สสส. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิด 8 วิธีรักและดูแลตัวเอง ช่วยให้สุขภาพกายและจิตดีขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ ที่ชีวิตดีรับปี 2568
ปัจจุบันด้วยกระแสสังคม การงาน เศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ รอบด้าน สามารถเป็นมลพิษที่ก่อให้เกิดความเครียดที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจได้
ดังนั้นการรักและการเห็นคุณค่าในตัวเอง คือ หนึ่งในวิธีการรับรู้ถึงเหตุผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพื่อทบทวนและรู้จักคิดถึงความสุขของตัวเองก่อนลำดับแรกเป็นสำคัญ
ดังนั้นการรู้จักคิดถึงความสุขของตัวเองก่อน แล้วค่อยขยับไปเผื่อแผ่สู่ผู้อื่น คือ ความหมายของการรักและดูแลตนเองในอีกแง่มุม
ฤกษ์งามยามดี สำหรับช่วงปีใหม่ 2568 นี้ ที่จะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งเป้าหมายที่มีค่าให้กับตนเอง
ไทยรัฐออนไลน์ จึงได้นำวิธีรักและดูแลตัวเองจาก สสส. มาฝากทุกคน เพื่อปรับทิศทางชีวิตใหม่ให้ดีขึ้นเพื่อช่วยสุขภาพกายและจิตดีขึ้นรับปีที่กำลังจะถึงนี้
8 วิธีรักตัวเอง วางแผนสุขภาพกาย - ใจ รับปีใหม่ 2568
- รู้จักรักตัวเองก่อน
การให้ความสำคัญกับการรักตัวเอง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ตัวเรานั้นได้ทบทวนและรู้สึกถึงคุณค่าของชีวิตตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และความคิด
ดังนั้นหากเรารักและเข้าใจตัวเองแล้ว นอกจากจะช่วยสร้างความสุข สร้างความคิดใหม่ๆ และรอยยิ้มแล้ว เราจะสามารถรักและเข้าใจผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น ความรักที่มั่นคงและยั่งยืนจึงเกิดขึ้นได้
- หัวเราะและยิ้มให้บ่อยขึ้น
เคยสังเกตตัวเองหรือไม่ว่าเรายิ้มบ่อยแค่ไหน บางครั้งความเครียด ความทุกข์ ความกดดัน หรือปัญหาที่ถาโถมเข้ามาอาจจะทำให้เราไม่เคยมีรอยยิ้มหรือมีความสุขเลย
...
นอกจากจะรู้จักตัวเองแล้ว ควรหารอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่ตนเองบ้าง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ตัวอย่างเช่น การหาอะไรบันเทิงดู เพื่อให้หยุดความเครียดที่กำลังก่อตัวขึ้น ฝึกยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ กับคนอื่น อาจจะได้รับพลังงานดีๆ จากคนอื่นส่งต่อกลับมาได้เช่นกัน
- ตั้งเป้าให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่
ตลอดปีที่ผ่านมา เราเคยสังเกตไหมว่าร่างกายและจิตใจเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่มากแค่ไหน หลังจากการทำงานหนักหรือกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน
สิ่งนี้คือส่วนสำคัญที่จะทำให้สภาพร่างกายและจิตใจนั้นได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์เปรียบเสมือนการชาร์จพลังให้กับแบตเตอรี่ของร่างกาย เพื่อให้พร้อมสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดใสและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหลังจากเริ่มต้นปีใหม่ อยากให้ลดพฤติกรรมเดิมๆ ที่บั่นทอนสุขภาพกาย - ใจ ของเรา แล้วชวนมาเริ่มพักผ่อนให้เต็มที่กันเถอะ
- ลืมสิ่งแย่ๆ ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าทั้งปี เราต้องพบเจอกับสิ่งดีๆ สิ่งแย่ๆ มาอย่างมากมาย แน่นอนว่าเราควรจะจดจำแต่เรื่องดีๆ แต่บางครั้งสิ่งแย่ๆ กลับฉุดเราและสร้างความทุกข์ให้จนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นต้นปีใหม่นี้ ถือเป็นเวลาที่ดี ที่อยากชวนให้ทุกคนมาเริ่มตั้งเป้าลืมสิ่งแย่ๆ และรีเซ็ตตัวเองเพื่อรับสิ่งดีๆ ในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้
- กินแต่ของที่มีประโยชน์
การกินของที่มีประโยชน์ การรับสารอาหารที่ครบถ้วน นอกจากจะสามารถช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว สิ่งนี้ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจให้ได้รับผลกระทบดีไปด้วยได้เช่นกัน
- ไม่เข้าร่วมหรือฟังคำนินทาคนอื่น
การไม่เข้าร่วมหรือฟังคำนินทาคนอื่น เป็นการแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ และเคารพผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริมในสังคมปัจจุบัน เหตุผลที่ไม่ควรเข้าร่วมหรือฟังคำนินทา เพราะสิ่งนี้สามารถสร้างความเสียหายทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความแตกแยก เป็นการส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมลบในสังคม และทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจในกลุ่มคนที่มีส่วนร่วม
ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการพูดถึงและนินทาเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจิตอย่างมาก เพราะเราจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างบรรยากาศที่ดีในสังคม ซึ่งส่งผลต่อความสุขได้เป็นอย่างดี
- วางแผนการเงิน
การวางแผนและจัดการเงิน ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินของคุณดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา การที่เราสามารถเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ ส่งลูกเรียน หรือเกษียณอายุ สามารถส่งผลต่อความสุขได้อย่างมาก
ดังนั้นการวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้คุณควบคุมการเงินส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต สร้างสภาพจิตที่ดี สามารถนำไปต่อยอดในความสุขทางด้านอื่นได้
- พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่สบายใจ
สิ่งนี้คือช่วงเวลาในการสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขและผ่อนคลายให้กับตัวเอง สามารถทำได้โดยการพาตัวเองไปยังสถานที่หรือทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสบายใจและมีความสุขที่สุด ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ทำไมการไปอยู่ในที่ที่สบายใจจึงสำคัญ เพราะว่าสามารถลดระดับความเครียด ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย ชาร์จพลังงานให้กับร่างกายและจิตใจ
ทั้งหมดทำให้เรามีความสุขและพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในปีหน้าอย่างราบรื่น แถมยังอาจเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย
ภาพ : istock