เดิมพันเลยว่าหลายคนไม่รู้ นอกจากเรื่องกำลังจะสูญพันธุ์แล้ว ไทยรัฐออนไลน์นำเรื่องราวความมหัศจรรย์ของสัตว์เหล่านี้มาให้ชมกัน รับประกันร้องว้าวแน่นอน...

หมีขาวไม่ได้ขาวอย่างชื่อ

หมีขาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกเหนือ และแท้จริงแล้วหมีขาวไม่ได้มีผิวหนังสีขาวอย่างชื่อของมัน ผิวหนังของมันมีสีดำ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยขนที่ใสและไร้สี ขนแต่ละเส้นของหมีขั้วโลกกระจัดกระจายไปทั่วและสะท้อนแสงที่เราเห็น จึงทำให้มันดูขาว ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีสีขาวเลย

...

วาฬหัวทุยยืนหลับ

วาฬหัวทุยเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลักษณะคล้ายปลา แต่ไม่ใช่ปลา วาฬหัวทุยจะนอนหลับในแนวตั้ง โดยให้หางห้อยลงด้านล่าง จริงๆ และท่ายืนนี้ยังทำให้วาฬที่กำลังงีบหลับนั้นหายใจผ่านช่องหายใจสะดวกขึ้น

เพศของเต่าถูกกำหนดจากอุณหภูมิ

ไม่ว่าลูกเต่าทะเลที่เพิ่งฟักจากไข่จะเกิดมาเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย มันต่างก็ถูกกำหนดโดยอุณหภูมิของบริเวณรัง หากอุณหภูมิสูงกว่าจุดที่ส่งผลต่อการเพาะฟักไข่เต่า หรือ “pivotal temperature” (28 - 29 องศาเซลเซียส) เต่าที่เกิดมาจะเป็นเพศเมีย และถ้าต่ำกว่า ก็จะเป็นเพศผู้

เสือมีตาที่เปล่งประกายที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหมด

ตาของเสือถูกส่องแสงจากด้านหลัง โดยเยื่อหุ้มเซลล์สะท้อนแสงชนิดหนึ่งผ่านทางจอประสาทตา ต้องขอบคุณสิ่งนี้ที่ทำให้เสือมีดวงตาที่เปล่งประกายที่สุดใบรรดาสัตว์ทั้งหมด

อุรังอุตังจั๊กจี้เป็น

การบ้าจี้มีอยู่สองแบบ แบบเบาๆ ที่เพียงรู้สึกคันๆ และแบบที่ทำให้คุณหัวเราะได้อย่างบ้าคลั่ง สัตว์หลายชนิดบ้าจี้อย่างในแบบแรก มันเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากการวิวัฒนาการที่ช่วยป้องกันพวกมันจากสัตว์ที่อาจจะทำอันตรายต่อมัน หรือสัตว์จำพวกแมลงต่างๆ

สัตว์เหล่านี้กำลังตกอยู่ในอันตราย ถิ่นที่อยู่อาศัยกำลังถูกทำลายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษ หรือแม้แต่การล้มตายจากการกินขยะพลาสติกเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งปัญหาดังกล่าวล้วนมีสาเหตุมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น หากหลายคนช่วยกันเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและลดสาเหตุของปัญหาต่างๆ ก็จะสามารถช่วยกันรักษาสัตว์เหล่านี้และสิ่งแวดล้อมได้.

ที่มา : กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

...