เรื่องราวของ “พญานาค”...เป็นเรื่องที่คุ้นชินตามความเชื่อของผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงมานานแล้ว จนเกิดมีตำนานหรือเรื่องเล่าอัน เก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ไม่ว่าจะเป็นตำนานการเกิดแม่น้ำโขงที่มีตำนานของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของสองพญานาคและพญาแถน
แต่สำหรับ “ถ้ำนาคา” นั้น จะมีตำนานเป็นของตนเอง คือเรื่องราวของ “ปู่อือลือ” ที่ว่าท่านเป็นเทพเจ้าอยู่บนสวรรค์แต่ถูกสาปให้เป็นพญานาคมาปกครองเมืองบาดาลที่ซึ่งมีทั้งพญานาค มนุษย์อยู่ร่วมกัน
ปัจจุบัน เชื่อกันว่า...เมืองที่ว่านี้อยู่ที่บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
ครั้น...ต่อมามนุษย์และพญานาคเกิดมีจิตพิศวาสกันจน “มีอะไรๆ กัน” ท่านปู่อือลือเห็นว่าผิดจารีต ก็เลยลงโทษโดยสาปให้บริวารของตนกลายเป็นหินอยู่ในถ้ำที่อื่นๆในบึงกาฬเสียเลย
นี่คือเรื่องเล่าขานต้นตำนานยุคบุกเบิก “ถ้ำนาคา” อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ...เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธา ความเชื่อ ความลี้ลับในตำนาน “พญานาค” แห่งลำน้ำโขง
...
ถ้ำแห่งนี้อยู่ใกล้กับวัดถ้ำชัยมงคล การเดินไปให้ถึงจุดหมายต้องขึ้นบันไดสูงใช้เวลาเดินราวๆ ชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง ไฮไลต์สำคัญแห่งศรัทธานี้คือ รูปหินพญานาคขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีรูปทรงคล้าย งูยักษ์หรือพญานาคที่เปิดเผยให้เห็นทั้งส่วนหัว...ลำตัวกระทั่งเกล็ดชัดเจนตระการตาเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านโดยทั่ว
อาจารย์ชัยพร ศิริพรไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องถ้ำและนักธรณีวิทยาแถวหน้าเมืองไทย เล่าให้ฟังเป็นความรู้เอาไว้อีกว่า “ถ้ำนาคา” ว่ากันถึงตัวถ้ำเป็นเพียงจุดเล็กๆบนภูเขาหินทรายที่มีชื่อว่าภูลังกา ถ้ำนี้แม้จะเป็นถ้ำขนาดเล็ก และ การเข้าถึงต้องเดินขึ้นเขาจากวัดชัยมงคลขึ้นไปตามบันไดที่ชันมากหลายช่วง ประมาณไม่ต่ำกว่า 600 ขั้น และจะใช้เวลาเดินขึ้นจนไปถึงถ้ำประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ก็เป็นถ้ำที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
แล้วก็จริงอย่างที่คาด เมื่อวันเวลาผ่านไป “ถ้ำนาคา” ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากโดยเฉพาะผู้ที่มีความเชื่อศรัทธาเกี่ยวกับ “งูยักษ์” หรือ “พญานาค” ที่มีเกล็ดขนาดใหญ่ขดตัวเป็นหินอยู่ภายในตัวถ้ำ
“ถ้ำ...ไม่ใช่แค่รูในภูเขาแต่เป็นที่อยู่ที่มั่นคงแห่งแรกของมนุษย์ เป็นบ้านหลังแรกในยุคแรกๆ ก็อยู่กันตามถ้ำอาจจะโพรงเล็ก...โพรงใหญ่ที่สำคัญบริเวณที่เป็นหินปูนจะเป็นหุบเขาหลุมยุบที่เกิดขึ้นได้จากธรรมชาติ
...สมมติว่ามีถ้ำอยู่ตรงกลางพอพัฒนานานๆ หลังคาถ้ำพังก็กลายเป็นที่ราบ ด้านข้างก็เป็นหน้าผาสูง พบว่าตามหน้าผาสูงๆ จะมีรูอยู่ รูเหล่านี้มักจะพบหลักฐานทางโบราณคดีมากมาย”
พลิกแฟ้มตำนานท้องถิ่น “ปู่อือลือ” ที่มีความเกี่ยวข้องกับ “บึงโขงหลง” ซึ่งมีความเชื่อว่า เกิดจากการถล่มทำลายเมืองรัตพานคร โดยฤทธิ์ของพญานาคราช โดยมีต้นเหตุซึ่งเกิดจากความรักความสัมพันธ์ ระหว่างพญานาคกับมนุษย์มีจุดจบทำให้ “เมืองรัตพานคร” ที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลายกลายเป็นบึงใหญ่
...มีนามว่า “บึงโขงหลง”
บึงโขงหลงในปัจจุบันในอดีตเป็นที่ตั้งเมืองชื่อ “รัตพานคร” มี “พระเจ้าอือลือราชา” เป็นเจ้าผู้ครองนคร มีพระมเหสีชื่อ “พระนางแก้วกัลยา” และมีพระธิดาชื่อ “พระนางเขียวคำ”
...
ต่อมา...พระนางเขียวคำได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อ เจ้าชายฟ้ารุ่ง (ฟ้าฮุ่ง) ซึ่งเป็นผู้ที่มีพระสิริโฉมสง่างาม ทรงมีพระอัจฉริยภาพ มีความเฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ในสรรพวิชามาก ขณะประสูติมีท้องฟ้าสว่างไสวใกล้อรุณรุ่ง...ส่วนเมืองบาดาลมี พระนางนาคริน ทรานี เป็นพระธิดาพญานาคราชแห่งเมืองบาดาลได้ยินข่าวเจ้าชายได้แปลงกายเป็นมนุษย์ ติดตามเฝ้าดู จนมีดวงจิตเสน่หาซึ่งกันและกัน
สุดท้ายมีพระราชพิธีอภิเษกสมรสอย่างยิ่งใหญ่มโหฬาร ทั้งเมืองบาดาลนาคนคร และเมืองมนุษย์ (รัตพานคร) โดยมีการฉลองสมโภชเนื่องในพระราชพิธีฉลองการอภิเษกสมรส ถึง 7 วัน 7 คืน
ครองรักกันมาเป็นเวลา 3 ปีด้วยความสุข...แต่ก็ไม่สามารถจะมีบุตรสืบสายสกุลได้ จึงทำให้เกิดโทมนัสบังเกิดขึ้นกับท่านและพระญาติทั้งสองฝ่าย ต่อมาพระนางนาครินทรานีเกิดประชวร ทำให้ร่างกายของพระนางที่แปลงเป็นมนุษย์กลายสภาพเป็นนาคตามเดิมตามชาติกำเนิดตน...ที่สุดแล้วก็ต้องมีอันให้แยกจากกัน
เรื่องราวบางเรื่อง พลังบางอย่างที่หลายๆคนสัมผัสได้เป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายให้คนอื่น เข้าใจรับรู้ได้เหมือนๆกัน บางคนก็ว่าเป็นผลมาจากสัมผัสการรับรู้เหนือธรรมชาติ การฝึกปฏิบัติในญาณสมาธิ ฯลฯ
...
เรื่องราวเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้กับผู้ที่มาเยือน “ถ้ำนาคา” ที่หลายๆคนก็บอกไม่ได้ว่าทำไมจึง ต้องมา ทำไมจึงต้องดั้นด้นมาดูให้เห็นกับตา มาได้สัมผัสของจริงกันถึงสถานที่แห่งนี้ซึ่งล้วนแล้วเป็นเรื่องของศรัทธาทั้งสิ้น
“ปู่อือลือนาคราช” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนทั้งในและนอกพื้นที่บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ให้ความศรัทธาความเคารพอย่างมาก ด้วยมีความเชื่อเชื่อมโยงเกี่ยวกับพญานาคว่าเป็นผู้รักษาทรัพย์สมบัติมหาศาล ดลบันดาลให้ “ผู้ศรัทธา...บูชา” จะได้มีทรัพย์สินเงินทอง ได้โชคได้ลาภตามตั้งใจหวัง
บูชาปู่อือลือ ด้วยการจุดธูป 9 ดอก หรือจุดกำยาน 1 ดอก น้ำเปล่าสะอาด 1 แก้ว (เปิดจากขวดใหม่เท่านั้น) ดอกไม้ แนะนำดอกบัวสีขาว
(ตั้งนะโม 3 จบ) “คาถาบูชาปู่อือลือ” เอหิสังคัง ปิโยนาคะ สุปันนานัง นะมามิหัง กายะ วาจะ จิตตัง อหังวันทา อือลือนาคราชราชา วิสุทธิเทวาปูเชมิ เมตตัญจะ มหาลาโภ ปิโยนาคะ ขันธะปะริตตัง
ลูกชื่อ...(เอ่ยชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และที่อยู่ปัจจุบัน) ลูกขอบารมีปู่ช่วย...(กล่าวเรื่องที่อยากให้ปู่อือลือช่วยเหลือและขอพร) เมื่อลูกได้รับดังพรที่ขอแล้ว ลูกจะ...(เอ่ยถึงความดีที่เราจะถวายอุทิศปู่อือลือ เช่น ทำทาน ถวายสังฆทาน, ถวายบายศรี, ถือศีล หรือถวายปัจจัยสร้างโบสถ์)
...
เพื่อเป็นบุญหนุนนำให้บารมีและภพภูมิปู่สูงยิ่งๆขึ้นไป สาธุ สาธุ สาธุ
ว่ากันถึง...เคล็ดลับในการขอพร “ปู่อือลือ” ข้อแรก...ไม่ควรใช้คำว่าบนบาน แต่หากสำเร็จจะทำความดีถวายแทน ข้อถัดมา...ระบุรายละเอียดการขอพรให้ชัด ไม่ควรพูดกว้างจนเกินไปและไม่ควรขอหลายเรื่อง
ข้อสุดท้าย...ควรขอในเรื่องที่ดี นำพาไปสู่ความเจริญ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดศีลธรรม ตลอดการไหว้ต้องสำรวมกาย วาจา ใจ มีความนอบน้อม เพื่อแสดงถึงความเคารพศรัทธาท่านด้วยใจจริง
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม