พริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นนักการเมืองที่เริ่มมีบทบาทครั้งแรกในช่วงการเลือกตั้งปี 2562 ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะก้าวมาสู่พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 11 และได้เข้าสภาเป็นครั้งแรก
ประวัติ ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ
พริษฐ์ วัชรสินธุ มีชื่อเล่นที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “ไอติม” ซึ่งมักเป็นคำที่ผู้คนจำนวนมากมักพูดถึงชื่อไอติม นำหน้าชื่อ “พริษฐ์” ด้วยซ้ำ โดยชื่อไอติม เป็นชื่อที่ถูกตั้งให้สอดคล้องกับพี่ชายที่ชื่อว่า “อะตอม”
ไอติม พริษฐ์ เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 2535 อายุ 30 ปี มีพื้นหลังการศึกษาที่สอดคล้องกับการเมืองมากพอสมควร จากการจบปริญญาตรีในสาขาวิชาปรัชญา การเมือง เศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford)
ไอติม พริษฐ์ เริ่มต้นการทำงานครั้งแรกที่บริษัทแม็คคินซีย์ ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการจัดการ (Management Consultant) ก่อนที่จะลงทำงานการเมืองครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 ภายใต้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม NewDem ที่รวบรวมคนรุ่นใหม่ในพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 พริษฐ์ ได้รับมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 13 บางกะปิ วังทองหลาง (และแขวงพลับพลา) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง 2562 สูญเสียที่นั่งทุกที่นั่งในกรุงเทพมหานคร อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดี
จากนั้นมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ พริษฐ์ และสมาชิกกลุ่ม NewDem จำนวนหนึ่งตัดสินใจลาออกจากสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ นับเป็นจุดสิ้นสุดของกลุ่ม NewDem ก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐในที่สุด
...
จากนั้นข่าวคราวของไอติม พริษฐ์ กลับมาอีกครั้งในฐานะซีอีโอของบริษัท EdTech ที่มีชื่อว่า StartDee สตาร์ทอัพด้านการศึกษา ซึ่งชื่อของ StartDee มาจากคำว่า จุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตที่ดี
พริษฐ์ กล่าวถึงการเข้ามาทำงานในฐานะซีอีโอบริษัท EdTech ว่า “ผมมีความสนใจและให้ความสำคัญกับประเด็นทางการศึกษามาสักระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่เรียนจบการเมืองและเศรษฐศาสตร์” พริษฐ์ กล่าวต่อไปว่า “เป้าหมายส่วนตัวของผมคืออยากพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งการศึกษาเป็นกลไกสำคัญมากต่อการพัฒนาประเทศ”
พร้อมกันนี้ StartDee มีความพยายามเพิ่มเนื้อหานอกหลักสูตร เช่น วิชาเกี่ยวกับเพศศึกษาที่ไปไกลกว่ากายภาพ แต่เป็นการลงลึกถึงมุมมอง ทัศนคติ และเคารพทุกเพศอย่างเสมอภาค หรือการนำเสนอมุมมองทางประวัติศาสตร์ให้มีหลากหลายมุมมอง เพื่อให้มีทักษะ “Critical Thinking
พริษฐ์ วัชรสินธุ เปิดตัวร่วมกับพรรคก้าวไกล
ในช่วงปี 2564 มีกระแสข่าวว่า พริษฐ์ กำลังจะไปทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากตัวของพริษฐ์ และพรรคก้าวไกล มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกันในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ภายใต้กลุ่ม Re-Solution
ในเวลานั้น พริษฐ์ อธิบายว่า “การทำสตาร์ทอัพเป็นความต้องการส่วนตัวไม่เคยมองถึงประเด็นทางการเมือง ผมมีสองบทบาทและมีความพยายามอย่างเคร่งครัดที่จะทำให้สองบทบาทไม่กระทบกันและกัน”
“แต่ถ้าถามว่าผมเคยเจอพาร์ตเนอร์ที่ไม่สบายใจพอเห็นว่าซีอีโอเป็นชื่อพริษฐ์หรือไม่ ก็ต้องยอมรับครับว่าเคยเจอ” พริษฐ์ กล่าวต่อไปว่า “แต่ผมยืนยันว่า ผมพยายามแยกให้ชัดเสมอ เพื่อให้ทุกฝ่าย ทุกคนสบายใจว่า StartDee ไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมือง”
...
พริษฐ์ ทิ้งท้ายจากการให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ในช่วงกลางปี 2564 เอาไว้ว่า เมื่อฤดูกาลเลือกตั้งมาถึง StartDee ซึ่งขับเคลื่อนด้วยทีมงาน 120 คน ทุกคนมาด้วยความต้องการพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้น เมื่อการเลือกตั้งมาถึง ไม่ว่าอนาคตของผมจะเป็นอย่างไร StartDee ไปต่อได้อย่างแน่นอน
จากนั้นในปี 2565 พริษฐ์ เปิดตัวกับพรรคก้าวไกลในฐานะผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบายพรรคก้าวไกล (Policy Campaign Manager) สำหรับการเลือกตั้งในปี 2566 โดยแนวคิดทางการเมืองของพริษฐ์ ให้ความสนใจในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ, การกระจายอำนาจ และการศึกษา เป็นพิเศษ
แม้ว่าการแก้รัฐธรรมนูญภายใต้กลุ่ม Re-Solution ที่มีพริษฐ์ เป็นแกนนำจะถูกรัฐสภาตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ในการเลือกตั้ง 2566 พริษฐ์ และพรรคก้าวไกลยังชูธงในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถเลือกผู้นำจังหวัดของตัวเอง เพื่อมุ่งสู่การกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น
...
ด้านการศึกษา พริษฐ์ เน้นย้ำถึงเรื่องของการศึกษาที่ยังคงย่ำอยู่กับที่ นักเรียนต้องเผชิญกับหลักสูตรแบบเดิมๆ จนไม่สามารถยกระดับการเรียน-การสอน และยังมีกฎระเบียบที่ล้าสมัย
เช่นเดียวกับประเด็นทางการเมือง ซึ่งพริษฐ์ กล่าวว่า ทหารยังมีบทบาททางการเมืองอยู่มาก และเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง
ผลงานอื่นของไอติม พริษฐ์
นอกเหนือจากการทำงานด้านการเมือง และบทบาทการเป็นซีอีโอบริษัทสตาร์ทอัพที่ StartDee ไอติม พริษฐ์ ยังมีผลงานด้านงานเขียนด้วยกันทั้งสิ้น 2 เล่ม ได้แก่ WHY SO DEMOCRACY ประชาธิปไตยมีดีอะไร? ซึ่งตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์บันลือ และ DREAMOCRACY ประชาธิปไตยไม่ใช่ฝัน ร่วมกับสำนักพิมพ์ Loupe