เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566 หรือค่าทำศพผู้สูงอายุ ในปี 2566 มีการอัปเดตอย่างไร ต้องมีคุณสมบัติและใช้เอกสารอะไรบ้าง

เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566

กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ประกาศชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ข้อมูลโดยระบุว่าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่เสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงิน 30,000 บาท จาก พม. ว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทาง พม. มีงบประมาณช่วยเหลือเป็นเงินรายละ 3,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้

คุณสมบัติผู้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566

1. อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

2. สัญชาติไทย

3. ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

  • สำหรับผู้สูงอายุมีคุณสมบัติตามเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ยังไม่มีบัตรฯ หรือยังไม่ได้ลงทะเบียน ให้ผู้อำนวยการเขต หรือนายอำเภอ หรือกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกเทศมนตรี หรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือนายกเมืองพัทยา หรือประธานชุมชน เป็นผู้ออกหนังสือรับรองการสงเคราะห์ฯ ตามประกาศฉบับนี้
  • รวมถึงผู้สูงอายุอยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ (ศพส.) สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใดๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์

สถานที่ยื่นคำขอเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566

สามารถยื่นคำขอรับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566 ได้ในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือ ภูมิลำเนา ในขณะถึงแก่ความตาย ดังต่อไปนี้

  • กรุงเทพฯ : สำนักงานเขต
  • จังหวัดอื่น : สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) หรือที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเทศบาล หรือที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา

...

เอกสารยื่นคำขอรับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566

  • ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ
  • บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุ
  • บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ

ทั้งนี้ควรยื่นคำขอรับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ผู้สูงอายุ 2566 ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร โดยมีงบประมาณในการช่วยเหลือเป็นเงินรายละ 3,000 บาท

กรมกิจการผู้สูงอายุได้ทำการเก็บข้อมูลสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 ถึงวันที่ 5 ก.ย. 2566 พบว่ามีผู้สูงอายุได้รับการสงเคราะห์ค่าจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณีทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 276,529 คน โดยจังหวัดที่ได้รับค่าจัดการศพจำนวนมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ กรุงเทพฯ 12,684 คน เชียงใหม่ 9,709 คน เชียงราย 7,715 คน อุดรธานี 7,095 คน และนครสวรรค์ 7,090 คน

ข้อมูลอ้างอิง : กรมกิจการผู้สูงอายุ