ส่องรูปแบบและพฤติกรรมของคน Gen Beta เด็กแห่งยุคเทคโนโลยีในอนาคตจะมีนิยามการดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างไรบ้าง

หลังจากผ่านพ้นปี 2024 เข้าสู่ปี 2025 หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือ เด็กแรกเกิดในปีนี้จะถูกขนานนามว่าใหม่จาก Gen Alpha เปลี่ยนเป็น Gen Beta แล้ว

ชีวิตของคนในเจเนอเรชันเบตา (Gen Beta) ในอนาคตอาจถูกกำหนดด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของโลกที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดทำให้เด็กๆ ในเจเนอเรชันเบตาจะถูกขนานนามว่า เด็กแห่งยุค AI-First ที่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจะมีความรวดเร็ว เติบโตได้ไวกว่าคนยุคก่อนๆ มากขึ้น 

รวมถึงเด็กเหล่านี้จะเห็นสภาพแวดล้อมและสังคมในมุมมองที่แตกต่างออกไป  จากประตูแห่งเทคโนโลยีที่เปิดกว้าง พร้อมโลกที่เท่าเทียมที่มีความตระหนักรู้ที่จะรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น

การศึกษาและการเรียนรู้ 

ยุคสมัยของเด็ก Gen Beta ในอนาคต การเรียนการสอนอาจจะถูกพัฒนากลายเป็นการเรียนการสอนแบบเสมือนจริง (Virtual Reality) โดยใช้ AI ในการสร้างโปรแกรมการเรียนเฉพาะบุคคล เด็กเหล่านี้จะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้เร็วและง่ายขึ้น รวมถึงวิชาชีพสำคัญคงหนีไม่พ้นการเขียนโค้ด การออกแบบความเป็นจริงเสริม (AR) และความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม สิ่งที่น่าสนใจนอกจากนี้คือ การศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong Learning) จะกลายเป็นเรื่องปกติของเด็กเจนเนอเรชันนี้ เพราะเด็กเหล่านี้จะทราบการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น อยากรู้ อยากทราบเนื้อหาอะไรก็จะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจและแปลกใหม่อย่างหนึ่งในโลกอนาคต

...

การทำงานและเศรษฐกิจ 

แน่นอนว่าในอนาคตงานจำนวนมากอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์และ AI เป็นหลัก แต่อย่างที่เห็นกันในปัจจุบันบ้างแล้วคือ มีอาชีพใหม่ๆ ที่เกิดตัวขึ้น เช่น นักพัฒนา AI, นักออกแบบโลกเสมือนจริง, และผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมในเทคโนโลยี ทั้งหมดที่กล่าวนี้อาจกลายเป็นอาชีพหลักแทนเหล่าวิศวกร สถาปนิก และอีกมากมายก็เป็นได้ ทั้งนี้แพลตฟอร์มการทำงานแบบออนไลน์จะยิ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น คนเริ่มหันมาทำงานอิสระหรือทำงานจากที่บ้านเพิ่มขึ้น และสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต รวมถึงด้านเศรษฐกิจที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงและเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนทรัพยากรดิจิทัล เช่น สกุลเงินคริปโต หรือทรัพย์สินดิจิทัล (NFTs) เป็นหลัก 

สุขภาพและการดูแลตนเอง 

ปัจจุบันเราได้เห็นกันมาบ้างแล้วกับเหล่าเทคโนโลยีสวมใส่ (Wearable Technology) ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ แน่นอนว่าในอนาคตจะได้เห็นเทคโนโลยีด้านสุขภาพเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นตาม สิ่งนี้จะทำให้เด็ก Gen Beta จะหันมาเข้าใจและใส่ใจสุขภาพกันตั้งแต่เด็กมากขึ้น เทรนด์เหล่านี้ยังหล่อหลอมให้พฤติกรรมที่รักสุขภาพตนเอง เพราะเราจะสามารถตรวจสุขภาพได้อย่างละเอียดผ่านอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ เช่น การวัดระดับน้ำตาลในเลือด, การตรวจหาความผิดปกติในร่างกาย และไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีการดูแลสุขภาพโดยใช้ AI ช่วยวินิจฉัยและแนะนำวิธีการรักษาเบื้องต้น สิ่งสำคัญที่อาจจะเห็นให้ชัดขึ้นคือ โรคที่เกิดขึ้นทางพันธุกรรมอาจจะมีการยับยั้ง แก้ไข และสามารถหาทางออกใหม่ๆ ให้แก่สุขภาพชีวิตของคนรุ่นนี้ได้ และแน่นอนว่า คนใน Gen Beta ต้องมีอายุที่เพิ่มขึ้นกว่าเก่า ด้านของสุขภาพจิต คน Gen Beta จะดีขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีทั้งหมดอาจส่งผลถึงการให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตที่ไม่ต่างกับสุขภาพกาย เชื่อว่าคน Gen Beta จะสามารถปรับตัวและมีความฉลาดทางอารมณ์ ที่สามารถปรับตัว ยืดหยุ่น และสามารถยอมรับความแตกต่างได้เป็นอย่างดี

ความสัมพันธ์และสังคม

ความคิดอันเป็รอิสระ และไม่ปิดกั้นความคิดของเด็กเจนเบตานี้ จะเปิดโลกไร้พรหมแดน เมื่อถึงยุคที่การสื่อสารสามารถติดต่อกันผ่านโลกเสมือนจริงได้ สิ่งนี้อาจจะทำให้คนสามารถพบปะกันได้โดยไม่ต้องเดินทาง อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนอาจเปลี่ยนไป โดยใช้เทคโนโลยีหรือ AI คู่หูหรือเพื่อนเสมือนที่เข้าใจความรู้สึก

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ด้านสังคมยังเป็นสิ่งที่น่าติดตามกับเด็กๆ เหล่านี้ แน่นอนว่าอาจจะมีการสร้างชุมชนเสมือนจริงตามความสนใจ (Virtual Communities) จะช่วยลดความโดดเดี่ยวและเพิ่มโอกาสในการสร้างเครือข่าย 

เด็ก Gen Beta อาจจะก่อเกิดสังคมใหม่ๆ ด้วยวิธีการใหม่ที่ทำให้พวกเขารู้จักและสนิทกันผ่านเทคโนโลยีแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การกล้าที่จะออกไปทำอะไรใหม่ๆ ผ่านเทคโนโลยี รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมที่มากขึ้น 

ความบันเทิงอันไร้ขีดจำกัด

โลกบันเทิงในอนาคตจะเน้นการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง เช่น การท่องเที่ยวในโลก VR ที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงวิดีโอเกมและสื่อบันเทิงแบบอินเทอร์แอคทีฟจะทำให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดด้วยเทคโนโลยี นอกจากนี้การบริโภคสื่ออาจเน้นไปที่คอนเทนต์ที่ปรับแต่งได้เฉพาะบุคคล แบ่งจำแนกตามความชอบและความสนใจ

ภาพ : istock