เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566 ฉบับใหม่ มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และคุณสมบัติผู้รับเบี้ยผู้สูงอายุอย่างไร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยประกาศ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566 ฉบับใหม่ ที่ปรับปรุงว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2566 ซึ่งมีการปรับปรุงดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566
- มีสัญชาติไทย
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น
- เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
ขั้นตอนการยืนยันสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566
บุคคลที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ให้ยืนยันสิทธิโดยไม่ต้องลงทะเบียน และให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอำนวยความสะดวกโดยการแจ้งไปยังผู้สูงอายุที่มีสิทธิ หากผู้สูงอายุมีประสงค์ที่จะรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้แนบเอกสารข้อมูลเพื่อยืนยันสิทธิของตนเองไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้
- แบบยืนยันสิทธิการขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับกรณีที่ผู้ประสงค์ร้องขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร
ในกรณีมีความจำเป็นที่ผู้สูงอายุไม่สามารถแจ้งความประสงค์การรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเองได้ตามวรรคหนึ่ง อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้บุคคลอื่นเป็นผู้ไปแจ้งความประสงค์การรับเงินเบี้ยยังชีพแทนผู้สูงอายุก็ได้
...
สิทธิของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566 สิ้นสุดลงในกรณี ดังต่อไปนี้
- ตาย
- ขาดคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ข้างต้น
- แจ้งสละสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นหนังสือต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
กรณีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุดังกล่าวสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนสั่งระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสำหรับบุคคลดังกล่าว
หากผู้สูงอายุที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยความสุจริตให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนรายงานผู้บริหารท้องถิ่นทราบ เพื่อระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไป โดยยกเว้นการเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน
รวมทั้งมีบทเฉพาะกาล ข้อ 17 ระบุว่าบรรดาผู้สูงอายุที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ยังมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นต่อไป
การดำเนินการใดที่ดำเนินอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของระเบียบฉบับนี้ ให้ถือว่าการดำเนินการนั้น เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยระเบียบนี้แล้ว
สำหรับการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566 ภาครัฐจะโอนเงินให้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ซึ่งถ้าวันที่ 10 ของเดือนนั้นๆ หากตรงกับวันหยุดราชการจะจ่ายให้ในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น และเป็นการจ่ายรายเดือนแบบขั้นบันได ดังนี้
- ผู้สูงอายุ อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท
- ผู้สูงอายุ อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท
- ผู้สูงอายุ อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท
- ผู้สูงอายุ อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
ข้อมูลอ้างอิง : ระเบียบกระทรวงมหาดไทย, สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
ภาพ : iStock