เมื่อ ‘สมาร์ทโฟน’ กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของผู้คนยุคใหม่ ที่ไม่ว่าจะหยิบจับ หรือทำอะไร ก็ต้องมีมือถือเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถรองรับไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้มือถือราคาไม่แพงน่าใช้ในปัจจุบัน ก็มาพร้อมสเปกแรงๆ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ครบครัน กล้องถ่ายรูปสวยคมชัด หน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมแบบไม่มีสะดุด แถมราคายังคุ้มค่า เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปส่องสเปกของ “10 มือถือราคาถูก ถ่ายรูปสวย กล้องชัดน่าใช้” ที่น่าสนใจของปี 2022 โดยแต่ละรุ่นเน้นราคาไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งได้กลายเป็นมือถือสุดฮิต ขึ้นชื่อเรื่องสเปกแรง กล้องชัด ถ่ายรูปสวย คุ้มค่าคุ้มราคา จะมีรุ่นไหนบ้าง ติดตามได้จากบทความนี้
10 มือถือ สเปกแรง กล้องชัด ถ่ายรูปสวย ราคาถูก ปี 2022
1. Samsung Galaxy A 23 (ราคา 7,999 บาท)
เริ่มกันที่มือถือ Galaxy A23 รุ่นฮิต เก่งไม่กั๊ก ราคาไม่แพง จากค่าย Samsung สะดุดตาด้วยดีไซน์เรียบหรู มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ ฟ้า และพีช มาพร้อมสเปกเก่งไม่กั๊ก ชิปเซ็ต Snapdragon 680 เร็วแรง ทรงพลัง ให้ใช้งานอย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด แถมแบตเตอรี่ยังมีความจุ 5,000 mAh ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวแบตหมดเร็วระหว่างวัน
รุ่นนี้เรียกได้ว่าโดดเด่นเรื่องการถ่ายรูปมากๆ เพราะอัดสเปกกล้อง 4 เลนส์ ความคมชัดสูงสุดอยู่ที่ 50 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง Ultra Wide เก็บภาพกว้างสะใจ ไปเที่ยวที่ไหนก็เก็บภาพวิวสวยๆ หรือภาพมุมแคบๆ ได้ครบทุกองศา รวมถึงถ่ายวิดีโอที่ความคมชัดระดับ UHD 4K พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS รองรับทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน
หน่วยประมวลผล : Snapdragon 680 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 2.4GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.6 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2408 พิกเซล
กล้องหลัง : 50MP + 5MP (Ultrawide) + 2MP (Macro) + 2MP (Depth)
กล้องหน้า : 8MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : One UI 4.1 based on Android 12
หน่วยความจำ (RAM) : 6 GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 128 GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 1TB
แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 25W
2. Vivo Y33T (ราคา 7,999 บาท)
สมาร์ทโฟนรูปทรงเพรียวบางเพียง 8 มม. แต่สเปกแรงเกินดีไซน์ สะดุดตาด้วยฝาหลังที่ใช้เทคโนโลยีไล่ระดับสีแบบนาโน ทำให้พื้นผิวเป็นประกายแวววาว แต่ยังคงจับถนัดมือ ไม่ทิ้งคราบรอยนิ้วมือบนตัวเครื่อง มีให้เลือกทั้งสี Starry Gold และ Mirror Black หน้าจอคมระดับ FHD+ จัดเต็มด้วยจอกว้าง 6.58 นิ้ว ส่วนกล้องถ่ายรูปก็อัดฟีเจอร์แน่นครบถ้วน แถมมาพร้อมกล้องหลังชัด 50 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ถูกใจสายเซลฟี่ได้ไม่ยาก
หน่วยประมวลผล : Snapdragon 680 4G Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 2.4GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.58 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 2408×1080 พิกเซล
กล้องหลัง : 50MP + 2MP (Macro) + 2MP (Bokeh)
กล้องหน้า : 16MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Funtouch OS 12 based on Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 8GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 128GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 1TB
แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 18W
3. Oppo A76 (ราคา 7,999 บาท)
สมาร์ทโฟนตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้มือถือราคากลางๆ ไม่เกิน 10,000 บาท แต่สเปกคุ้มค่า ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อรอยขีดข่วนต่างๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Glow Design ที่มีความโค้ง 3 มิติ จับถนัดมือ สามารถปลดล็อกเครื่องผ่านลายนิ้วมือและสแกนหน้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้สเปกเครื่องยังมีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz ทำให้เล่นเกมได้อย่างไม่มีสะดุด โดยเฉพาะเกมที่เป็นงานด้านวิชวล มีกราฟิกหนักๆ รุ่นนี้ก็สามารถรองรับการแสดงผลได้ไม่มีปัญหา
หน่วยประมวลผล : Snapdragon 680 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 2.4 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.56 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 1612 x 720 พิกเซล
กล้องหลัง : 13MP + 2MP (Bokeh)
กล้องหน้า : 8MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Color OS 11.1 based on Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 8
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 128
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 1TB
แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
4. Oppo A95 (ราคา 8,999 บาท)
เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นในซีรีส์ A จาก Oppo ที่ยังคงโดดเด่นเรื่องมือถือสเปกแรง แต่ราคาไม่แพงอย่างที่คิด หน้าจอไร้ขอบ กว้าง 6.43 นิ้ว มีระบบปรับแสงเพื่อถนอมสายตาโดยอัตโนมัติ กล้อง 3 เลนส์ คมชัดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล บันทึกวีดีโอชัดระดับ HD (720p) โดยมีฟังก์ชัน RAM Expansion ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับขยายหน่วยความจำเครื่องเพิ่มได้อีก 5GB เก็บบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอได้แบบไม่ต้องกลัวเมมเต็ม แถมยังมีแบตเตอรี่อึด 5,000 mAh พกติดตัวใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน
หน่วยประมวลผล : Snapdragon 662 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 2.4GHz
ขนาดหน้าจอ : 2400×1080 พิกเซล
ความละเอียดหน้าจอ : 6.43 นิ้ว
กล้องหลัง : 48MP+ 2MP (Macro) + 2MP (Depth)
กล้องหน้า : 16MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Color OS 11.1 based on Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 8GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 128GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 256GB
แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
5. POCO M4 Pro (ราคา 7,999 บาท)
สายเกมเมอร์ที่กำลังมองหามือถือราคาถูกไว้สำหรับเล่นเกม รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะติดตั้งชิปประมวลผล Mediatek Helio G9 Octa Core ซึ่งถือว่าได้รับการออกแบบมาให้เล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมทั้งยังมีฟังก์ชันสั่นและลำโพงคู่ ที่มอบประสบการณ์เล่นเกมให้อย่างสนุกสนาน สมจริง รวมถึงยังมี LiquidCool Technology ที่ช่วยระบายความร้อนให้ตัวเครื่อง เมื่อใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน แถมยังรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ไวถึง 33W เลยทีเดียว
หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio G9 Octa Core
ความเร็ว หน่วยประมวลผล : 2.05 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.43 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2400 พิกเซล
กล้องหลัง : 64MP + 8MP (Ultrawide) + 2MP (Macro)
กล้องหน้า : 16MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : MIUI 13 based on Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 8GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 256GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 1TB
แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 33W
6. Samsung A13 (ราคา 6,499 บาท)
Galaxy A13 ถือเป็นมือถือเก่งไม่กั๊ก สเปกแรง ราคาถูก ที่น่าจะถูกใจสายมินิมอล โดยมีการผสมผสานลุคสีอ่อนโยนมาให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ ดำ, ฟ้า และพีช ตัวเครื่องมีดีไซน์โค้งมน เรียบแต่โก้ จับถนัดสบายมือ สเปกเครื่องเร็วแรง ใช้งานลื่น ไม่สะดุด กล้อง 4 เลนส์ ถ่ายภาพชัดทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นมุมกว้างหรือแคบ ถ่ายระยะไกลหรือใกล้ กล้องหลังคมชัดถึง 50 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล เซลฟี่ได้สบายๆ
จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ ยังอยู่ที่หน้าจอเทคโนโลยี FHD+ ที่ช่วยให้รับชมทุกคอนเทนต์บนหน้าจอได้อย่างคมชัดและสดใส มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ดังกระหึ่มรอบทิศทาง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง นานแค่ไหน ก็ใช้งานต่อเนื่องได้กับแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่อยู่ได้ถึง 2 วัน แถมมือถือยังรองรับและเชื่อมต่อ Gear ต่างๆ ของ Samsung ได้อย่างสะดวกสบาย
หน่วยประมวลผล : Exynos 850 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 2.2 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.6 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2408 พิกเซล
กล้องหลัง : 50MP + 5MP (Ultrawide) + 2MP (Macro) + 2MP (Depth)
กล้องหน้า : 8MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : One UI 4.1 based on Android 12
หน่วยความจำ (RAM) : 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 128GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 1TB
แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 25W
7. Oppo A16 (ราคา 5,999 บาท)
สมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่รองรับการใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครัน หน้าจอหยดน้ำ HD+ แบบถนอมสายตาขนาดกว้าง 6.52 นิ้ว ที่ให้มุมมองกว้างเต็มตา แสดงผลคมชัด มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Pearl Blue, Space Silver และ Crystal Black อัดแน่นด้วยสเปกกล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมฟีเจอร์กล้อง AI ที่ช่วยปรับภาพสวยละมุน คมชัดทุกการกดชัตเตอร์ อีกทั้งสามารถรองรับ Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย MicroSD Card ได้สูงสุด 256 GB
หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio G35 Octa Core
ความเร็ว หน่วยประมวลผล : 2.3 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.52 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 720x1600 พิกเซล
กล้องหลัง : 13MP + 2MP (Depth) + 2MP (Macro)
กล้องหน้า : 8MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Color OS 11.1 base on Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 64GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 256GB
แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 10W
8. Vivo Y21 (ราคา 5,699 บาท)
สมาร์ทโฟนตัวเล็ก แต่สเปกแรงจาก Vivo ยังคงโดดเด่นเรื่องการดีไซน์รูปลักษณ์ให้บางเบา เพราะ Vivo Y21 รุ่นนี้มีน้ำหนักเพียง 182 กรัม เหมาะสำหรับคนที่ชอบพกมือถือเครื่องเล็ก ไม่หนัก และจับถนัดมือ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Diamond Glow และ Metallic Blue ภาพรวมของรุ่นนี้ยังคงอยู่ที่กล้องถ่ายรูปที่ใช้ AI เข้ามาช่วยทำงานควบคู่กับเลนส์กล้องถ่ายรูปและวิดีโอ ซึ่งบันทึกวีดีโอระดับ HD (720p) ได้อย่างคมชัด ถ่ายรูปและใช้งานฟังก์ชันต่างๆ อย่างจุใจ โดยมีเทคโนโลยี VEG เข้ามาช่วยประหยัดพลังงานให้ตัวเครื่อง พร้อมทั้งสามารถเพิ่มข้อมูลได้สูงสุดถึง 1TB
หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio P35 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 2.35 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.51 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 720 x 1600 พิกเซล
กล้องหลัง : 13MP + 2MP (Macro)
กล้องหน้า : 8MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Funtouch OS 11.1 based on Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 64GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 1TB
แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W
9. Oppo A53 (ราคา 6,499 บาท)
ใครที่เห็นมือถือรุ่นนี้ อันดับแรกก็ต้องสะดุดตากับลวดลายฝาหลังที่ออกแบบในสไตล์ 3D Curved เปล่งประกายสวยละมุนไปตามดีไซน์แนวคลื่นของตัวเครื่อง ซึ่งช่วยให้จับกระชับมือมากยิ่งขึ้น หน้าจอใช้กระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 เพิ่มความทนทานให้การใช้งาน หน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว อัตรารีเฟรช 90Hz ใช้งานอย่างไหลลื่น ส่วนกล้องก็สามารถใช้ถ่ายรูปและเซลฟี่ได้อบ่างสบาย มีกล้องโบเก้ที่ช่วยละลายพื้นหลังให้ภาพ Portrait ออกมาสวยชัดเหมือนมืออาชีพถ่าย อีกทั้งแบตเตอรี่ยังอึดทนนาน พร้อมฟังก์ชันรองรับการชาร์จไว
หน่วยประมวลผล : Snapdragon 460 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 1.8 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.5 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 720 x 1600 พิกเซล
กล้องหลัง : 13MP + 2MP (Marco) + 2MP (Bokeh)
กล้องหน้า : 16MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Color OS 7.2 based on Android 10
หน่วยความจำ (RAM) : 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 128GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 256GB
แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W
10. Nokia G21 (ราคา 6,490 บาท)
ใครที่มองหามือถืออึดและทนทาน กล้องชัด ถ่ายรูปสวย มาพร้อมสเปกอัดแน่นในราคาที่เอื้อมถึง Nokia G21 ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย โดยมีฟังก์ชันติดเทรนด์อย่าง Face Unlock ที่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้โดยไม่ต้องถอดแมสก์ ส่วนฟีเจอร์กล้องก็มี Super Resolution ที่ช่วยเก็บรายละเอียดให้ทุกภาพถ่ายออกมาสวยคมชัด ด้วยกล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เก็บภาพในเวลากลางคืน หรือในที่มีแสงน้อยได้ อีกทั้งยังจัดเต็มด้วยแบตเตอรี่ใหญ่ ความจุ 5,050 mAh ให้ใช้งานต่อเนื่องโดยไม่มีสะดุด
หน่วยประมวลผล : Unisoc T606 Octa Core
ความเร็วหน่วยประมวลผล : 1.6 GHz
ขนาดหน้าจอ : 6.5 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ : 720 x 1600 พิกเซล
กล้องหลัง : 50MP + 2MP (Macro) + 2MP (Depth)
กล้องหน้า : 8MP
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : Android 11
หน่วยความจำ (RAM) : 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) : 64GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องสูงสุด : 512GB
แบตเตอรี่ : 5,050 mAh รองรับชาร์จไว 18W
สรุปจุดเด่นที่น่าสนใจของ 10 มือถือ สเปกแรง ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ปี 2022
● ทุกรุ่นมีขนาดหน้าจอกว้าง ประมาณ 6.4-6.6 นิ้ว
● กล้องถ่ายรูปคมชัด ส่วนใหญ่ติดตั้งกล้องหลายเลนส์ โดยมีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 64 ล้านพิกเซล
● กล้องหน้าเหมาะสำหรับการถ่ายเซลฟี่ ทุกรุ่นความละเอียดคมชัดตั้งแต่ 8 ล้านพิกเซลขึ้นไป
● ทุกรุ่นมีหน่วยความจำ (RAM) ประมาณ 4-8 GB
● พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) สูงสุดอยู่ที่ 128 GB
● สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกตัวเครื่องได้สูงสุด ตั้งแต่ 256 GB-1TB
● ทุกรุ่นมีแบตเตอรี่อึด ความจุไม่ต่ำกว่า 5,000 mAh พร้อมฟังก์ชันรองรับการชาร์จไว
10 รุ่น มือถือสเปกแรง ถ่ายรูปสวย ปี 2022 ที่มีสเปกแรง กล้องชัด และถ่ายรูปสวย โดยรวมแล้วจะมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใกล้เคียงกัน อาจแตกต่างกันบ้างที่ลูกเล่น หรือสเปกตัวเครื่อง ซึ่งใช้ชิปเซ็ตที่แตกต่างกัน รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่เป็นจุดเด่นของแต่ละรุ่น ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ว่าต้องการใช้งานแบบใด ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อมือถือทุกครั้ง จึงควรดูข้อมูลสเปกตัวเครื่องให้ละเอียด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ เพื่อให้สามารถเลือกใช้มือถือรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุดนั่นเอง.