ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการขับรถ รวมถึงฟีเจอร์ "Android Auto" ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่รองรับเวอร์ชันภาษาไทย ทำหน้าที่เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับระบบสเตริโอรถยนต์รุ่นต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันสามารถรองรับได้มากกว่า 500 รุ่น สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก หรือยังไม่เคยใช้ Android Auto ไทยรัฐออนไลน์นำสาระดีๆ มาฝากกัน
ทำความรู้จัก "Android Auto" คืออะไร?
Android Auto คือ ระบบปฏิบัติของ Google ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานระบบนำทางและฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์แทนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจริงๆ แล้ว Android Auto เปิดใช้งานมาหลายปีแล้วในต่างประเทศ ในประเทศไทยก็ใช้งานกันมาสักพัก เพียงแต่เพิ่งจะมีระบบที่รองรับภาษาไทยเมื่อไม่นานมานี้
Android Auto จะทำการสลับการทำงานของมันเองโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการค้นพบอุปกรณ์ที่รองรับเข้ามาเชื่อมต่อกับตัวสมาร์ทโฟน
ความพิเศษของ Android Auto อยู่ที่ฟังก์ชันโหมดการทำงานต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานบนสมาร์ทโฟนให้ขึ้นโชว์บนหน้าจอสเตริโอในรถยนต์ของเราได้ แทนที่เราจะต้องขับรถไปด้วยดูมือถือไปด้วย ก็เปลี่ยนมาดูหน้าจอในรถ ถือเป็นการช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ แถมยังเชื่อมต่อได้ผ่านทั้งสาย USB และ Bluetooth
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Android Auto ได้ที่ Google Play Store
...

Android Auto ทำอะไรได้บ้าง?
เมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ของเรา หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ ก็จะสามารถใช้งานแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานขณะขับขี่รถยนต์ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นแอปพลิเคชันที่เน้นการสั่งงานง่ายๆ (สามารถสั่งงานผ่านเสียงได้) โดยเฉพาะแอปพลิเคชันระบบนำทาง และแอปพลิเคชันฟังเพลง ยกตัวอย่างสิ่งที่ Android Auto รองรับ มีดังนี้
- Google Maps
- YouTube
- Spotify
- โทรศัพท์ออก-รับสายโทรศัพท์
- แจ้งเตือนข้อความ SMS
- แจ้งเตือนข้อความ Line หรือ Facebook Messenger
- ผู้ช่วยของ Google
- สภาพอากาศ
ทั้งนี้ เรายังสามารถตั้งค่าผ่านหน้าจอ Home และ Setting ที่ปรากฏบนหน้าจอในรถยนต์ได้ ว่าต้องการเลือกใช้งานแอปพลิเคชันไหนบ้าง รวมถึงต้องการรับการแจ้งเตือนข้อความจากแอปพลิเคชันใด ที่เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ชาวแอนดรอยด์ที่ได้สัมผัสผ่านฟีเจอร์ที่เรียกว่า "Android Auto"

วิธีใช้ Android Auto เชื่อมต่อกับรถยนต์ได้อย่างไร?
1. ตรวจสอบว่ารถยนต์หรือสเตริโอรถยนต์ของเรา สามารถเข้ากันได้กับ Android Auto หรือไม่ โดยสามารถเช็กได้ที่ www.android.com
2. ตรวจสอบระบบปฏิบัติการแอนดรอยต์ในสมาร์ทโฟน
- สำหรับผู้ที่ใช้ Android 10 ขึ้นไป จะมี Android Auto ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออัตโนมัติได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม
- สำหรับผู้ที่ใช้ Android 9 หรือต่ำกว่า ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Android Auto มาไว้ในโทรศัพท์ก่อนเริ่มใช้งาน
การเชื่อมต่อโทรศัพท์ของคุณต้องอนุญาตให้ถ่ายโอนข้อมูลเพื่อให้ Android Auto ทำงานได้ เมื่ออุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อผ่านสาย USB ให้ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอแล้วแตะการแจ้งเตือนจากระบบ Android เลือกตัวเลือกที่อนุญาตสำหรับการถ่ายโอนไฟล์
3. เชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถยนต์ด้วยสาย USB แล้วสังเกตในโทรศัพท์ว่าปรากฏข้อความให้ตั้งค่า "อนุญาต" หรือ "เปิดใช้งาน" Android Auto หรือไม่ หลังจากนั้นฟีเจอร์จะขึ้นแสดงผลบนหน้าจอรถยนต์โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้โทรศัพท์บางรุ่นอาจเชื่อมต่อ Android Auto แบบไร้สายได้ทันทีผ่าน Bluetooth

...
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Android Auto จะเข้ามามีบทบาททำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในระบบนำทาง รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้เราโดยไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน แต่ก่อนเริ่มใช้งานทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งโทรศัพท์และระบบสเตริโอในรถยนต์ของเรา สามารถรองรับได้หรือไม่ เพื่อจะได้ตั้งค่าการใช้งานอย่างถูกต้อง
ที่มาของข้อมูล : android.com