยการเข้าศูนย์ถือเป็นวิธีแก้ที่ปลอดภัยที่สุด มีค่าบริการแล้วแต่ศูนย์

วิธีป้องกันแอปดูดเงิน

ดังนั้นการจะป้องกันแอปดูดเงินได้ดีที่สุด คือการไม่โหลดแอปพลิเคชันที่อยู่นอกเหนือ Play Store มาใช้งาน และไม่กดอนุญาตให้ Privacy ข้อมูลกับแอปใดที่ไม่จำเป็น

สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยี ควรให้บุตรหลานที่รู้ทันมิจฉาชีพเหล่านี้ช่วยเหลือในการดาวน์โหลดและการโอนเงินทุกครั้ง ป้องกันเงินถูกดูดหมดบัญชี

แอปผีให้ดูของฟรีพวกนี้ ตรงกับสำนวนสุภาษิตที่ว่า “ของฟรีไม่มีในโลก”